รัฐบาลเมืองไทย ของเล่นตระกูลชินฯ

สะเก็ดไฟ

ปรับ ครม.ปู 5 กันไปเบ็ดเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว เห็นหน้าค่าตารัฐมนตรีใหม่ก็วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ดีบ้างเลวบ้าง

ได้รับเสียงชื่นชมจากผลโพลมากหน่อยก็ในด้านงานสังคม ปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ แต่ไม่รู้ทำงานจริงจะเก่งแค่สร้างภาพอย่างเดียวหรือไม่!!

แต่ที่ดูเหมือนจะไม่มีเสียงขานรับ ตามใจต้องการรัฐบาลเท่าที่ควร คือ “ทีมเศรษฐกิจ” ที่ขยับปรับเพิ่มขุนพล อัดใส่เข้าไปหลายขนาน กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ เพิ่มรัฐมนตรีช่วยเข้าไปอีก 1 คน

ซ้ำยังให้ วราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ยาสามัญประจำ ครม.ไปควบ รมช.เกษตรและสหกรณ์อีกตำแหน่ง เพื่อไล่ตะเข็บกรมกองต่างๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ มาช่วยเหลือดูแลโครงการจำนำข้าวที่กำลังบ้อท่า ล้มเหลว

การปรับ ครม.ครั้งนี้มุ่งหวังภาพลักษณ์ด้านเศรษฐกิจ เตรียมลุยโปรเจกต์ใหญ่ๆ ที่รออยู่ข้างหน้า แต่ทว่าไม่กล้าเปลี่ยนโฉมแบบพลิกฝ่ามือ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจยังเป็น “โต้งไวต์ลาย” กิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นรองนายกฯ ควบ รมว.คลัง ไม่หายหัวไปไหน

แม้จะพิสูจน์แล้วว่าฝีมือดาษๆ นายใหญ่ดูไบไม่ให้ราคา แต่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรก็โอบอุ้มกระเตงไว้ข้างกายตลอด กลัวเอาคนอื่นมาแล้วมองตาไม่รู้ใจแค่นั้นเอง ไม่ได้คิดถึงเรื่องความสามารถอะไรนักหรอก

รัฐมนตรีพาณิชย์คนใหม่ ประเคนเก้าอี้ให้ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล แถมควบรองนายกฯ อีกตำแหน่ง ใหญ่ขึ้นมาทันตาเห็น ต้องเข้ามาสะสางเรื่องข้าวฉาวโฉ่ พร้อมแก้ปัญหาค่าครองชีพ ของแพงในคราวเดียวกัน

หลายคนฟันธงไม่ตรงสเป็ก อนาคตไม่สดใส ยรรยง พวงราช มาเป็นรัฐมนตรีช่วย ก็แค่ลูกหาบชั้นปลายแถว จะไปกันได้สักกี่น้ำ

มีเสียงเรียกร้องจากคนในพรรคเพื่อไทยกันเองทำไมไม่ใช้บริการ “โดเรมิ่ง” มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ เคยกำกับดูแลเรื่องข้าวประสบความสำเร็จในโครงการรับจำนำ ไม่มีเรื่องราวฉาวโฉ่แบบทุกวันนี้

พลิกปูมอดีตก็เห็นผลงานชัดเจน มืออาชีพตัวจริง ผ่านงานภาครัฐ-เอกชนมาโชกโชน ทั้งโตโยต้า อสมท

ถ้าได้ “โดเรมิ่ง” มาภาพลักษณ์คงดูดีกว่านี้ แต่ขณะนี้ มิ่งขวัญได้ตายทางการเมืองไปแล้ว

นายใหญ่หนีคดีไม่เหลียวแลเอามาทำยาใช้งาน แม้มีฝีมือแค่ไหนก็ไม่สน หลังจากที่ก่อนหน้านี้คิดการใหญ่จะทะลุปล้องขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค หวังเป็นนายกฯ ช่วงพรรคกำลังสะเปะสะปะไร้ทิศทาง สุดท้ายโดนสอยตกลงมาคางเหลือง ถูกกดหัวเป็นเพียง ส.ส.ธรรมดา ต้องอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเรื่อยมา

ถ้ายังอยู่พรรคเพื่อไทยต่อไป ก็ไม่รู้ว่า “โดเรมิ่ง” จะมีที่นั่งที่ยืนตรงไหน บทเรียนที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่าใครคือเจ้าของพรรคตัวจริง คนจะเป็นหัวหน้า เป็นนายกฯ ต้องเป็นคนในตระกูลชินวัตรเท่านั้น!!

นช.ทักษิณ และ ตระกูลชินวัตร เท่านั้นที่จะบงการทุกอย่างหมด ใครจะไปใครจะอยู่ ผลงานเป็นเรื่องรอง วันนี้ “เฉลิม” ก็โดนดีเข้าเหมือนกัน ต่อไปสภาพอาจไม่ต่างจาก “มิ่งขวัญ” หลังออกมาอาละวาดฟาดงวงฟาดงาพาลไปทั่ว

ส่วน “บิ๊กโอ๋” สุกำพล สุวรรณทัต ที่ว่าแน่ๆ ยังต้องกระเด็น คนนินทาให้แซดว่า “โอ๊ค” พานทองแท้สั่งปลด หากจำกันได้ก่อนหน้านี้ก็เคยทะเลาะรุนแรงผ่านสื่อจน “สุกำพล” ต้องหงอมาแล้ว

พรรคเพื่อไทย พลังประชาชน ไทยรักไทย สุดท้ายมันก็พรรคในเครือข่ายชินวัตร คนบงการก็คนเดิม ตระกูลเดิม ทำดี ทำเด่นก็ไร้ประโยชน์ ซ้ำอาจยังเป็นภัย ต้องพินอบพิเทาทำตามคำสั่งอย่างเดียว

จากนี้ไปอย่ามาพูดดีกว่าจะทำพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองอย่างนั้นอย่างนี้ น่ารำคาญ!! เพราะสุดท้ายมันก็เป็นแค่สถาบันชินวัตรเหมือนเดิม...