“นายกฯ” เลี้ยงอาหารละศีลอดเดือนรอมฎอน ยันรัฐบาลหนุนมุสลิม ยึดหลักคำสอนตามหลักศาสนา หวังใช้ความรัก-สามัคคี-เอื้ออาทร เพื่อสังคมสันติสุข
วันนี้ (25 ก.ค.) เมื่อเวลา 19.15 น.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เป็นเจ้าภาพงานละศีลอด เดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1434 โดยมีนายอาศิล พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี บรรดารัฐมนตรี อาทิ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ ทูตานุทูตประเทศอิสลามที่ประจำในประเทศไทย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา นายมุข สุไลมาน นักการเมืองกลุ่มวาดะห์เข้าร่วมงาน
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงานว่า ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวไทยมุสลิมที่ได้มีโอกาสปฏิบัติศาสนกิจเดือนรอมฎอน อันเป็นเดือนการสร้างกุศลบำเพ็ญคุณงามความดีเพื่อสิริมงคลแก่ชีวิต เดือนรอมฎอนมีความสำคัญเป็นช่วงเวลาอันประเสริฐที่พระผู้เป็นเจ้าจะได้ประทานพระคัมภีร์อัลกุรอานแก่ศาสดามูฮัมหมัดเพื่อนำไปเผยแพร่ยังมนุษยชาติที่พี่นี่น้องมุสลิมได้ยึดถือปฏิบัติในการถือศีลอด ชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ต่อสู้กับความหิวกระหายและความต้องการของร่างกาย และจิตใจด้วยศรัทธาที่แรงกล้า การปฏิบัตินี้ต้องเข้าถึงจิตใจและความรู้สึกที่ยากไร้แก่เพื่อนมนุษย์ นอกจากนี้ยังเป็นช่วงเวลาดีที่จะได้มีโอกาสศึกษาพระคัมภีร์เพื่อจะได้ระลึกถึงสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าได้ประทานไว้แก่มวลมนุษยชาติอย่างถ่องแท้ ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้ชาวไทยมุสลิมได้ประพฤติปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนของทางศาสนาด้วยจิตใจที่มีแต่ความมุ่งมั่น สักการะต่อพระผู้อภิบาลและดำเนินการตามคำสอนของศาสดามูฮัมหมัด อันเป็นที่ยอมรับของบรรดามุสลิมทั่วโลก ซึ่งหลักคำสอนมีเป้าหมายสร้างคุณภาพชีวิตจิตใจคุณธรรม ความรัก ความสามัคคี ความเอื้ออาทรแบ่งปันให้แก่เพื่อนมนุษย์ เพื่อจะได้นำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขของสังคม
ขณะที่จุฬาราชมนตรีกล่าวว่า รอมฎอนเป็นเดือนอันประเสริฐในการก่อคุณงามความดี และการศึกษาพระคำภีร์ ตลอดจนการกระชับความสัมพันธ์ เป็นเดือนแห่งการเปลี่ยนพฤติกรรม อย่างไรก็ตาม ขอบคุณนายกฯ และรัฐบาลที่หยิบยื่นไมตรีจิตแก่ชาวมุสลิม ขอบคุณในความปรารถนาดี ครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ มีทูตานุทูตนานาประเทศเข้าร่วมด้วย จึงเป็นการเสริมสร้างความสำพันธ์ระหว่างประเทศให้แน่นแฟ้นมากขึ้นขอพระอัลเลาะห์ประทานพรความสำเร็จในชีวิตด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้สวมผ้าปะลางิง เป็นผ้าทอมือที่ชาว จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ทอขึ้นเพื่อมอบให้เป็นของที่ระลึกเพื่อแสดงความจริงใจของผู้ให้แก่ผู้รับ ปัจจุบันได้มีการรวมตัวของกลุ่มสตรีในพื้นที่เพื่อทอผ้าปาละงิงจำหน่ายเป็นสินค้าโอทอปและเป็นการอนุรักษ์ผ้าพื้นเมืองเข้าร่วมงานละศีลอดดังกล่าว