ทนายแม้วฝาก หน.ปชป.มีน้ำใจนักกีฬา ปล่อยนายกฯ บริหารประเทศ เตือนลูกพรรคหยุดเคลื่อนไหวม็อบ อ้างค้านนิรโทษฯ ใจดำเสื้อแดงมากไป
วันนี้ (2 ส.ค.) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ควรหยุดสร้างความขัดแย้งในบ้านเมือง โดยควรจะปรามสมาชิกของพรรคให้ยึดมั่นในกติกาประชาธิปไตย ไม่ใช่ตั้งเวทีบิดเบือนความจริง และปล่อยให้ลูกพรรคประกาศบนเวทีว่าจะไปนำม็อบมาล้มรัฐบาล ซึ่งถือว่าไม่เคารพกติกาประชาธิปไตย และการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ควรมีสำนึกว่าตนเองเคยสร้างความขัดแย้งทางการเมืองในปี 2548 โดยประกาศบอยคอตการเลือกตั้ง และขอนายกพระราชทานตามมาตรา 7 และในปี 2551 ก็อยากจะเป็นนายกฯ ทั้งๆ ที่ไม่มีความชอบธรรม และพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเสียงข้างมากในสภา แพ้การเลือกตั้งเพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการเห็นนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็พยายามทุกวิถีทางที่จะตั้งรัฐบาลที่ฝืนความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่ จึงมีการประท้วงและนำสู่ความขัดแย้งในบ้านเมือง จนมีการสลายการชุมนุมและมีคนล้มตายและบาดเจ็บจำนวนมากในปี 2553
ตนจึงขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ แม้ในอดีตจะไม่ได้เข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวิถีทางที่ควรจะเป็น แต่นายอภิสิทธิ์ควรจะมีน้ำใจนักกีฬาที่จะให้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์บริหารประเทศตามเจตนารมณ์ของประชาชนที่มอบเสียงข้างมากให้กับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา และหลีกเลี่ยงการก่อความขัดแย้งทางการเมืองขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการไม่สนับสนุนสมาชิกของตนในการนำม็อบเคลื่อนไหวนอกสภาเพราะพรรคประชาธิปัตย์เคยบอกเองไม่ใช่หรือว่าเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา หรือตอนนี้เวลาเปลี่ยนอุดมการณ์เปลี่ยนไปแล้ว อยากถามว่าเชื่อมั่นในระบอบประท้วงบนท้องถนนใช่หรือไม่
ส่วนที่นายอภิสิทธิ์บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณเห็นแก่ตัว จึงมีการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมในสภาอยู่ในขณะนี้นั้น ความจริงคำนี้น่าจะเหมาะกับนายอภิสิทธิ์มากกว่าและควรจะรู้ตัวเองว่า เทียบอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เลย เพราะคนยังจำผลงานของ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ 30 บาทรักษาทุกโรค สนามบินสุวรรณภูมิ เอสเอ็มแอล โอท็อป แต่ผลงานของนายอภิสิทธิ์ที่ประชาชนจำได้เห็นจะมีแต่การแจกเช็ค 2,000 บาท ผลงานสลายการชุมนุมที่มีคนตายไปกว่า 90 คน และผลงานบอยคอยการเลือกตั้ง จึงถามว่าการอยากเป็นนายกฯ ทั้งๆ ที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เลือก เป็นการเห็นแก่ตัวหรือไม่
“การเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมในสภาอยู่ในขณะนี้ ไม่ได้ยกโทษให้แกนนำและคนอื่นๆ ฉะนั้นการคัดค้านของนายอภิสิทธิ์จะใจดำกับประชาชนมากเกินไป เพราะการนิรโทษกรรมจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปรองดองที่คนไทยจะหันหน้าเข้าหากัน ให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า” นายนพดล กล่าว