รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เผยเหตุไฟไหม้โรงรถทำเนียบ 2 ทุ่มวานนี้ โชคดีดับทัน คาดมีคนสูบบุหรี่ในห้องน้ำแล้วทิ้งก้นลงบานเกล็ดไปโดนกองกระดาษ เชื่อไม่ได้ตั้งใจ โวยเจ้าหน้าที่ปล่อยหน้ากากขาวขี่จักรยานเที่ยว จ่อเล่นงานข้อหาบุกรุก พร้อมฟัน รปภ.ด้วย เชื่อม็อบไม่แรง
วันนี้ (2 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้เข้าตรวจสอบบริเวณโรงจอดรถทำเนียบรัฐบาล หลังมีรายงานว่า ช่วงค่ำวานนี้ (1 ส.ค.) ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณโรงจอดรถทำเนียบรัฐบาลที่ติดกับตึกบัญชาการ 2 แต่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยกล่าวว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ในเวลา 20.10-20.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่บริเวณสะพานอรทัยได้สังเกตเห็นกลุ่มควัน จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาลเพื่อช่วยกันควบคุมเพลิง โดยใช้เครื่องดับเพลิงแบบติดตั้งมาสกัดไว้ได้ จากนั้นได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตรียมรถดับเพลิงไว้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุลุกลาม
พล.ต.ท.ธวัชกล่าวต่อว่า เมื่อพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาดูที่เกิดเหตุ รวมถึงเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าฯ ก็ได้ยืนยันว่าเหตุดังกล่าวไม่ได้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่น่าจะเกิดจากสะเก็ดไฟหรือทำให้ติดไฟขึ้นจากวัสดุที่อยู่ด้านข้าง และหลังจากดูที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ระหว่างกำแพงทำเนียบรัฐบาล และห้องน้ำของอาคารจอดรถที่ติดกับตึกบัญชาการ 2 คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากมีคนเข้าไปใช้ห้องน้ำแล้วสูบบุหรี่ และทิ้งก้นบุหรี่มาทางบานเกล็ด ลงบนกองกระดาษที่แม่บ้านเก็บไว้ด้านหลัง จึงทำให้มีประกายไฟลุกขึ้น และเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากคนที่ประมาท มักง่าย ทั้งนี้ในส่วนของระเบียบปฏิบัติในการใช้สถานที่ก็ต้องหารือและประสานร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งยืนยันว่าเหตุดังกล่าวไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ต้องการก่อวินาศกรรมแต่อย่างใด
เมื่อถามว่าจะมีการเข้มงวดการดูแลรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้นหรือไม่ เนื่องจากเมื่อวานที่ผ่านได้มีกลุ่มหน้ากากขาวเข้ามาในทำเนียบ รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า ตนได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และจากการสอบสวนพบว่าบุคคลดังกล่าว ชื่อ นายยุทธนา โสมะภีร์ อายุ 41 ปี มีอาชีพค้าขายอยู่ที่ตลาดเทเวศร์ ปั่นจักรยานเข้ามาทางสะพานอรทัย และเอาหน้ากากขาวซ่อนไว้ด้านหลัง จึงทำให้เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ภายในทำเนียบรัฐบาลที่จะออกกำลังกาย เมื่อเข้ามาแล้วก็ได้นำหน้ากากขาวที่ซ่อนไว้มาแขวนไว้ที่ตะกร้าหน้ารถ จึงถือว่าการที่ไม่ได้ตรวจสอบอย่างชัดเจนถือเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ จากนี้ก็ต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดในการปฏิบัติงานมากขึ้น และจะพิจารณาข้อบกพร้องทางวินัยกับผู้ปฏิบัติทั้ง 2 เหตุการณ์อย่างแน่นอน ส่วนนายยุทธนานั้นก็ถือว่ามีความผิดในข้อหาบุกรุกก็จะมีการดำเนินการต่อไปด้วย
พล.ต.ต.ธวัชยังได้กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในขณะนี้ว่า ไม่น่าจะมีความรุนแรง เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมที่ท้องสนามหลวงได้ถอนตัวออกไปแล้ว และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ยังคงรอดูท่าทียังไม่แสดงเจตจำนงในการเข้าออกมาชุมนุม แต่การรับมือการชุมนุมของทุกกลุ่มจะต้องไม่ประมาท หากเราเตรียมการตั้งรับดีก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่หากไม่มีการเตรียมความพร้อมสถานการณ์จะขยายใหญ่ขึ้นมาได้ซึ่งก็เหมือนกับการควบคุมเพลิงไหม้หากควบคุมได้ตั้งแต่ต้นก็จะไม่ร้ายแรง พร้อมทั้งระบุว่ายังไม่มีกระแสข่าวว่าจะมีการก่อความวุ่นวานในพื้นที่ที่ไม่ได้ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง แต่อย่างใด
เมื่อถามว่า ขณะนี้ได้มีได้มีการเคลื่อนตัวของประชาชนจากต่างจังหวัดเข้ามาในกรุงเทพฯจนเป็นที่ผิดสังเกตหรือไม่ พล.ต.ต.ธวัชกล่าวว่า ทางด้านการข่าวก็ได้มีการติดตามการเคลื่อนไหวของประชาชนอยู่ และได้รับรายงานว่าในส่วนของภาคใต้ ที่เป็นฐานเสียงของฝ่ายค้าน ได้มีการเคลื่อนไหวรวมคนและทยอยคนเข้ามาแล้ว แต่ไม่ได้รวมตัวมาเป็นกลุ่มก้อน เป็นการกระจายเข้ามา และมีจำนวนไม่มากนัก