“เด็จพี่” ตอก “อภิสิทธิ์” ระดมคนขวางล้างผิด ย้ำการเมืองต้องแก้ในสภา อ้างใต้มียุโจมตีรัฐ ข้องใจเอี่ยว ปชป.โบ้ยมีรุนแรงรับผิดชอบ เล็งชงไอซีที ปราบนักรบไซเบอร์ ปล่อยข่าวล้มจำนำข้าว ลั่น รบ.ไม่สร้างภาพสอบโรงสี ตาใสบอกคน รบ.ไร้โกง ขุดยุค “ชวน” ปล่อยหมากัดชาวนา “อนุสรณ์” ชี้ ปชป.เตี้ยมพวกต้าน รบ.มาตั้งเวที กทม.ท้า “เทือก” เผยชื่อคนเสนอร่วม รบ.อ้างนายกฯควบ กห.ดูใต้ ปัดล้วงลูกทหารตามคำ หน.ปชป.
วันนี้ (30 มิ.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเวทีผ่าความจริง ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลานคนเมือง เมื่อวานนี้ (29 มิ.ย.) ว่า ตนได้ติดตามการปราศรัย สิ่งที่นายอภิสิทธิ์ พูดว่า เมื่อเปิดประชุมสภาในเดือน ส.ค.ถ้ามีการเลื่อน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมาพิจารณาก่อน จำเป็นต้องระดมกำลังจาก กทม.และปริมณฑล เป็นการปลุกระดม การเมืองต้องแก้ปัญหาด้วยการเมือง ไม่ใช่การอาศัยเอาม็อบมากดดัน ทั้งนี้ตนได้ลงพื้นที่ทั้งภาคใต้และหลายพื้นที่ มีกลุ่มบุคคลปลุกระดมโจมตีรัฐบาลว่า รัฐบาลโกง จำนำข้าว การบริหารจัดการน้ำ แก้กฎหมายเพื่อไทยพ.ต.ท.ทักษิณ ทำเพื่อพวกพ้อง ซึ่งสอดคล้องกับนายอภิสิทธิ์ ทำอยู่หรือไม่ ตนไม่ทราบพรรคไหนกลุ่มไหน แต่ก็จะนำไปสู่ความขัดแย้ง ของบ้านเมือง คนไทยจะยอมรับในการสร้างความขัดแย้งรอบใหม่หรือไม่ คนที่บอกเคารพในระบบประชาธิปไตย ถ้าเกิดความขัดแย้งหรือเกิดความวุ่นวาย นายอภิสิทธิ์ และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตามตนจะรวบรวมหลักฐาน ว่าเชื่อมโยงกับคนที่ไปปล่อยข่าวหรือไม่
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก มีการปล่อยข่าว เรื่องจำนำข้าว ว่า พบ มอด หนู แมว หมา ตาย หรือแม้กระทั่งการกักข้าว ว่า เพื่อให้เกิดความสับสน เป็นการดำเนินการของกลุ่มการเมืองบางคน และนักการเมืองบางคน หลังล้มโครงการจำนำข้าวและล้มรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นการปล่อยข่าวทำร้ายชาติ ตนมองว่าการโจมตีเรื่องนี้ กฎหมายมีอยู่แล้ว แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังขาดการประชาสัมพันธ์ ต้องดำเนินการเร่งประชาสัมพันธ์ ทั้งกระทรวงไอซีที หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะกฎหมายมีกับคนที่ปล่อยข่าวอยู่แล้ว โดยในวันจันทร์ที่ 1 ก.ค.ตนอยากจะทำหนังสือเสนอเรื่องนี้ ไปยังกระทรวงไอซีที และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพราะเรามาแก้โดยการปฏิเสธรายวัน ถือว่าปลายเหตุ ซึ่งการปล่อยข่าวลักษณะนี้ ควรสาวให้ถึงต้นตอ และดำเนินการเอาผิดกับเหล่านักรบไซเบอร์ ที่กลุ่มการเมืองสนับสนุน เพราะถือว่าทำลายชาติทางอ้อม เพียงหวังผลทางการเมือง ใช้ขบวนการ โซเชียล ทีวีดาวเทียว วิทยุชุมนุม และปลุกระดม ทั้งนี้หากเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการ ก็อาจจะเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ม.157
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีการตรวจโกดังข้าวของรัฐบาล ว่าเป็นเรื่องการสร้างภาพ ว่า สิ่งที่นายองอาจ ออกมาระบุว่า รัฐบาลสร้างภาพ ตนเชื่อว่า การตรวจเป็นความตั้งใจจริง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในโครงการรับจำนำข้าว และโครงการนี้ไม่มีฝ่ายการเมืองและคนในรัฐบาลทุจริต ซึ่งผลการตรวจสอบ การพบการทุจริต คือเอกชนบางราย หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ฝ่ายปฏิบัติ ทั้งนี้ยืนยันว่า รัฐบาลและเพื่อไทย เอาจริง มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ อยากให้โครงการเหล่านี้ถูกกล่าวหารายวันว่า ทุจริต วันนี้ถ้าพบการทุจริต ไม่ว่าจะเป็นโรงสี เอกชน ข้าราชการ หรือนักการเมือง รัฐบาลและเพื่อไทยไม่เอาไว้ ซึ่งการตรวจสอบเป็นไกอย่างโปร่งใส ไม่ใช่สร้างภาพ และไม่ปกป้องใคร ทำงานตรงไปตรงมา
“ไม่เหมือนสมัยรัฐบาลนายชวน เพราะเห็นว่าชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ต่างกับยุคนายชวน ปล่อยเกษตรกรมาเรียกร้อง แต่ปล่อยให้หมากัดม็อบจนเกษตรกรฝังใจมาถึงทุกวันนี้ และไม่เคยเห็นหัวเกษตรกรเลย รวมถึงชาวนาเลย เพราะยุคที่เขาออกมาเรียกร้องก็ไม่ช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเพื่อไทยดำเนินการต่างๆ เพื่อเกษตรกร” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พรรคประชาธิปัตย์ จัดเวที เดินหน้าผ่าความจริง ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยตั้งข้อสังเกตว่า การย้ายเวทีกลับเข้ากรุงเทพฯของพรรคประชาธิปัตย์ มีพิรุธหลายเรื่อง และน่าจะร่วมงานกับฝ่ายต่อต้านรัฐทั้งหมดอย่างเป็นระบบ มีกระบวนการแตะมือ วางแผนร่วมกัน ทั้งกับ หน้ากากขาว คอมมิวนิสต์ดาวแดงสนามหลวง ไทยสปริงส์ ที่มาชุมนุมใกล้กัน หวังจะได้เติมคนให้กันสะดวก มิหนำซ้ำ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ยังปราศรัยว่ามีคนมาติดต่อเจรจาให้เป็นรัฐบาลคนละครึ่ง ตนขอท้านายสุเทพ ให้เปิดเผยชื่อออกมา ถ้าเปิดไม่ได้ จะถือว่านายสุเทพหน้าด้านกว่าพวกที่อ้างว่าติดต่อมาอีก ในอดีตที่ผ่านมา นายสุเทพ ติดค้างประชาชนหลายเรื่อง พอโดนจับได้ ก็หนีไปโกหกเรื่องใหม่อีก การกุข่าวสร้างเรื่องแบบนี้ ถือเป็นการทำการเมืองแนวถนัดของคนพรรคนี้ ทำทีว่ามีหลักฐาน อย่างเรื่องขนเงินสดเข้าประเทศช่วงเลือกตั้ง 23 ธ.ค.2550 ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ 1 หมื่นล้านบาท ทยอยขนเงินเข้ามาครั้งละ 1 พันล้านบาท ซึ่งจนบัดนี้ก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่จะนำมาแสดงได้
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ความจริงนายสุเทพ ย่อมรู้อยู่แก่ใจว่า พรรคประชาธิปัตย์ มีศักยภาพเพียงใด ได้รับเลือกตั้งเข้ามากี่เสียง มีความจำเป็นอะไรต้องชวนมาร่วมรัฐบาล แล้วตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านถาวร ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเอาไว้ตรงไหน ชี้ชัดว่าเจตนาเอาเรื่องที่ไม่จริงมาปลุกปั่น เร้ากระแสไล่รัฐบาล ทั้งนี้เห็นว่า นายอภิสิทธิ์ จะเปิดเวทีที่กรุงเทพฯ อีกร้อยเวที ก็ไม่มีผลอะไรต่อรัฐบาล สามารถทำได้ ตราบที่ยังอยู่ในกรอบกฎหมาย
นายอนุสรณ์ กล่าวถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ ระบุบนเวทีปราศรัยว่าการที่นายกรัฐมนตรีจะมาควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม เพราะเป้าหมายหลักต้องการมี รมช.กลาโหม โดยหวังเสียงเพิ่ม ล้วงลูกโยกย้ายนายทหาร ว่า เป็นการพูดที่ไม่รู้จริง ใส่จินตนาการตัดแปะจากหนังสือพิมพ์ ทั้งนี้เห็นว่า นายอภิสิทธิ์ เคยเรียกร้องให้นายกฯต้องจัดการปัญหาใต้ด้วยตัวเอง อย่าลอยตัวหนีปัญหา แต่พอมีข่าวนายกฯจะมาควบ รมว.กลาโหม กลับพูดใหม่ไปอีกทาง
“อยากขอแนะนำนายอภิสิทธิ์ ว่าไม่เหมาะที่จะพูดเรื่องใดๆ ของทหารอีก เอาเวลาไปหา ส.ด.41 ตัวจริง ดีกว่า ประชาชนจะได้หายสงสัยว่า หนีทหาร หรือไม่” นายอนุสรณ์ กล่าว