“จิรายุ” เมิน “เกียรติ” ฟ้องแพ่ง 200 ล้าน กรณีกล่าวหาเกี่ยวข้องยาเสพติด เตือนพวกเอี่ยวยาระวังตัว ลั่นจะทำหน้าที่ตรวจสอบต่อไป พร้อมวอนสังคมให้อภัยกันมากขึ้น เอา “ทักษิณ” กลับมาช่วยเหลือประเทศยังดีกว่าทะเลาะกันแบบนี้
วันนี้ (18 ก.ค.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลพิพากษายกฟ้องในคดีแถลงข่าวหมิ่นประมาทนายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ประธานผู้แทนการค้าไทย และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดว่าจะไม่มีการฟ้องกลับ เนื่องจากอยากทำหน้าที่ตรวจสอบตามระบอบประชาธิปไตยต่อไป เพียงแต่ขอให้คนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้ระวังไว้ เพราะตนจะไม่ลดละแน่นอน เพราะตนเป็นนักการเมืองหากรู้ว่าพวกที่เป็นนักการเมืองด้วยกันทำเรื่องเลวร้าย จะไม่ตรวจสอบกันเองและจะให้ประชาชนมาตรวจสอบหรืออย่างไร
ทั้งนี้ เห็นว่าก่อนการฟังคำพิพากษามีการส่งเอสเอ็มเอสไปให้นักข่าวจำนวนมาก ซึ่งตนคาดว่าเป็นอีกฝ่ายหนึ่งส่งไปอย่างแน่นอน เพราะคงมั่นใจว่าตนจะถูกฟ้อง แต่เมื่อศาลได้พิพากษายกฟ้อง เพราะไม่มีข้อมูลเพียงพอชี้ชัดได้ว่ากล่าวหานายเกียรติจริง เชื่อว่าคงสร้างความผิดหวังให้กับนายเกียรติเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ นายจิรายุกล่าวว่า ไม่กังวลหากนายเกียรติจะฟ้องฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาทอีกนั้น โดยขอยืนยันจะทำหน้าที่ตรวจสอบต่อไป พร้อมกับขอวิงวอนให้สังคมให้อภัยกันมากขึ้น หันหน้าเข้าหากัน และนิรโทษกรรมให้แก่กัน เพราะที่ผ่านมาประเทศบอบช้ำมามากแล้ว
“อย่าอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนักเลย เอาท่านกลับมาช่วยเหลือประเทศซะยังดีกว่าทะเลาะกันแบบนี้ เอาท่านมาเป็นที่ปรึกษาอะไรก็ได้ หรือเป็นที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก็ได้ ไม่ต้องไปเป็นที่ปรึกษาอย่างในคลิปนะ อันนั้นไม่ต้องไปยุ่งกับเขาเลย”
นายจิรายุกล่าวต่อว่า ขอให้ฝ่ายค้านอย่าขัดไปทุกเรื่อง ขัดอะไรก็ขัดไปแต่อย่าขัดความเจริญของประเทศ เช่น โครงการน้ำ การกู้เงินเพื่อมาพัฒนาประเทศ เรื่องอะไรแบบนี้อยากให้ยอมได้ก็ยอมกันบ้าง เพื่อความก้าวหน้าของประเทศต่อไป
ทั้งนี้เห็นว่าเรื่องการนำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณร่ายจ่ายประจำปี 2557 ขึ้นมาพิจารณาก่อน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ก็เป็นไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้เห็นว่าการ พ.ร.บ.งบฯ ยังอยู่ในชั้นกรรมาธิการ หากนำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมาพิจารณาก่อนก็ได้ ทั้งนี้อยู่ที่จังหวะเวลาและการหารือร่วมกันกับวิปรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม นายจิรายุกล่าวว่า สถานการณ์ช่วงเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป ที่จะมีการพิจารณากฎหมายสำคัญหลายเรื่องนั้น ไม่น่าจะทำให้เกิดความรุนแรงใดๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อรัฐบาล เนื่องจากเห็นว่ากลุ่มคนเสื้อแดงมีความเข้าใจกระบวนการของรัฐบาลมากขึ้น และหากมีม็อบต่อต้านรัฐบาลออกมา กลุ่มเสื้อแดงก็จะไม่ไปปะทะแบบม็อบชนม็อบอย่างที่ผ่านมาแน่นอน
