xs
xsm
sm
md
lg

เปิดขุมทรัพย์ 3 รมต.รวยอื้อ “นิวัฒน์ธำรง-ประชา-วราเทพ” คนแบบนี้รึจะจับโจรโกงชาติ?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล
รายงานการเมือง

ในรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อประชาชนทั่วประเทศ ในฐานะคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง จะมีแนวทางในการสานต่อการประกาศเจตนารมณ์ของรัฐบาล สำหรับการเดินหน้า “ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน” ที่ถือเป็นนโยบายที่รัฐบาลชุดนี้ประกาศมาหลายสิบครั้งตั้งแต่สมัยหาเสียงเลือกตั้ง

โต้โผใหญ่ที่ถูกวางตัวให้รับผิดชอบงานในครั้งนี้ คือ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บอกยืนยันว่าเขานั้นมีความตั้งใจอย่างสูงสำหรับการทำงานให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส เพื่อปิดช่องโหว่ทั้งหลายที่อาจจะมีช่องทางในการทุจริตคอรัปชั่น

นโยบายที่สวยหรูของรัฐบาลชุดนี้จะเป็นเช่นเดียวกับทฤษฎี “โจรปราบโจร” หรือไม่?เพราะหากไล่ดูแล้วจะพบว่ารัฐมนตรีหน้าใหม่ครั้งนี้มีสถานะทางการเงินที่น่าเคลือบแคลงใจอยู่ไม่น้อย

เริ่มจากคนแรก นายนิวัฒน์ธำรง ที่หลายๆ คนอาจจะไม่ทราบอดีตเขาคือใคร แต่พอทราบก็คงไม่แปลกใจในความก้าวหน้าของรัฐมนตรีท่านนี้

เพราะเขาคืออดีตประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) และรองประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือ ชิน คอร์ปอเรชั่น (ชินคอร์ป) รับผิดชอบด้านภาพลักษณ์ และกิจกรรมสัมพันธ์ ที่เข้ามารับตำแหน่ง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ในช่วงปี 2554

การแจ้งบัญชีพบว่า นายนิวัฒน์ธำรง มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 7,905,054.47 บาท ที่จะเน้นหนักไปในส่วนของเงินฝากในบัญชีประมาณ 4,724,154.47 บาท ด้านนางบุณย์พัชรี บุญทรงไพศาล คู่สมรส ที่มีทรัพย์สินทั้งหมด 130,512,908.65 บาท รวมทรัพย์สิน 138,417,963.12 บาท ซึ่งมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 138,377,491.71 บาท

แต่เมื่อต้นปีนี้ที่เพิ่งผ่านพ้นมา นายนิวัฒน์ธำรง มีทรัพย์สินทั้งหมด 7,806,795.54 บาท ตามมาดูที่คู่สมรส กลับพบว่ามีทรัพย์สินทั้งหมด 130,839,276.18 บาท แต่หนี้สิน หรือเงินเบิกเกินบัญชี เหลือเพียงแค่ 57,998.35 บาท

จะเห็นว่าจำนวนทรัพย์สินของตระกูลบุญทรงไพศาล อาจจะไม่ได้มีมากขึ้น แต่สิ่งที่ปรากฏชัด คือ จำนวนหนี้สินที่ลดลงกว่า 80 ล้านบาท นั่นหมายความว่า นายนิวัฒน์ธำรงทำงานเพียงแค่ระยะเวลา 2 ปี กลับหาเงินได้มากขนาดนี้

ทั้งๆ ที่เงินเดือนของนักการเมืองอย่างมากก็แค่่ 2-3 แสนบาทหากมีค่าตำแหน่งรัฐมนตรีเข้าไปพ่วงด้วย รวมๆแล้ว นายนิวัฒน์ธำรงน่าจะหาเงินได้เพียงแค่ 4-7 ล้านบาทเท่านั้น

คนที่สอง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คืออีกคนหนึ่งที่เป็นที่จับตามองสำหรับการปรับ ครม.ครั้งนี้ ด้วยเหตุ “แย่งเก้าอี้ ร.ต.อ.เฉลิม” พล.ต.อ.ประชา คือนายตำรวจเก่าที่มาตามเส้นทางตำรวจอย่างแท้จริงด้วยการจบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ โดยรับราชการครั้งแรกเป็นเพียงรองสารวัตรที่กองตำรวจสันติบาล

ต่อมาในปี 2543 พล.ต.อ.ประชาได้ก้าวเข้าสู่วงการการเมือง ด้วยการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ที่ได้มาจากระบบโควต้าของพรรคชาติพัฒนา

ในสมัยนั้น พล.ต.อ.ประชา แจ้งทรัพย์สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 29,153,868.86 บาท และมีหนี้สิน 3,884,480.78 บาท ด้านคุณหญิงวารุณี พรหมนอก คู่สมรส 77,474,437.38 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 2,647,437.38 บาท เงินลงทุน 16,500,000 บาท ที่ดิน 10 แปลง 30,000,000 ล้านบาท ยานพาหนะ 4 คัน 13,000,000 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่นๆ 15,300,000 บาท หนี้สิน 26,500,000 บาท รวม 2 คน 106,628,306.24 บาท หนี้สิน 30,384,480.78 บาท เท่ากับมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 76,243,826 บาท

แต่ในปีที่ พล.ต.อ.ประชา ได้เข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ได้แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 60,009,933,45 บาท ด้านคุณหญิงวารุณี มีทรัพย์สิน 160,912,786.83 บาท มีหนี้สินรวม3,414,864 บาท รวมสองคนเป็นเงินกว่า 220 ล้านบาท ที่น่าทึ่งคือ ข้าราชการตำรวจอย่าง พล.ต.อ.ประชา มีพระเครื่องที่รวมกันแล้วมีมูลค่ากว่า 70 ล้านไว้ในครอบครอง นอกจากนี้ยังมีที่ดินกว่า 55 ล้านบาท รวมไปถึงรถยนต์อีก 10 คันมูลค่ากว่า 11 ล้านด้วย

หากนำมาเทียบกัน 2 ครั้งจะพบว่า ตระกูลพรหมนอก มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นกว่า 140 ล้านบาท จากการวงเวียนอยู่กับสนามการเมืองเพียงแค่ 10 ปี

สิ่งที่ตอกย้ำชัดเจนขึ้นคือการแจ้งบัญชีทรัพย์สินตอนรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2554 โดย พล.ต.อ.ประชา แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 59,908,100.45 บาท คุณหญิงวารุณี มีทรัพย์สิน 222,590,966.76 บาท เบ็ดเสร็จมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 279,085,202.89 บาท เพิ่มขึ้นอีก 79 ล้านบาท ภายในระยะเวลาไม่ถึงปีที่เข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย

ข้ามมาที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อย่าง นายวราเทพ รัตนากร กันบ้าง ส.ส.7 สมัยผู้นี้อาจจะมีบทที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนเสียหน่อย จากพฤติกรรมโอนหุ้นบริษัททัวร์ให้กับเมีย-แม่-เครือญาตินัวเนียหลายตลบ ก่อนที่นายวราเทพจะขึ้นนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีได้ไม่นานนัก

โดยจุดเริ่มต้นนั้น นางอรอุมา รัตนากร ภรรยานายวราเทพได้โอนหุ้นธุรกิจของครอบครัว คือ บริษัท ดี ดี เจอร์นี่ ทัวร์ เซอร์วิส (2001) จำกัด ซึ่งนางอรอุมาเป็นกรรมการผู้จัดการและถือหุ้นใหญ่ 10,600 หุ้น ให้นางขนิษฐา ชาติอัปสร มารดา ซึ่งผลประกอบการปี 2553 บริษัทนี้มีรายได้ 10,730,487 บาท ขาดทุนสุทธิ 803,747 บาท

ด้านตัวของนายวราเทพเองนั้น เมื่อเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งว่ามีทรัพย์สิน 6,746,071.23 บาท นางอรอุมา มีทรัพย์สิน 21,210,390.29 บาท บุตรไม่บรรลุนิติภาวะมีเงินฝาก 63,428.09 บาท รวมทรัพย์สิน 28,019,889.61 บาทมีหนี้สินรวม 2,597,311.23 บาท สรุปว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 25,422,578.38 บาท

แต่อย่าลืมว่าตัวของนางอรอุมานั้นมีธุรกิจส่วนตัว และการแจ้งบัญชีในครั้งนี้ก็ไม่ได้ระบุว่ามีทรัพย์สินที่เป็นเงินลงทุนแต่อย่างใดด้วย

ตัวเลขที่ปรากฏต่อสายตาเป็นคำถามที่น่าสงสัยว่า เงินของรัฐมนตรีเหล่านี้เพิ่มขึ้นมาได้อย่่างไร จากที่ไหน ถึงจะมีการอ้างว่าคู่สมรสอาจจะมีการลงทุนอย่างไร แต่คงไม่มีการลงทุนที่ให้กำไรตอบแทนมหาศาลเช่นนี้

และอย่าลืมว่าตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงการแจ้งบัญชีต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เท่านั้น

เบื้องหลังตัวเลขเหล่านี้อาจจะมีอีกหนึ่งตัวเลขจำนวนมหาศาลที่แอบซ่อนอยู่ จนทำให้เรารู้สึกสงสารประเทศไทยขึ้นมาก็เป็นได้ เมื่อคนเหล่านี้กำลังจะเป็นคนปราบคนโกงโจรปล้นแผ่นดิน
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก
วราเทพ รัตนากร
กำลังโหลดความคิดเห็น