ศปก.กปต.จ่อแบมือของบเพิ่ม อ้างอุปกรณ์ขาดแคลน-ตั้งคณะทำงานจับตาป่วนเดือนรอมฎอน

ที่ประชุม ศปก.กปต.จ่อของบเพิ่ม อ้างตำรวจชายแดนขาดอุปกรณ์ ส่วนการคุยบีอาร์เอ็นรองนายกฯ ไฟเขียว เตรียมตั้งคณะทำงานตรวจสอบเหตุป่วนช่วงเดือนรอมฎอน “ภราดร” ลังเลผลการเจรจา แต่อ้างวางมาตรการไว้แล้ว

วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) โดยมี พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาหารือกว่าสองชั่วโมง หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม พล.อ.นิพัทธ์ เปิดเผยว่า ได้มีการหารือใน 3 ประเด็น คือ 1.การกำหนดการลงพื้นที่ของ ร.ต.อ.เฉลิม และกำหนดจุดพื้นที่จะดำเนินการใน 6 กลุ่มงานที่เคยกำหนดไว้ 2.การเร่งรัดงบประมาณเร่งด่วนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เพิ่งลงปฏิบัติหน้าที่โดยเฉพาะกำลังตำรวจ 1,700 นาย ที่ยังขาดอุปกรณ์เครื่องมือในการทำงาน จึงต้องมีการจัดสรรงบประมาณให้ และ 3.รับทราบรายงานของกระทรวงการต่างประเทศที่รับผิดชอบด้านสิทธิมนุษยชน โดยจะปฏิบัติภารกิจทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะส่งผู้แทนไปร่วมสังเกตการณ์ในการประชุมโอไอซี ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในวันที่ 4-6 พ.ย.ซึ่งรัฐไทยจะมีโอกาสแถลงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชน

พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมยังได้พูดถึงเรื่องข้อกล่าวหากรณีสังหารผู้บริสุทธิ์ 6 ศพที่ จ.ปัตตานี โดย พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฎฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้รายงานต่อที่ประชุมว่าเรื่องดังกล่าวได้ความกระจ่างโดยเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อสามารถจับ นายซาการียา โตะตาหยง อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีความมั่นคงหลายคดี ในการตรวจค้นที่ จ.ปัตตานี ซึ่งได้สารภาพว่ามีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์เสียชีวิตดังกล่าว และได้ให้การว่าได้รับการสั่งการจาก นายอามีน ดาเร็ง อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่เสียชีวิตหลังเกิดการยิงปะทะกัน ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องทำความจริงให้ปรากฏโดยข้อมูลต่างๆ เพราะเป็นเรื่องสำคัญเนื่องจากเจ้าหน้าที่ถูกกล่าวหาจากการปล่อยข่าวเสมอ และในทุกกรณีที่มีการเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์จะมีการแถลงทุกครั้งเพื่อตอบโต้และทำความจริงให้ปรากฏ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะนำข้อเท็จจริงดังกล่าวเสนอไปยังกลุ่มบีอาร์เอ็น หรือไม่อย่างไร พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ผบ.ทบ.ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้ยืนยันมาตลอดว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพราะยึดถือกฎหมายเป็นหลัก ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นฝีคือของผู้ก่อความไม่สงบ

เมื่อถามว่า ในที่ประชุมได้นำข้อเสนอของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ที่ระบุว่าหากเดือนรอมฎอน ยังมีการก่อเหตุความรุนแรงอยู่นั้น ควรยกเลิกการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม ได้ยืนยันในที่ประชุมว่าการพูดคุยยังต้องดำเนินการต่อไป ส่วนในช่วงเดือนรอมฎอนจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการรายงานเหตุการณ์ โดยมีการแยกแยะเป็นรายกรณีอยู่แล้วว่ามีสาเหตุมาจากอะไร ส่วนช่วงเดือนรอมฎอนเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องเฝ้าดูและนำสถิติไปเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ทางกลุ่มบีอาร์เอ็น ได้ตกลงไว้ว่าจะส่งรูปแบบวิธีการลดเหตุความรุนแรงภายในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ โดยผ่านทางประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุย

ด้าน พล.ท.ภราดร กล่าวเพิ่มเติมว่า การพูดคุยกับบีอาร์เอ็นยังต้องดำเนินการต่อไป แต่อาจจะมีการชะลอไว้บ้าง ส่วนมาตรการลดความรุนแรงในพื้นที่นั้น เราก็ต้องรอดูข้อเสนอของบีอาร์เอ็น แต่ก็ไมแน่ใจว่าจะประสบผลสำเร็จมากน้อยแค่ไหน และทางเราก็ได้มีการวงมาตรการ ไว้แล้วด้วยเช่นกัน ส่วนมาตรการเชิงรุกในการดูแลความสงบในพื้นที่ภาคใต้นั้น ต้องมีการปิดล้อมตรวจค้น หลังจากมีข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่งจะเห็นได้จากการปฏิบัติการที่ผ่านมา ที่สามารถตรวจค้นเป้าหมายและเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างถูกต้อง