"ปู" กู่ไม่กลับ ปลายปียิ่งสาหัส !!

เกาะกระแส

00 สังเกตหรือไม่ว่าเวลานี้ไม่ว่าสำรวจความเห็นของชาวบ้านจากทุกสำนักล้วนออกมาในทางเดียวกันคือ "ไม่เชื่อถือเรื่องความสุจริต" ของรัฐบาลมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เห็นชัดๆก็คือกรณี "ข้าวเน่า" จากโครงการรับจำนำข้าว ต่อเนื่องไปจนถึงเปอร์เซ็นต์ของคนที่ไม่เชื่อถือเรื่องผลการตรวจสอบเรื่อง "สารปนเปื้อน"ในข้าวโดยหน่วยงานของรัฐ โดยชาวบ้านเชื่อมั่นหน่วยงานจากข้างนอกมากกว่า ซึ่งหากระบุให้ชัดก็คือเชื่อมั่น "มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค" มากกว่า กรณีไปตรวจพบสารปนเปื้อนในข้าวถุงยี่ห้อต่างๆเมื่อวันก่อน ทำให้ชาวบ้านได้ทราบว่าแต่ละยี่ห้อมีปริมาณสารตกค้างจำนวนเท่าใด แม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่มีปริมาณมากจนถึงขีดอันตรายตามที่กำหนด แต่ความหมายก็คือ "มีสารตกค้าง" แต่รัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์ ที่มี ยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ รวมไปถึงคนอื่นๆกลับพูดรวมๆว่า "ปลอดภัย"เท่านั้น ความหมายก็คือเป็นการ "ปกปิดข้อมูล" จึงทำให้ขาดความเชื่อที่สะสมมากขึ้นทุกวัน

 00 ประกอบกับความล้มเหลว จากสารพัดประชานิยมออกมา"ประจาน" มากขึ้นทุกวัน ถ้าพิจารณากันเฉพาะเรื่องหลักๆ แค่เรื่องสองเรื่องที่กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะต้นคิด ก็พอยกตัวอย่างให้เห็นได้ชัดก็คือ โครงการรับจำนำข้าว ที่แม้ว่าจะ "ปากแข็ง" กันจนถึงที่สุดแค่ไหนแต่อีกไม่นานก็ต้องจนมุม เพราะมัน "ถังแตก" ขาดสภาพคล่องมากขึ้เรื่อยๆอันเป็นผลมาจากการ "ขาดทุนสะสม" จน "สายป่านขาด" เสียก่อน เห็นได้ชัดว่าล่าสุดได้มีมติลดราคาจำนำข้าวนาปีฤดูกาลปี 56/57ลงมาเหลือ 1.35 หมื่นบาทต่อตัน แม้ว่ายังสูงกว่าคราวก่อนที่ลดลงมาเหลือ 12,000 บาทต่อตัน แต่ก็ถือว่า "ยังต่ำ" อยู่ดีและต่ำกว่าที่เคยโม้เอาไว้ตอนหาเสียงว่ารับจำนำทุกเมล็ดตันละ 15,000 บาทอยู่ดี อาจเข้าข่ายต้มตุ๋น แต่นั่นไม่เท่ากับทำให้ชาวนาเสียความรู้สึกไม่น้อย แม้จะเชื่อว่าจะสามารถใช้เครือข่ายแกนนำคนเสื้อแดง "กล่อม" ได้ แต่เชื่อเถอะ"เรื่องเงิน" มันไม่ง่ายหรอก

 00 ใจจริงไม่อยากให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยล้มลงด้วยองค์กรอิสระที่กำลังจะสรุปหลายเรื่องหลายคดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทุจริตข้าวที่ปปช.จะสรุปในอีกไม่กี่เดือน รวมทั้งเรื่องการแก้ไขรธน.ในศาลรธน.ว่ามีเจตนาล้มล้างการปกครองฯ ขัดม.68 โครงการ "โคตรกู้"สองล้านล้านบาท ที่กำลงจ่อตามหลังเงินกู้จัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทที่ศาลปกครองชี้ว่าทำผิดขั้นตอนมาแล้ว แต่อยากให้รัฐบาลล้มลงด้วยความ "ห่วยแตก" ประจานตัวเอง ให้สังคมได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง เพียงแต่ว่าต้องกัดฟันอดทนอีกสักระยะหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเวลานี้ปัญหากำลังบีบรัดเข้ามาแทบทุกเรื่องแล้ว โดยเฉพาะในช่วงปลายปีนี้แหละที่เศรษฐกิจจะถดถอยลงมากกว่าเดิม ข้าวของจะแพงกว่าเดิม ปัญหาสินค้าการเกษตรราคาตก ซึ่งนับจากนี้ไปก็จะเริ่มเห็นสารพัดม็อบออกมาประท้วงรัฐบาลเป็นรายวัน

 00 บางทีมันก็เป็นเวรกรรมของทักษิณ และครอบครัวเหมือนกัน จากที่เคยใช้วาทะกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นจนเคยตัว ใช้ความห่วยของเครือข่ายคมช.ในอดีตมาสร้างพลังเข้มแข็งให้กับตัวเอง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทุกอย่างมันเปลือยตัวตนออกมาให้เห็นแทบจะหมดเปลือก ดูอย่างรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่เป็นคำตแบได้ดี เวลาผ่านไปเพียงแค่ 2 ปี หลายเรื่องก็ประจานออกมาให้เห็นเอง โดยที่ไม่มีใครต้องไปทำอะไร อย่างเช่นโครงการรถคันแรก ที่คิดว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เอาเข้าจริงกลับกลายเป็นตัวการทำให้การจับจ่ายชะลอตัว เพิ่มภาระหนี้สินให้ครัวเรือน หรือแม้แต่ค่าแรงวันละ 300 บาท ที่บางส่วนบอกว่าดีที่ชาวบ้านมีรายได้เพิ่ม แต่กลายเป็นว่าราคาสินค้าปรับเพิ่มไปรอล่วงหน้าหมดแล้ว มิหนำซ้ำกลับทำให้พวกนายทุนเจ้าของกิจการบางส่วนอ้างต้นทุนเพิ่มปลดออกจากงานเสียอีก

 00 เปิดสภาวันที่ 1 ส.ค.นี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องเดือดอยู่แล้ว เพราะตรายงใดที่รัฐบาลใช้เสียงข้างมากเป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว หรือเพื่อ ทักษิณ ชินวัตร โดยแอบอ้างเรื่อง "ปรองดอง"เรื่องการพัฒนาบังหน้า ทั้งที่มันไม่จริง เพราะชาวบ้านเขาจับได้ว่าเป็นการ "ตั้งโครงการขึ้นมา" เพื่อกู้เงิน หรือไม่ก็กู้เงินมาก่อนแล้วไปคิดโครงการภายหลัง ดังจะเห็นได้จากโครงการเงินกู้สองล้านล้านบาทที่ปรากฏว่าไม่มีรายละเอียดเพียงพอ แต่ค่าจ้างที่ปรึกษาแพงหูฉี่ เมื่อถูกทักท้วงก็เริ่มลดราคาลงมา อะไรประมาณนี้
 00 อย่างไรก็ดีก็น่าจับตาเหมือนกันว่าเมื่อเปิดสภาคราวนี้จะมีการนำเอาเรื่องไหนมาพิจารณาเป็นเรื่องแรก ระหว่างเริื่องเงิน ทั้งงบประมาณปี 57 เงินกู้2 ล้านล้านบาท กับร่าง พรบ.นิรโทษฯ และพรบ.ปรองดองฯเพื่อแม้ว อีกทั้งยังเป็นการวัดใจว่าพรรคเพื่อไทยจะเลือกแบบไหน ไม่ต้องไปคิดไกลถึงร่างพรบ.นิรโทษฯฉบับของญาติคนเสื้อแดงหรอก เอาแค่ว่าระหว่างสองร่างแรกที่เสนอโดย วรชัย เหมะที่อ้างว่าลบล้างผิดให้เฉพาะชาวบ้านไม่เกี่ยวกับแกนนำ กับร่างของ รตอ.เฉลิม อยู่บำรุงที่หวังให้ล้างผิด ทักษิณ พรรคเพื่อไทยจะเลือกแบบไหน หรือจะมามุกที่"ซ่อน"เอาไว้ด้วยการพิจารณา "รวมทุกร่าง" เป็นร่างเดียวหรือเปล่า แต่ถึงอย่างไรมันก็ทำให้คนเสื้อแดงได้เห็นสันดานแม้วได้อีกครัั้งว่า"เห็นแก่ตัว"แค่ไหน

 00 ก็ต้องแสดงความยินดีกับ เฉลิม อยู่บำรุง อีกครั้งหลังจากงอแง โวยวายขย่มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เบาๆจนได้รับตำแหน่งเพิ่ม หลังจากถูกลดชั้นไปเป็นจับกัง1แต่ล่าสุดก็ได้เป็น ผอ.เอาชนะยาเสพติดได้เข้าเชื่อมต่อกับตำรวจอีกรอบ รวมไปถึงยังได้เป็นรองประธานศูนย์อำนวยการด้านยุธศาสตร์แก้ปัญหาชายแดนใต้อีกรอบ แม้ว่าในความจริงจะไม่มีอำนาจ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้นำไปโม้คุยข่มคนอื่นได้หลายวันละ และนี่คือเหลิม ที่แบล็กเมล์ เอ้ยที่พูดมากจนได้ผล !!