สัญญาณหายนะปลายปี !!

เกาะกระแส

00 เชื่อว่าหลายคนคงลืมไปแล้ว หรือคงคิดว่าไม่มีอะไรคืบหน้ากับเรื่องที่มีการร้องเรียนให้ดำเนินการทางกม.กับ ผบ.ชน.พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ที่ไม่รู้จักสถานะตัวเองว่าเป็นตำรวจแต่ริไปคบกับ" โจร"ยกย่องเทิดทูนโจรกันแบบไม่อินังขังขอบ ไม่แคร์ใคร ซึ่งโจรในที่นี้ก็คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่หนีคุกหนีคดีอยู่ในเวลานี้ รู้กันถึงวลี "มีวันนี้เพราะพี่ให้" แต่ล่าสุดทางผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาเนินการเอาผิดทางจริยธรรมจากเรื่องดังกล่าว และยังส่งเรื่องไปให้ ปปช.ดำเนินการสอบสวนเอาผิดต่อ แม้ว่าจะล่าช้าไปบ้างเพราะมีการร้องเรียนจาก "กลุ่มกรีน"มาตั้งแต่ปี 55 มาถึงวันนี้ก็ปาเข้าไปนานโข และเจ้าตัวก็ไม่ยี่หระ เพราะคงประเมินแล้วว่า "ทำอะไรไม่ได้" ยังมั่นใจว่าตนเอง "แทงหวยถูก" หากยังรับใช้เทิดทูน ทักษิณ ต่อไปก็ไม่มีทางตกอับแน่นอน อีกทั้งยังมั่นใจว่าผู้บังคับบัญชาคือ ผบ.ตร.พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว จะไม่กล้าทำอะไร เพราะในเรื่องเดียวกัน ก็ทำไม่ได้แตกต่างกัน ถ้าบอกว่าไปพบทักษิณ ทาง ผบ.ตร.ก็มีข่าวว่าไปพบเหมือนกัน ดังนั้นก็อย่าคาดหวังอะไรมาก

00 เพียงแต่ได้รับรู้เอาไว้ว่า นาทีนี้คือ "รัฐตำรวจ"ตำรวจคนไหนที่ต้องระวังตัว อย่าเข้าใกล้ เพราะถ้ามีเรื่องมีราวเราก็ไม่มีทางได้รับการปฏิบัติในฐานะผู้พิทักษณ์สันติราษฎร์ เพราะเขาพิทักษ์รักษาแต่ระบอบ ทักษิณ ครอบครัวทักษิณ เท่านั้น อย่างไรก็ตามมาถึงวันนี้มันก็ได้เห็นความเคลื่อนไหวบางสิ่งบางอย่างออกมาจากองค์กรอิสระ อย่างน้อยก็ได้เห็นความเคลื่อนไหว"เล็กๆ"จากผู้ตรวจการฯแม้จะช้า แต่ก็มา ยังดีกว่าเงียบฉี่ อีกทางหนึ่งนั่นก็แสดงให้เห็นสัญญาณว่าจะมีความกล้าหญจากหน่วยงานอื่นตามมามากขึ้น หลังจากเกิดกรณีของ สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดคลังที่แฉเรื่องโกงข้าว แล้วก็มาที่ผู้ตรวจการฯ ซึ่งความหมายก็คือรัฐบาลเริ่มอยู่ในอาการซวนเซมากขึ้นทุกที

00 ปัญหาข้าวของแพง หนี้สินที่ล้นพ้นตัวอันเป็นผลมาจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ามีสาเหตุมาจากความผิดพลาดของนโยบายประชานิยมของรัฐบาล "ทักษิณคิดยิ่งลักษณ์ทำ"เริ่มส่งผลลบมากขึ้น แม้ว่าจะพยายามเพิ่มรายได้ด้วยการเพิ่มค่าแรง แต่ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งทำให้ราคาสินค้าไปดักรอล่วงหน้าจนแทบไม่มีความหมายหรือหนักหนาสาหัสกว่าเก่า อย่างเรื่องรถคันแรก เวลานี้ได้ข้อสรุปตรงกันว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง นอกจากกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้แล้ว ยังสร้างหนี้ให้กับภาคครัวเรือน ขณะเดียวกันเมื่อแต่ละครอบครัวติดหล่มหนี้สินจึงไม่มีเงินเหลือไปจับจ่ายใช้สอยทำให้สินค้าขายไม่ออกกระทบเป็นลูกโซ่

00 ทุกวงการทุกอาชีพกระทบหมด เพราะเมื่อรถคันแรกออกมาแล้ว สิ่งที่เห็นก็คือการเพิ่มขึ้นขอจำนวนรถในท้องถนนรถติดมหาวินาศ สิ้นเปลืองน้ำมัน แท็กซี่ก็มีผู้โดยสารน้อยลง เปลืองค่าพลังงาน ล่าสุดกรรมการผู้จัดการบขส.ก็เพิ่งเปิดเผยว่ารายได้ในปีนี้ลดลงแม้ยังไม่ขาดทุนแต่ก็กระทบจากโครงการรถคันแรกที่ทำให้ผู้โดยสารลดลง ขณะที่บรรดากูรูทางด้านเศรษฐกิจฟันธงตรงกันว่าปลายปีนี้ศก.ไทยจะหดตัวลงเพราะปัจจัยลบรุมเร้าทั้งภายในภายในภายนอก เอาภายในก่อนปัญหามาจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ผล อีกทั้งเริ่ม"ถังแตก"ทำให้ขาดความต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยภายนอกจากเศรษฐกิจโลกไม่ดี จนไอเอ็มเอฟเพิ่งลดประมาณมาการเติบโตลงมาจาก 3.3 หรือแค่3.1-3.2 เท่านั้น ลองคิดดูง่ายๆก็แล้วกันว่าศก.ไทยเกือบทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ต้องพึ่งพาการส่งออก เมื่อชาวโลกเขาไม่มีเงินซื้อของไทย รวมไปถึงจีนที่เริ่มถดถอยแล้ว ลองหลับตานึกภาพเอาก็แล้วกันว่าจะสาหัสขนาดไหน ถึงตอนนี้สำหรับคนไทยที่รู้ทัน ทักษิณ ไม่เคยเชื่อคนพวกนี้ก็เตรียมหาทางรับมือกันเสียแต่เนิ่นๆได้แล้ว

00 ขณะที่ความตื่นตัวของรัฐบาลก็เริ่มเคลื่อนไหวแบบไฟลนก้นกันแล้ว เมื่อ นายกฯยิ่งลักษณ์ ระดมทีมงานใกล้ชิดไม่ว่าจะเป็น รมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.พาณิชย์ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เรื่องหลักก็คือค่าครองชีพที่พุ่งกระฉูดอยู่ในเวลานี้ ความหมายก็คือถ้าแก้เรื่องของแพงไม่ได้แล้วละก็ความหายนะมาเยือนแน่ และจะส่งผลสะเทือนไปไกลถึง ทักษิณ ชินวัตร เต็มๆ อย่าลืมว่าเพียงแค่สองปียังห่วยแตกได้ขนาดนี้แล้วปีที่สามจะขนาดไหน ยังนึกภาพไม่ออกจริงๆ แต่ก็ดีเหมือนกันเพราะกาลเวลากำลังเปลือยสันดานพวก"นักต้มตุ๋น"อย่างได้ผล !!