xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” เหน็บ “ครป.ปู 5” ต่างตอบแทน-เอื้อคนช่วยทักษิณ-โละ รมต.กระดาษชำระ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เทพไท” ชำแหละโผ “ครม.ปู 5” ชี้ “นช.แม้ว” หวังสร้างประวัติศาสตร์การเมืองดันน้องสาวกุมบังเหียนกลาโหมหญิงคนแรก ขณะที่การปรับเปลี่ยนยังเป็นลักษณะสมบัติผลัดกันชม ต่างตอบแทนคนที่เอื้อประโยชน์ให้ระบอบทักษิณ ส่วน รมต.กระดาษชำระถูกเขี่ยทิ้งหลังใช้งานแล้ว เย้ย “เฉลิม” ถูกลดชั้นเป็น รมต.เกรดซี ห่วงการศึกษาไทยไม่พัฒนา 2 ปี เปลี่ยน รมว.ศธ.4 คน ซัด “ณัฐวุฒิ” ตีปี๊บสร้างภาพตรวจโรงสี ท้าแน่จริงต้องไม่บอกล่วงหน้า เสนอตั้ง กก.กลางตรวจสอบแทน ขรก. พร้อมจี้รัฐบาลกู้ภาพข้าวไทย หลังมะกันกักไม่ยอมให้นำเข้า กลัวสารปนเปื้อน

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ วิจารณ์การปรับคณะรัฐมนตรีรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี “ครม.ปู 5” ว่า จากโผรายชื่อกลุ่มบุคคลที่จะรับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี เช่น นายวิเชษฐ เกษมทองศรี ลาออกจากการเป็นประธานบอร์ด ปตท. นางเบญจา หลุยเจริญ ลาออกจากอธิบดีกรมศุลกากร และนายชัยเกษม นิติสิริ ลาออกจากงประธาน ก.ล.ต.รวมถึง ร.ต.อ.เฉลิม อบู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่มีชื่อปรับเปลี่ยนไปเป็น รมว.แรงงาน ซึ่งมีการเก็บของเตรียมย้ายออกแสดงว่ารู้ชะตากรรมตัวเองอย่างชัดเจน ส่วนนายจาตุรนต์ ฉายแสง ก็ยอมรับว่าจะดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ ทั้งนี้ตนขอตั้งข้อสังเกตว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้มี 6 รูปแบบ คือ

1.สร้างประวัติศาสตร์ให้กับบุคคลบางคน โดยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องการสร้างประวัติศาสตร์ให้น้องสาวตั้งแต่เข็นขึ้นเป็นนายกฯ โดยใช้เวลา 49 วัน และให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มานั่งเป็น รมว.กลาโหมหญิงคนแรก 2.เป็นการปรับแบบเก้าอี้ดนตรีสมบัติผลัดกันชม ทั้งที่รัฐมนตรีบางคนสังคมยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ แต่ถูกปรับออกแล้ว เช่น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ และ นายฐานิส เทียนทอง

3.เป็นการสร้างเกียรติประวัติให้ ส.ส.อาวุโสว่าครั้งหนึ่งได้เป็นรัฐมนตรีโดยไม่มีการระบุว่าจะได้อยู่ในตำแหน่งนานแค่ไหน เช่นกรณี นายพ้อง ชีวานันท์ นายพีรพันธุ์ พาลุสุข และนายวีรวัฒน์ โอสถานะเคราะห์ รวมถึงการเอา นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร และนายประเสริฐ ทรัพย์รวงทอง ออกจากตำแหน่ง 4.ปรับเพื่อต่างตอบแทนให้กับกลุ่มคนที่เคยเอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ มาก่อน เช่น นางเบญจา หลุยเจริญ เคยช่วยเหลือเรื่องภาษีหุ้น นายชัยเกษม นิติสิริ ที่เป็นนักกฎหมายเกี่ยวข้องกับการทำงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ หลายเรื่อง รวมทั้ง นายยรรยง พวงราช และนางปวีณา หงสกุล ซึ่งต้องกลับไปดูว่ามีความสัมพันธ์อย่างไรกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.

5.ข้าเก่าเต่าเลี้ยง เช่น การเอานายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ไปเป็น รมว.พาณิชย์ และพวกบ้านเลขที่ 111 เช่น นายวิเชษฐ เกษมทองศรี และนายจาตุรนต์ ฉายแสง 6.กลุ่มกระดาษชำระหรือกระดาษทิชชู คือเมื่อหมดประโยชน์ก็โยนทิ้งไป เช่น กรณี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ที่หลุดจากตำแหน่ง หรือแม้แต่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็ถูกลดชั้นไปเป็น รมว.แรงงาน ถือเป็นการไล่ทางอ้อม เพราะถ้าปลดอาจเป็นปัญหาทางการเมือง จึงเก็บไว้เป็นรัฐมนตรีเกรดซี

นายเทพไท กล่าวว่า เห็นใจกลุ่ม ส.ส.ที่มีความรู้ความสามารถหรือพวกเสี่ยงตายให้ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี เช่น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็กล่าวยอมรับชะตากรรมของตัวเองในรายการชูธง ที่ออกอากาศทางเอเชียอัปเดต กรณี พ.อ.อภิวันทน์ วิริยะชัย ก็ตกโผ ครม.ใหม่ เป็นการเหยียบย่ำน้ำใจคนเสื้อแดงอย่างมาก

ส่วนบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เช่น นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยหลอกใช้ ปั้นจะให้เป็นนายกฯแต่กลับถูกโยนออกจากขั้วอำนาจตกกระป๋องอย่างน่าสงสาร สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือกระทรวงศึกษาธิการ โดยรัฐบาลตั้งแต่ยุค พ.ต.ท.ทักษิณ นายสมัคร สุนทรเวช นาย สมชาย วงศ์สวัสกดิ์ มาจนถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ความสำคัญกับกระทรวงนี้น้อยมาก มีการเปลี่ยนรัฐมนตรีบ่อยครั้ง ยุคพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นรัฐบาล 5 ปี ปรับ รมว.ศึกษาธิการ 6 ครั้ง ขณะที่ในยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นรัฐบาล 2 ปี ปรับ รมว.ศึกษาธิการ แล้ว 4 คน และการนำนายจาตุรนต์ มาดำรงตำแหน่งนี้นั้นก็ไม่สามารถสร้างความมั่นใจในการพัฒนาการศึกษาไทยได้ เนื่องจากเคยเป็นรมว.ศึกษาธิการมาก่อนแต่ไม่มีประวัติอะไรโดดเด่นด้านการศึกษา

นายเทพไท กล่าวว่า การปรับนายบุญทรง ออกจาก รมว.พาณิชย์ แล้วให้ นายนิวัฒน์ธำรงค์ บุญทรงไพศาล มาเป็น รมว.พาณิชย์แทน น่าจะเป็นการเตรียมการเข้าเกียร์ถอยในเรื่องการลดราคาจำนำข้าว ซึ่งเคยลดจากเกวียนละ 15,000 บาท เหลือ 12,000 บาท จนกำลังเป็นปัญหาทางการเมืองจากการชุมนุมเรียกร้องของชาวนา จึงมีการปรับรัฐมนตรีเพื่อทบทวนเรื่องนี้และถอยอย่างมีเชิงมากขึ้น

ทั้งนี้ปัญหาการลดราคาจำนำข้าวไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่ความสำคัญอยู่ที่การโกงกิน ทุจริตของโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพยายามอธิบายกับสังคมว่าโครงการนี้ดีไม่มีการโกงกิน โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ พยายามสร้างกระแสกระพือข่าวตรวจสอบโกดังทั่วประเทศ หากมีเจตนาจะดำเนินการจริงจัง ต้องตรวจโกดังข้าวโดยไม่บอกหรือโฆษณาล่วงหน้า แต่ต้องสุ่มตรวจในกลุ่มเป้าหมายที่มีเบาะแสการทุจริตทันที และคณะกรรมการตรวจสอบไม่ควรเป็นหน่วยงานราชการแต่ควรตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมา เนื่องจากการใช้กลไกราชการจะเป็นไปแบบลูบหน้าปะจมูก การเมืองแทรกแซงได้

“สิ่งที่สังคมวิตกมากที่สุดคือ กรณีที่ต่างประเทศเข้มงวดการส่งออกข้าวไทย หากเป็นเรื่องจริงจะมีผลกระทบต่อประเทศในวงกว้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะธุรกิจส่งออกข้าวไทย ซึ่งเสียแชมป์มาอยู่ในอันดับสามแล้ว ถือว่าสร้างความเสียหายให้กับวงการข้าวไทยเป็นอย่างยิ่ง และจะกระทบกับชาวนาไทยทำให้อาชีพการผลิตข้าวของชาวนาได้รับผลกระทบไปด้วย รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อเกียรติภูมิของประเทศที่มีชื่อเสียงในการเป็นแชมป์ส่งออกและคุณภาพเยี่ยมมาโดยตลอด แต่วันนี้คุณภาพข้าวไทยถูกตั้งคำถาม และกักกันไม่ให้เข้าในบางประเทศ จึงเป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องเรียกความเชื่อมั่นข้าวไทยให้กลับคืนมาให้ได้”


เอกสารที่ นายเทพไท เสนพงศ์  เอามาประกอบการแถลงข่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น