กอ.รมน.จ่อเสนอรัฐบาลสร้างรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย เร่งด่วน กำหนด “แว้ง-ตากใบ” ที่แรก เหตุโจรใต้ใช้เป็นช่องทางเคลื่อนไหว กำหนดรั้วลวดตาข่ายเสาเหล็กสูง 3 เมตร รั้วลวดหนาม และรั้วพืชพรรณไม้
วันนี้ (24 มิ.ย.) พล.ท.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีแนวคิดให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ารวบรวมข้อมูลแนวความคิดในการสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อช่วยควบคุมป้องกันปัญหาความมั่นคงที่ส่วนใหญ่มาจากภายนอก และลดการใช้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนป้องกันความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ว่า จากสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย พบว่าผู้ก่อเหตุได้ใช้บางพื้นที่เป็นช่องทางหลบหนีหรือเคลื่อนไหวหลบซ่อนเข้าไปในเขตประเทศมาเลเซีย มีแหล่งประกอบวัตถุระเบิด นอกจากนี้ยังมีปัญหาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาทำงานและหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย, ปัญหาสินค้าหนีภาษี เช่น น้ำมันเถื่อน, ปัญหายาเสพติด การผ่านเข้าออกประเทศตามช่องทางต่างๆ ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีทั้งที่เจตนาลักลอบเข้ามาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์
กอ.รมน.จึงเห็นควรมีแนวรั้วกำหนดเขตแดนและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ ซึ่งถือเป็นภัยความมั่นคงของชาติ โดยพิจารณาจากลักษณะภูมิประเทศและภัยคุกคาม ได้แก่ รั้วคอนกรีต รั้วลวดตาข่ายเสาเหล็กสูง 3 เมตร รั้วลวดหนาม และรั้วพืชพรรณไม้ ทั้งนี้ ในการกำหนดพื้นที่สร้างรั้วจะพิจารณาจากลำดับความจำเป็นเร่งด่วน เช่น พื้นที่ จ.นราธิวาส ได้แก่ อ.แว้ง และ อ.ตากใบ ซึ่งปรากฏข่าวสารที่ผ่านมา ว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้เป็นช่องทางเคลื่อนไหว หรือการปล่อยให้พื้นที่ที่เป็นป่ารกทึบอาศัยพืชพรรณไม้เป็นรั้วตามธรรมชาติแทนรั้วถาวร เนื่องจากเป็นสิ่งกีดขวางทางธรรมชาติอยู่แล้ว และยังไม่มีข่าวสารการใช้เส้นทางนี้ผ่านเข้า-ออกผิดกฎหมาย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การพิจารณาเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนและความเหมาะสมในการสร้างรั้ว ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า คำนึงถึงการใช้งบประมาณให้ประหยัดและคุ้มค่าที่สุด ที่สำคัญในการสร้างรั้วจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการ ในระดับต่างๆ เพื่อพิจารณาดำเนินการด้วยความรอบคอบ
วันนี้ (24 มิ.ย.) พล.ท.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีแนวคิดให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ารวบรวมข้อมูลแนวความคิดในการสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อช่วยควบคุมป้องกันปัญหาความมั่นคงที่ส่วนใหญ่มาจากภายนอก และลดการใช้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนป้องกันความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ว่า จากสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย พบว่าผู้ก่อเหตุได้ใช้บางพื้นที่เป็นช่องทางหลบหนีหรือเคลื่อนไหวหลบซ่อนเข้าไปในเขตประเทศมาเลเซีย มีแหล่งประกอบวัตถุระเบิด นอกจากนี้ยังมีปัญหาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาทำงานและหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย, ปัญหาสินค้าหนีภาษี เช่น น้ำมันเถื่อน, ปัญหายาเสพติด การผ่านเข้าออกประเทศตามช่องทางต่างๆ ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีทั้งที่เจตนาลักลอบเข้ามาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์
กอ.รมน.จึงเห็นควรมีแนวรั้วกำหนดเขตแดนและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ ซึ่งถือเป็นภัยความมั่นคงของชาติ โดยพิจารณาจากลักษณะภูมิประเทศและภัยคุกคาม ได้แก่ รั้วคอนกรีต รั้วลวดตาข่ายเสาเหล็กสูง 3 เมตร รั้วลวดหนาม และรั้วพืชพรรณไม้ ทั้งนี้ ในการกำหนดพื้นที่สร้างรั้วจะพิจารณาจากลำดับความจำเป็นเร่งด่วน เช่น พื้นที่ จ.นราธิวาส ได้แก่ อ.แว้ง และ อ.ตากใบ ซึ่งปรากฏข่าวสารที่ผ่านมา ว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้เป็นช่องทางเคลื่อนไหว หรือการปล่อยให้พื้นที่ที่เป็นป่ารกทึบอาศัยพืชพรรณไม้เป็นรั้วตามธรรมชาติแทนรั้วถาวร เนื่องจากเป็นสิ่งกีดขวางทางธรรมชาติอยู่แล้ว และยังไม่มีข่าวสารการใช้เส้นทางนี้ผ่านเข้า-ออกผิดกฎหมาย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การพิจารณาเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนและความเหมาะสมในการสร้างรั้ว ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า คำนึงถึงการใช้งบประมาณให้ประหยัดและคุ้มค่าที่สุด ที่สำคัญในการสร้างรั้วจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการ ในระดับต่างๆ เพื่อพิจารณาดำเนินการด้วยความรอบคอบ
