พท. ยกมติเดิมหนุนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับ ส.ส.เสื้อแดง พิจารณาวาระแรกในการประชุมสภา 7-8 ส.ค.นี้ อ้างเพื่อแก้ปัญหาประเทศ แต่ไม่กำหนดกรอบวันแล้วเสร็จ ปฎิเสธรีบนำเข้าสภาฯเพื่อเอาใจสาวกแดงให้มาช่วยต้านกลุ่มที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล คาดพรรคร่วมรัฐบาลเห็ด้วย ส่วนร่างพ.ร.บ.งบประมาณ คาดเข้าสภาฯ 14-15 ส.ค.
ที่พรรคเพื่อไทย วันนี้ (24 ก.ค.) นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทยและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รองหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล( วิปรัฐบาล) และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงถึงผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) พรรคได้เรียกสมาชิกพรรคและเลขาธิการพรรค รวมทั้งในส่วนของรัฐสภาและส่วนของรัฐบาล มาร่วมหารือพูดคุยถึงสถานการณ์ทั่วไปทางการเมืองและการติดตามวาระการทำงาน รวมทั้งพิจารณาร่างกฎหมายที่ค้างสภาในการจัดวาระ โดยพรรคขอยืนยันมติเดิมในการสนับสนุนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ให้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาวาระแรก ของการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปวันที่ 1 ส.ค.นี้ ตามกำหนดเดิม ซึ่งจะสามารถพิจารณาได้ในวันที่ 7-8 สิงหาคมนี้ ซึ่งถือเป็นกระบวนการในการพิจารณากฎหมายของสภาตามปกติ ในการแก้ปัญหาของประเทศ
ทั้งนี้เป็นไปเพื่อลดความขัดแย้ง เพื่อให้เกิดความชัดเจนและมุ่งสู่การคลี่คลายปัญหาในสังคม โดยการนิรโทษกรรมให้ทุกฝ่ายทุกสีเสื้อโดยไม่เกี่ยวกับแกนนำ เนื่องจากเนื้อหาของร่างฉบับดังกล่าวมีการนิรโทษให้กับประชาชนทุกฝ่าย พร้อมกันนี้ยังได้มอบหมายให้แกนนำพรรคและประธานวิปรัฐบาลไปทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรค โดยพรรคเพื่อไทยจะแจ้งมติต่อที่ประชุมพรรคในวันอังคารที่ 30 ก.ค. และชี้แจงพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป ซึ่งเชื่อว่าพรรคร่วมจะเห็นด้วยกับมติของคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค
อย่างไรก็ตามวิปรัฐบาลก็จะมีการประชุมร่วมกันในเช้าวันนี้ และยืนยันตามมติสภาที่ได้เคยมีมติไว้ให้พิจารณาร่วมกัน โดยเมื่อสภาเปิดในวันที่ 7 ส.ค. ก็จะมีการพิจารณาร่างนิรโทษกรรมซึ่งเป็นกฎหมายที่ค้างอยู่ในสภา
ด้านนายจารุพงศ์ กล่าวว่า กฎหมายนิรโทษกรรมเป็นสิ่งที่ทำมาตั้งแต่ในอดีต จนถึงปัจจุบันมีกว่า 22 ฉบับแล้ว ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เพราะเมื่อมีการทำรัฐประหารหรือการเมืองมีปัญหาเกิดขึ้นจนหาทางออกไม่ได้ก็ต้องแก้ด้วยการนิรโทษกรรม โดยขอพูดให้คนที่เกิดไม่ทันได้รับรู้ไว่ว่าบ้านเมืองเมื่อเกิดปัญหาก็ต้องหาทางออกและจากการจัดเวทีเสวนาที่กระทรวงมหาดไทยจัดขึ้น ได้สอบถามความเห็นจากประชาชน 75,000 ตัวอย่าง รวมถึงการศึกษาของคณะกรรมาธิการต่างๆ รวมทั้งสถาบันการศึกษา ผลสรุปภาพรวมอยากเห็นสมควรให้มีการนิรโทษกรรมจึงเป็นที่มาและเหตุผลในการผลักดัยกฎหมายดังกล่าวเพื่อขับเคลื่อนประเทศต่อไป
ส่วน นายพร้อมพงศ์ กล่าวเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมขบวนรถไฟสายปรองดองด้วยกัน โดยขอให้สนับสนุนและอย่าขัดขวางการทำหน้าที่ของรัฐบาลเพื่อสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น
ขณะที่นายอุดมเดช กล่าวว่า กฎหมายนิรโทษกรรม ถูกเลื่อนขึ้นให้มาอยู่วาระแรก ในวันพุธที่ 7 สิงหาคมนี้ ถ้าไม่มีกฎหมายอืนที่สำคัญกว่าเข้ามาก็จะเป็นการพิจารณาพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะถูกบรรจุอยู่ในวาระแรกอยู่แล้ว และถึงขณะนี้ก็ไม่พบว่ามีกฎหมายใดที่สำคัญไปกว่าพ.ร.บ.นิรโทษกรรม และจากนี้ให้วิปรัฐบาลไปดำเนินการทำความเข้าใจต่อ โดยขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นการทำเพื่อหวังดึงมวลชนที่สนับสนุนพรรคแต่อย่างใด ส่วนข้อถกเถียงที่ผ่านมาถือเป็นสีสันทางการเมืองของระบอบประชาธิปไตยและหลังจากที่มีการทำความเข้าใจแล้วความสับสนก็จะคลี่คลาย พร้อมทั้งเชื่อว่าจะไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆเกิดขึ้นหลังจากพิจารณาร่างดังกล่าวในวาระแรก
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคต้องการหลบเลี่ยงมวลชนที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลใมนขณะนี้หรือไม่ นายอุดมเดช กล่าวปฎิเสธ พร้อมระบุว่า มีการผลักดันร่างนี้ตั้งแต่ก่อนปิดประชุมสภาแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะเอากฎหมายอื่นมาทดแทน เมื่อถามถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้ที่มีความพยายามผลักดันร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ก่อนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม นายอุดมเดช กล่าวว่าเป็นเรื่องของหลักการ ที่ยังไม่ได้มีการลงในรายละเอียดปลีกย่อย ซึ่งขณะนี้ก็มีความชัดเจนแล้วว่าวันที่ 14 - 15 สิงหาคม จะเป็นการพิจารณาร่างงบประมาณฯ และวันพุธที่ 7-8 ก็เป็นการพิจารณากฎหมายที่เลื่อนขึ้นมาคือพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม เป็นเจตนารมณ์ของพรรคมาแต่เริ่มต้น มีความจำเป็นต้องดูแลประชาชน ที่มาชุมนุมเพื่อประชาธิปไตย ส่วนที่มีการเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมของฝ่ายอื่นเข้ามา โดยเฉพาะฉบับประชาชน อาจจะต้องใช้เวลาในการพิจารณานาน
ส่วนที่มีร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขฉบับของญาติวีรชนเม.ย.-พ.ค. 2553 และพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ก็ให้การสนับสนุน นอุดมเดช กล่าวว่าต้องดูว่าสนับสนุนเป็นการเมืองหรือเปล่า ปากบอกสนับสนุนแต่ยังมีคำว่าแต่ ถ้าสนับสนุนก็อย่ามีคำว่าแต่ ประเด็นร่างนิรโทษกรรมฉบับประชาชนก็จะต้องมีขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญที่จะต้องตรวจสอบรายชื่อไม่น้อยกว่า 3-4 เดือน ดังนั้นกระบวนการมีอยู่ ถ้าหลักการตั้งใจดูแลพี่น้องประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยก็เป็นที่ยอมรับสังคมแล้ว ทั้งนี้ในชั้นกรรมาธิการยังเปิดให้ตัวแทนทุกคนเข้ามาร่วมได้อยู่แล้วโดยเปิดโอกาสให้ทุกคน
ส่วนที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเสนอร่างนิรโทษกรรมของพรรคประกบพร้อมเรียกร้องพรรคเพื่อไทยเสนอร่างของพรรคด้วยนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าคำนึงถึงความขัดแย้งในสังคม เมื่อดูร่าง พ.ร.บ.นิรโทษ ฉบับ นายวรชัย เหมะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ต้องการนิรโทษกรรมให้ประชาชนที่ประสบชะตากรรมจากความขัดแย้งทางการเมือง ดังนั้นคนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือประชาชนทุกฝ่ายในการเสนอนิรโทษกรรมฉบับนี้ ไม่ได้มุ่งหวังคลี่คลายปัญหาของแกนนำ เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่มีการสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลล์ต่างๆ ที่ทุกคนอยากเห็นความขัดแย้งในสังคมไทยยุติลง การผลักดันร่างนี้จึงเป็นไปตามที่ได้บรรจุระเบียบวาระ หากพรรคประชาธิปัตย์จะผลักดันร่างนิรโทษกรรมขึ้นมาอีกก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภาหากมีวัตถุประสงค์เพื่อพี่น้องประชาชนด้วยเจตนาที่ดีก็ไม่น่าจะมีอะไรต้องขัดข้อง เว้นแต่จะมีการดำเนินการด้วยจุดประสงค์อื่นเช่น ความต้องการล้มรัฐบาล
เมื่อถามว่าเป็นการทำเพื่อรักษามวลชน ระหว่างที่เสถียรภาพเริ่มสั่นคลอนหรือไม่ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคไม่ได้มุ่งหวังรักษามวลชน แต่ต้องการรักษาสันติสุขในสังคมไทย วันนี้ประชาชนผู้มาชุมนุมได้รับความเดือดร้อน จากการบังคับใช้กฎหมายที่ออกมาหลังรัฐประหาร
ผู้สื่อข่าวถามว่ากระบวนการและระยะเวลาการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมตั้งแต่วาระแรกจนถึงการประกาศบังคับใช้นานแค่ไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า การพิจารณาวาระแรก ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 7-8 ก.ค.นี้ ยังไม่ได้กำหนดระยะเวลาที่ใช้ในการอภิปราย ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ถ้ายังหาข้อสรุปไม่ได้แล้วไปสรุปก็จะเป็นปัญหาอีก เหมือนที่เกิดขึ้นในอดีต เมื่อถามย้ำว่าถ้าฝ่ายค้านจะอภิปรายแบบละเอียดและใช้เวลานานเหมือนกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามเหตุและผล อีกทั้งเป็นหน้าที่ของประธานที่ประชุมจะควบคุมการประชุม
ส่วนในการตั้งกรรมาธิการวิสามัญจะเปิดให้คนนอกที่เป็นคู่ขัดแย้งเข้ามาร่วมด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นรายละเอียดที่จะต้องพูดคุยในวาระ 2
ด้าน นายจารุพงศ์ กล่าวถึงสถาณการณ์ทางการเมืองต่อไปว่าจะไม่รุนแรงตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ เพราะความรุนแรงไม่ได้เกิดมาจากรัฐบาล เว้นแต่ฝ่ายที่ต้องการล้มรัฐบาลอยากจะให้เกิดความรุนแรงขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้รัฐบาลก็ต้องไม่ประมาทต้องควบคุมสถานการณ์ ไม่ให้เกิดข้อเรียกร้องจนนำไปสู่ความขัดแย้ง
“ถามว่าวันนี้ไม่เอานิรโทษกรรมแล้วจะเอาอะไร 7 ปีแล้ว ความขัดแย้งยังอยู่ไม่เหนื่อยบ้างหรือ ถามว่าทำแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะได้ประโยชน์ วันนี้ไม่เห็นได้อะไรมีแต่เสียประโยชน์ คนที่พูดว่าไม่เอานิรโทษแล้วจะเอาอะไร เราพยายามเสนอเพื่อหาข้อยุติ เราอยากจบแล้ว ท่านไม่อยากบ้างหรอ”
นายจารุพงศ์ กล่าว ว่าในงานวันคล้ายวันเกิดพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เตรียมเซอร์ไพส์อะไรเป็นพิเศษ เพราะติดภาระกิจที่ต้องทำที่ต่างจังหวัด แต่ในช่วงค่ำอาจไปร่วมงานเลี้ยงที่ทางแกนนำพรรคเพื่อไทยจัดขึ้นตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อร่วมฉลองและอวยพรวันเกิดให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา