นายกฯ และ รมว.กลาโหม ฟังบรรยายศูนย์กลางการศึกษาภูมิภาค ย้ำชงอุตสาหกรรมแปรรูปสร้างนักศึกษาเป็นเถ้าแก่น้อย พร้อมอวดกองทุนตั้งตัวช่วยทุนก้อนแรก ด้าน รมช.คลัง แจงนิสิตยันปฏิรูป กยศ.เร็วๆ นี้
วันนี้ (15 ก.ค.) ที่อาคารบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เมื่อเวลา 11.00 น. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย นายพีรพันธุ์ พาลุสุข รมว.วิทยาศาสตร์ ได้รับฟังการบรรยายสรุปจากอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ถึงการจัดยุทธศาสตร์การเป็นศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาคของจังหวัดมหาสารคาม โดยนายกฯ กล่าวเน้นย้ำด้วยว่า ขอให้มหาวิทยาลัยผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพและเป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่ตั้งไว้ โดยเน้นการสร้างประโยชน์ สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่พื้นที่ โดยให้นำเรื่องอุตสาหกรรมแปรรูปเข้ามาส่งเสริมให้นักศึกษาเป็นเถ้าแก่น้อยให้ได้
จากนั้นเวลา 12.00 น. นายกฯ และได้ลงมาพบปะกับนิสิตนักศึกษา 2 มหาวิทยาลัย ที่ด้านล่างของอาคาร โดยนายกฯ กล่าวต่อนักศึกษาตอนหนึ่งถึงนโยบายรัฐบาลในเรื่องกองทุนตั้งตัวได้ ที่รัฐบาลอยากเห็นบัณฑิตที่อยากเป็นเถ้าแก่น้อยในการเริ่มต้นประกอบอาชีพ ซึ่งมหาวิทยาลัยจะมีศูนย์บ่มเพาะ ให้ทุน และเป็นพี่เลี้ยงให้นักศึกษา โดยมหาวิทยาลัยและธนาคารจะมีทุนในการให้เงินก้อนแรกในการประกอบกิจการ จึงอยากให้นักศึกษาใช้โอกาสนี้ในการสร้างอนาคตของตัวเอง
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเปิดโอกาสให้ตัวแทนนักศึกษาจำนวน 3 คนได้ตั้งคำถาม โดยนายกองค์การนิสิต มมส. ได้ถามถึงนโยบายรัฐบาลก่อนเข้าประชาคมอาเซียนว่ามีแผนหรือนโยบายอย่างไร ซึ่งนายกฯ ตอบว่าอยากสนับสนุนเรื่องภาษา ที่อย่างน้อยก็ภาษาอังกฤษและภาษาชาติในกลุ่มอาเซียน แต่ทั้งนี้ภาษาเป็นเพียงส่วนหนึ่งแต่อยากให้ช่วยเข้าใจสามเสาหลักของอาเซียนด้านเศรษฐกิจ สังคม และด้านกฎหมาย รวมทั้งการเมืองด้วย เพราะเราจะต้องเข้าใจและรู้กติกา ซึ่งรัฐบาลก็จะทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยในการถ่ายทอดส่วนนี้ รวมทั้งจะมีการจัดนิทรรศการด้วย อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ค.) ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศจะประชุมกับนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย (มท.1) โดยมีการเชิญทูตชาติอาเซียนประชาจำประเทศไทยร่วมหารือด้วย
จากนั้นประธานสภานิสิต มมส.ถามนายกฯ ว่าจะสนับสนุนหรือพัฒนาระบบสาธารณูปโภคของมหาสารคามอย่างไรในการจะเข้าประชาคมอาเซียน โดยนายกฯ กล่าวว่า ถ้ามองในมุมสาธารณูปโภคนั้นจะมีการแก้ปัญหาเรื่องของน้ำและจะมีถนน รถไฟรางคู่ที่จะเชื่อมต่อจังหวัดอื่นๆ และเห็นว่ามหาสารคามต้องการการเข้าถึงน้ำประปาที่ต้องสำรวจควบคู่กันไปกับการสำรวจแหล่งน้ำ ซึ่งจากนี้การแก้ปัญหาจะมองรายจังหวัด มองแผนที่แบบเดียวกันว่าแต่ละพื้นที่มีความต้องการอย่างไร ก็พยายามทำอยู่แต่ไม่รู้จะทันใจน้องๆ หรือไม่
ด้านตัวแทนนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ม.ราชภัฏมหาสารคาม ถามถึงเรื่องกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่จำนวนโควตาไม่เพียงพอ เพราะปัจจุบันมีโควตาเพียง 300 ทุน แต่นักศึกษาลงทะเบียนขอกู้ 1-2 พันคน และขอให้เพิ่มอีก 1,000 ทุนได้หรือไม่ และขอถามว่าทุนทำงานระหว่างเรียนซึ่งเมื่อ 4-5 ปีก่อนมีทุนทีให้นักศึกษาทำงานในหน่วยงานในสังกัดของมหาวิทยาลัย แต่หลังจากนั้นกองทุนนี้ได้หายไป และจะสานต่อหรือไม่
โดยคำถามนี้นายกฯ ได้มอบหมายให้นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง ตอบคำถามแทนว่า กระทรวงการคลังและ กยศ.กำลังจะปฏิรูประบบใหม่ภายในเดือนนี้ ที่จะตอบสนองกับความต้องการของนักศึกษา