xs
xsm
sm
md
lg

“นิวัฒน์ธำรง” ยัน “โต้ง” นั่งหัวโต๊ะ ศก. ปรามสื่ออย่าเล่นข่าวลือข้าวอ้างทำลายชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (แฟ้มภาพ)
รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พณ.เผย “กิตติรัตน์” ยังนั่งหัวโต๊ะ ศก. อ้างเพื่อไทยคุมข้าวหวังบริหารจัดการสมบูรณ์ ถามข่าวมาเลย์-อินโดฯ ไม่รับซื้อข่าวจากไหน แนะสื่ออย่าไปเล่น โวยทำลายชื่อเสียงชาติ โวของไทยคุณภาพดีไม่มีปัญหา ลั่นเปิดตัวเลขแน่ เริ่มระบายข้าวเดือนนี้แต่เท่าไหร่ไม่รู้ นัดสัปดาห์หน้าแบ่งงาน รมช. เย้ยรองปลัดคลังแฉข้อมูลเก่า

วันนี้ (5 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังประธานคณะกรรมการกลุ่มธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (Standard Chatered) เข้าเยี่ยมคารวะว่า ความจริงทางธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดตั้งใจมาเยี่ยมนายกฯ แต่บังเอิญนายกฯ ไม่อยู่ โดยเขาได้ขอบคุณที่เขาทำธุรกิจในไทยเป็นอย่างดี และไม่มีปัญหาอะไรและตั้งใจจะขยายธุรกิจต่อไปเพราะเชื่อมั่นประเทศไทย ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่มารับตำแหน่งรองนายกฯ หมายถึงเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจด้วยหรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ไม่ได้ตั้งกันขนาดนั้น เพียงแต่ให้ตนมาดูที่กระทรวงพาณิชย์ และการทำงานก็ทำร่วมกันอยู่แล้วทั้งในส่วนของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง รวมถึงนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯและ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ซึ่งนายกิตติรัตน์ ก็ยังคงเป็นหัวหน้าทีมอยู่

เมื่อถามถึงเหตุผลที่ให้รัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยคุมกรมการข้าว กรมส่งเสริมการเกษตรเพราะอะไร รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า เพื่อทำให้ระบบการบริหารจัดการเกี่ยวกับข้าวทั้งหมดเป็นไปอย่างสมบูรณ์ และรวดเร็ว

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ทางมาเลเซียและอินโดนีเซียประกาศไม่รับซื้อข้าวจากประเทศไทย นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ข่าวจากไหน ถ้ามีจริงตนจะตรวจสอบแน่นอน ซึ่งเรื่องการขายข้าวเรามีความตั้งใจว่าจะขยายตลาดให้มากขึ้น ตลาดเก่าก็ยังคงดูแลรักษา และจะหาตลาดใหม่เพิ่มมากขึ้นทั้งอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย จีนและอื่นๆ เรื่องจีทูจี ก็ยังทำต่อไป ตอนนี้กำลังวางแผนที่จะมีการประมูลทั่วไป เพื่อให้ผู้ส่งออกข้าวได้มีโอกาสได้ประมูลขายข้าวและขยายตลาด และยังมีแนวคิดที่จะขายข้าวนึ่งด้วย

เมื่อถามว่า การที่ผู้ส่งออกไม่ซื่อสัตย์กับลูกค้าจนเป็นเหตุไม่รับซื้อข้าวเราจริงหรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ไม่ทราบ ถ้ามีจริงก็จะมีการตรวจสอบแน่นอน ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด

“อาจจะเป็นข่าวที่มีการกระซิบมา และสื่อก็นำมาตีแผ่จนกระจายไปทั่วโลก อย่างนี้ไหวหรือ ในฐานะประชาชนคนไทย ในฐานะประเทศไทย อย่างนี้ดีหรือ ผมว่าอย่าไปเล่นเลยข่าวอย่างนี้ ขอร้อง ทุกวันนี้ที่เรื่องข้าวมีปัญหาก็มาจากพวกเรากันเองทั้งนั้น และไม่ควรจะให้ขยายวงด้วย เพราะมันเป็นการทำลายชื่อเสียงประเทศชาติ ทำลายข้าวไทย เป็นเรื่องของปัญหาระยะยาวแน่นอนหากเราไปพูดกันว่าข้าวไทยคุณภาพไม่ดี กินแล้วจะมีปัญหาทางด้านสุขภาพ ตรงนี้เป็นการพูดและเป็นการกระจายข่าวที่ไม่ใช่ทำลายพรรคการเมือง ไม่ใช่เป็นเรื่องการเมืองแล้ว แต่เป็นเรื่องที่ทำลายประเทศชาติให้เสียหายในระยะยาว ซึ่งตรงนี้ก็อยากจะขอร้องกัน” นายนิวัฒน์ธำรงกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้ต่างประเทศให้ความมั่นใจข้าวไทยมากน้อยแค่ไหน รองนายกฯและรมว.พาณิชย์กล่าวว่า ไม่มีปัญหาเลย ขณะนี้ราคาของเราแพงกว่าต่างประเทศประมาณ 100 เหรียญ ซึ่งตรงนี้ก็มาจากคุณภาพข้าวไทยซึ่งเป็นมาอย่างนี้นานแล้วและยังเป็นอยู่ ไม่มีปัญหาเลย

นายนิวัฒน์กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม การดำเนินการขายข้าวเรายังคงดำเนินการต่อไป แม้ว่าเราจะเสียแชมป์การส่งออกข้าวให้กับอินเดียไป แต่เราก็ยังมีลูกค้าอยู่ และเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถกู้ความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้ ตอนนี้ทั้งตน นายยรรยง และนายณัฐวุฒิ ทำงานกันทุกวันและเชื่อว่าจะสามารถทำได้สำเร็จในเร็วๆ นี้ และจะมีการเปิดเผยตัวเลขต่าง ๆแน่นอน

เมื่อถามว่า เมื่อเข้ามาดูแลเรื่องนี้ มีแนวคิดในเรื่องของการระบายสต็อกข้าวอย่างไร รองนายกฯและรมว.พาณิชย์กล่าวว่า จะมีการระบายแน่นอนประมาณ 16-17 ล้านตัน และต้องรวดเร็ว เมื่อถามว่า ที่นายยรรยง เคยบอกว่าจะระบายข้าว 3 ล้านตันให้ได้ภายใน 3 เดือน เป็นอย่างไร รองนายกฯและรมว.พาณิชย์กล่าวว่า จะเริ่มระบายเดือนกรกฎาคมนี้ แต่จำนวนเท่าไหร่ยังไม่ทราบ ยังไม่สรุป เมื่อถามว่าจะมอบหมายให้ รมช.พาณิชย์ ท่านใดดูเรื่องการระบายข้าว รมว.พาณิชย์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้แบ่งงานให้ รมช.พาณิชย์ สัปดาห์หน้าค่อยแบ่ง

เมื่อถามว่า ได้คุยกับ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ที่ออกมาแฉว่าโครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริตทุกขั้นตอนหรือยัง นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า เท่าที่ฟังดูคิดว่า น.ส.สุภาก็ไม่ได้มีข้อมูลใหม่เลย ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อมูลจาก น.ส.สุภา อยากได้ข้อมูลอยู่เหมือนกัน ถ้ามีโอกาสก็อยากไปปรึกษาจะได้รู้ว่าจุดไหนที่เราต้องปรับปรุงพัฒนาอีก


กำลังโหลดความคิดเห็น