โฆษกเพื่อไทย สวน “ศุภชัย” โอ่บิ๊กพรรครักไม่ต้องสั่งสอน หยันร้อนตัวข่าวกุ แขวะพวกม็อบไม่เคารพรัฐบาลเลือกตั้ง ยันพร้อมปูดต่อ ด้านรองโฆษกรัฐบาลลั่นพร้อมแจงจัดการน้ำ
วันนี้ (20 มิ.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ระบุให้ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยอบรมโฆษกที่ให้สัมภาษณ์โดยเปิดเผยอักษรย่อของกลุ่มคนที่ต้องการล้มรัฐบาลโดยไม่มีข้อมูลและทำให้ประเทศเสียหายว่า ขณะนี้ไม่มีผู้ใหญ่ในพรรคคนใดมาตำหนิการทำงานของตน พร้อมมองว่าคนที่ออกมาเคลื่อนไหวแบบนี้คือคนที่ร้อนตัว พูดอะไรออกมารู้อยู่แก่ใจ เพราะข้อมูลที่ตนนำออกมาพูดนั้นก็ผ่านการตรวจสอบในเชิงลึกแล้ว โดยฝ่ายรัฐบาลเองก็มีข้อมูลนี้เช่นกัน ตนแค่อยากเตือนสติกลุ่มคนที่คิดล้มล้างรัฐบาลนอกระบบว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญในเรื่องการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย อยากให้คนพวกนี้มีจิตสำนึกว่าเป็นคนที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายมากกว่าตนที่เพียงแค่ออกมาเปิดเผยชื่อย่อคนบงการล้มรัฐบาล เพราะต่างชาติจะไม่ให้ความไว้วางใจเวลาที่มีการออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาลอย่างที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการแสดงให้เห็นว่าไม่เคารพรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและประชาธิปไตยเสียงข้างมาก
“ขอให้คนที่สนับสนุนพวกล้มรัฐบาลถามตัวเองก่อนว่าใครที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายมากกว่ากัน หรือลองไปถามประชาชนดู พวกนี้แหละที่ทำให้นานาชาติไม่เชื่อมั่น ผมไม่อยากโต้คารมมัธยมศึกษากับใคร พวกนี้กินปูนร้อนท้องกันทั้งนั้น” โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว
นายพร้อมพงศ์กล่าวยืนยันว่า ยังคงเดินหน้าตรวจสอบว่าใครอยู่เบื้องหลังในการดำเนินการสหบาทาล้มรัฐบาลต่อไป โดยพรรคเพื่อไทยมีคณะทำงานทีมีทั้งนายทหาร ตำรวจ และข้าราชการที่มีความสามารถเข้าให้ข้อมูลกับพรรคอย่างต่อเนื่องทั้งนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐก็ตรวจสอบในเรื่องนี้อยู่เช่นกัน
ขณะที่ ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ระบุจะยื่นถอดถอนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะ กรณีการบริหารโครงการบริหารน้ำ 3.5 แสนล้านบาทนั้นว่า ถือเป็นสิทธิ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะทำได้ ซึ่งรัฐบาลมีความพร้อมและยินดีที่จะชี้แจงเนื่องกระบวนการต่าง ๆ มีความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ เพราะกระบวนการคัดเลือกภาคเอกชนที่จะมาดำเนินโครงการ ได้มีการพิจารณาผู้เสนอมากว่า 300 ราย จากทั่วโลก ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าจะมีการทุจริตในโครงการ รัฐบาลยินดีรับการตรวจสอบ และที่ผ่านมาก็รับฟังเสียงสะท้อนจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลมีความมั่นใจในความบริสุทธิ์และโปร่งใสของโครงการ และยินดีเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบโครงการด้วย