xs
xsm
sm
md
lg

“ประชา” ยันคุมม็อบตาม กม. ปัดใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ จำกัดสิทธิ คุย รบ.ทำเศรษฐกิจดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี(แฟ้มภาพ)
เด็ก พท.ชงกระทู้สดถามการรับมือม็อบของ รบ. รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงแจง รบ.คำนึงหลายประการ ประสานหน่วยเกี่ยวข้องจัดการ ย้ำคุมม็อบตาม กม.เบาไปหาหนัก ปัดออก พ.ร.บ.มั่นคงฯ จำกัดสิทธิ อ้างเพื่อป้องกันเหตุ ยันไม่ใช้อาวุธ ยกคำพูดผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ชู รบ.ปูทำเศรษฐกิจดีขึ้น

วันนี้ (1 ส.ค.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดเรื่องการชุมนุมของประชาชนภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ ว่าจะมีม็อบของประชาชนที่ไม่เห็นด้วยมาชุมนุมประท้วงรัฐบาลช่วงสภาประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตนจึงอยากถามว่าทางรัฐบาลจะดูแลและอำนวยความสะดวกอย่างไร อีกทั้งจะมีมาตรฐานการควบคุมการชุมนุมของประชาชนอย่างไร

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ในการชุมนุมครั้งนี้ทางรัฐบาลคำนึงหลายประการ ตั้งแต่การดูแลความปลอดภัย การอำนวยความสะดวก การดำเนินชีวิต ซึ่งได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ กทม.ซึ่งต้องดูแลความสะอาดและสาธารณสุข อีกทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้มีการจัดกองกำลัง อีกทั้งยังมีหน่วยงาน ศอ.รส.เพื่อควบคุมการชุมนุมให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ตามกฎหมาย และอยากเรียนว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่ออก พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ

พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า เพื่อทำความเข้าใจอยากกราบเรียนสาระสำคัญของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯว่าเจตนารมณ์ที่ออกมาเพื่อป้องกันการระงับเหตุ หรือแก้ไขปัญหาเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น ไม่ได้ออกมาเพื่อจำกัดสิทธิของประชาชน สำหรับมาตรการควบคุมดูแลประชาชนในการแสดงความคิดเห็นตามกรอบกฎหมายหลักปฏิบัติของหน่วย ศอ.รส.ของหน่วยความมั่นคงภายใน ตามกรอบของกฎหมาย ในมาตรา 3 ระบุไว้ชัดเจนว่า ต้องเป็นไปเพื่อป้องกัน ควบคุม แก้ไขเป็นสำคัญ ดังนั้นการป้องกันในเหตุที่จะเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ใช้หลักการนั้น ทั้งนี้ยืนยันว่าการดำเนินการเป็นไปตามกรอบกฎหมายและใช้มาตรการจากเบาไปหนัก สิ่งสำคัญที่สุด คือตำรวจจะไม่ใช้อาวุธโดยเด็ดขาด เพราะการใช้อาวุธนำไปสู่ความรุนแรง

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า หากบ้านเมืองเดินหน้าเป็นไปได้ด้วยดีหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่จากคำพูดของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาระบุว่า สองไตรมาสที่ผ่านมาภายใต้การบริหารแผ่นดินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้านเศรษฐกิจท่องเที่ยวเพิ่มรายได้สูงขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ และมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 2,100,000 คนในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ส่วนภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และการเกษตร โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมยานยนต์เติบโตขึ้นมาก ยอดจำหน่ายรถยนต์เพิ่มมากขึ้นเป็นเพราะรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมด้วย ประมาณการณ์ตัวเลข 1,300,000 คัน  ส่วนด้านอสังหาริมทรัพย์ได้ข้อมูลจากองค์กรและภาคเอกชนว่า 6 เดือนที่ผ่านมาเติบโตขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการเก็บภาษีของกระทรวงการคลังเก็บมากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 8 หมื่นล้านบาท หรือ 5.3 เปอร์เซ็นต์


กำลังโหลดความคิดเห็น