ค่ำวันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย.2556 นี้ จะรู้ผลกันแล้วว่าใครจะเป็นผู้ชนะในศึกเลือกตั้งซ่อมส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 12 ดอนเมือง (ยกเว้นแขวงสนามบิน) ที่เป็นการดวลกันอย่างเข้มข้น
ระหว่างยุรนันท์ ภมรมนตรี ถูกบังคับให้ลาออกจากส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทยเพื่อมาศึกเลือกตั้งซ่อมแทนเก่ง จอมถีบ-การุณ โหสกุลที่โดนเว้นวรรคการเมืองห้าปีตามคำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งกรณีปราศรัยจงใจใส่ร้าย แทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้สมัครส.ส. เขตเดียวกันจากพรรคประชาธิปัตย์จากเหตุเมื่อตอนเลือกตั้งใหญ่ก.ค.54 ซึ่งแทนคุณได้กลับมาแก้มืออีกครั้งชนกับนักแสดงรุ่นพี่แซม-ยุรนันท์
ช่วงออกสตาร์ทใครๆ ก็บอก “อี้-แทนคุณ” ยากที่จะเบียด “แซม”ได้เพราะฐานเสียงเดิมในเขดอนเมืองของ “เก่ง-การุณ”และเพื่อไทยปักหลักเนียวแน่นมาเกินกว่าสิบปีทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น แม้เก่ง การุณ จะเสียรูปมวยไปบ้างก่อนหน้านี้เพราะประมาทในสนามเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร จนถูกนางกนกนุช นากสุวรรณภาจากพรรคประชาธิปัตย์พลิกเอาชนะเลือกตั้งส.ก.ดอนเมืองเขต 1 โดยเอาชนะนายประเวศร์ วัลลภบรรหาร จากพรรคเพื่อไทยที่การุณหนุนหลัง
แต่ในพื้นที่ก็ยังมีนางพิมพ์ชา โหสกุล ภรรยาเก่ง การุณ ส.ก.ดอนเมืองเขต 2 คอยดูแลพื้นที่ให้เพื่อไทยอย่างเป็นทางการอยู่ ขณะที่แฟนคลับเก่ง-การุณและพวกเสื้อแดงดอนเมืองก็ถือว่ามีลิ่วล้อจำนวนมาก
จึงทำให้หลายคนแม้แต่กับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ที่คุมพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างกรณ์ จาติกวณิช-อภิรักษ์ โกษะโยธิน-คุณหญิงชดช้อย โสภณพานิช -เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคในฐานะผอ.เลือกตั้ง และตัวอี้-แทนคุณ ก็ยังไม่ถึงกับหวังร้อยเปอร์เซนต์ เพราะรู้ดีว่ายังเป็นรองค่อนข้างมาก
แม้ดูจากคะแนนการเลือกตั้งเมื่อ 3 ก.ค. 54 ที่การุณได้คะแนนไป ได้ 38,351 คะแนน ขณะที่ “แทนคุณ ”ได้ 30,675 คะแนนคะแนนที่ห่างกันประมาณ 7 พันกว่าคะแนน ทางการเมืองถือว่ามีสิทธิพลิกชนะได้ หากเตรียมตัวมาดีๆ
แต่เมื่อดูจากผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.3 มีนาคม 56 การุณ กลับมากู้หน้าให้ตัวเองได้หลังก่อนหน้านี้ปล่อยให้ลูกทีมแพ้ในสนามส.ก. ด้วยการทุ่มสุดกำลังในพื้นที่ดอนเมือง ทำให้คะแนนของพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนไป 40,073คะแนนทิ้งห่าง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ที่ได้แค่ 28,092 คะแนน เรียกได้ว่าห่างกันหลายช่วงตัว
ก็เลยมองว่าแซม-ยุรนันท์น่าจะได้เปรียบมีสิทธิ์เข้าวินมากกว่าแทนคุณ เพราะมีฐานเสียงในพื้นที่ซึ่งแน่นหนากว่า แม้จะเป็นรองที่จู่ๆ พรรคก็ส่งมาลงเลือกตั้งเขตดอนเมืองทั้งที่ไม่เคยมีฐานเสียงในพื้นที่มาก่อน เทียบกับแทนคุณซึ่งทำพื้นที่มาตลอดสองปีกว่าไม่ได้
อย่างไรก็ตาม สนามเลือกตั้งซ่อมเขตดอนเมืองครั้งนี้ เป็นสนามเลือกตั้งระดับชาติ ไม่ใช่ระดับท้องถิ่น ปัจจัยการลงคะแนนเสียงของคนดอนเมืองในการเลือกตั้งครั้งนี้ จึงแตกต่างไปจากการเลือกส.ก.และผู้ว่าฯกทม.แน่นอน
อย่างน้อยในแง่ศักดิ์ศรีแล้ว เพื่อไทยในฐานะพรรครัฐบาล แม้จะไม่ได้ครองแชมป์พื้นที่เลือกตั้งกทม.ทั้งระดับชาติและท้องถิ่น เพราะแพ้ให้กับประชาธิปัตย์มาตลอด ทั้งสนามเลือกตั้งส.ส.กทม.-สนามผู้ว่าฯกทม.รวมถึงการเลือกส.ก.และส.ข. แต่เมื่อเป็นการเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม.พื้นที่ซึ่งทางการเมืองถูกมองว่าผลเลือกตั้งจะเป็นปัจจัยชี้วัดความนิยมของรัฐบาลได้ระดับหนึ่งเพราะหากผู้สมัครจากพรรครัฐบาลแพ้เลือกตั้ง ก็จะถูกแปรความหมายว่าแสดงว่าคนกทม.ส่งเสียงสะท้อนให้เห็นว่าไม่พอใจการบริหารงานของรัฐบาล
ดังนั้น หากเพื่อไทยแพ้เลือกตั้งทั้งที่เป็นเจ้าของพื้นที่มาตลอด เป็นต่อแทบทุกประตู แถมใครๆ ก็รู้ว่าดอนเมืองเป็นพื้นที่สีแดงเป็นเขตหนึ่งในกทม.ที่เสื้อแดงมากเป็นพิเศษผ่านการจัดตั้งในรูปแบบต่างๆ เช่น วิทยุชุมชน เพื่อไทยจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองชนะการเลือกตั้งให้ได้ ไม่อย่างนั้น ทัพเพื่อไทยในโซนกทม.ระส่ำแน่นอน
มันจึงเป็นที่มาของการหารือกันอย่างเคร่งเครียดหลายรอบของแกนนำพรรคเพื่อไทยในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง หลังมีการเปิดเผยผลโพลของศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรือ กรุงเทพโพล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในเขตดอนเมือง
ผลสำรวจพบว่าร้อยละ 29.0 จะเลือกอี้-แทนคุณ รองลงมาคือยุรนันท์ ร้อยละ 26.7 ขณะที่ร้อยละ 28.9 ยังไม่ได้ตัดสินใจ และร้อยละ 13.4 ตัดสินใจแล้วแต่ไม่ขอเปิดเผย
แม้ผลโพลที่ออกมาจะทิ้งห่างกันไม่มาก แต่ก็ถือว่าพลิกความคาดหมายของหลายคนแม้แต่กับคนของประชาธิปัตย์เองยังแทบไม่เชื่อ จนต้องมีการกำชับจากแกนนำพรรคอย่างอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคว่าขอให้ทีมงานหาเสียงทุกคนอย่าได้ประมาท
เพราะประชาธิปัตย์ก็เคยเห็นบทเรียนมาแล้วจากกรณีที่โพลทุกสำนักบอกตรงกันว่าพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญมีคะแนนนำม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตรตั้งแต่วันแรกจนถึงวันลงคะแนนเสียงแต่สุดท้ายผลเลือกตั้งก็ออกมาฉีกหน้าโพลกับชัยชนะของสุขุมพันธ์
ประชาธิปัตย์จึงดูเหมือนจะไม่วางใจกับโพลที่ออกมามากนัก ขณะที่ในมุมของเพื่อไทยแล้ว ก็เชื่อว่าผลโพลดังกล่าวยังชี้วัดไม่ได้ว่ายุรนันท์จะแพ้เลือกตั้งเพียงแต่ก็รับฟังไว้เพื่อจะได้เพิ่มดีกรีความเข้มข้นในการหาเสียงให้หนักขึ้น
จึงเป็นที่มาของยุทธศาสตร์หาเสียงโค้งสุดท้ายที่ทุ่มหมดตัวช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อไม่ให้แซมแพ้ เช่นการระดมรัฐมนตรี- ส.ส.กทม.-ส.ก.และส.ข.ของพรรคช่วยกันลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้แซมช่วง 3-4 วันสุดท้ายก่อนวันลงคะแนนเสียงรวมถึงการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ไปเมื่อ 14 มิ.ย.ที่วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง
ขณะเดียวกัน เพื่อไทย ก็คงต้องวัดใจกับเก่ง การุณ ด้วยในการให้ออกแรงอยู่ข้างหลังให้หนักขึ้นเพื่อไม่ให้เพื่อไทยแพ้ หลังมีข่าวลือว่าเก่ง การุณ เล่นบทลอยตัว ไม่ค่อยลงมาช่วยอย่างที่ควรจะเป็น โดยอ้างเรื่องเกรงจะมีปัญหาข้อกฎหมายเพราะโดนตัดสิทธิการเมืองห้าปีอยู่
แต่ข่าวอีกด้านก็ตั้งข้อสังเกตุว่าที่เก่ง ไม่ค่อยช่วยรอบนี้เพราะมองว่าถึงแซมชนะ ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับตัวเอง ผสมกับข่าวลือว่าเหตุหนึ่งที่ทำให้เก่ง ดูอยู่ห่างๆ ก็เพราะก่อนหน้านี้แม้เจ้าตัวจะบอกว่าสนับสนุนคนที่เพื่อไทยส่งทุกคนไม่ว่าใครคนไหนก็ได้ไม่ขัดข้อง แต่ก็มีข่าวว่าลึกๆ แล้วเก่ง การุณ ก็หวังว่าเมียตัวเองคือ นางพิมพ์ชนา โหสกุล ส.ก.เขตดอนเมือง เขต2 จะได้พาสชั้นจากส.ก.ขึ้นไปเป็นส.ส.แทนที่ตัวเอง แต่ปรากฏว่าคนในพรรคไม่มีใครเอาด้วย
เพราะเกรงว่าหากดันเมียเก่ง การุณลงสมัคร แล้วก็ต้องจัดการเลือกตั้งซ่อมส.ก.ดอนเมืองกันอีกตามหลังเลือกตั้งซ่อมส.ส.ดอนเมือง เท่ากับทั้งเก่งและเมีย ทำให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งซ่อมสองครั้ง ยิ่งการที่ปชป.สามารถเจาะส.ก.ดอนเมืองเขต 1 มาได้แล้ว หากไม่คิดอะไรให้รอบคอบ คนดอนเมืองไม่เอาด้วย เพื่อไทย อาจแพ้หมดทั้งสนามเลือกตั้งซ่อมส.ส.ดอนเมืองและสนามเลือกตั้งส.ก. เพื่อไทย จึงส่งแซมลง
ก็ไม่รู้เพราะเหตุนี้หรือเปล่า เลยมีข่าวลือว่าเลือกตั้งซ่อมเก่ง การุณ ไม่ลงมาหนุนเต็มกำลังอยู่ข้างหลังให้เพื่อไทย
ด้านฟากประชาธิปัตย์ ภายนอกดูอาจถ่อมตัวบอกว่าเป็นรอง แต่ลึกๆ ก็เชื่อว่าแกนนำพรรคก็หมายมั่นปั้นมือไว้เยอะว่าต้องการชนะให้ได้ เพราะหากทำสำเร็จจะถือเป็นชัยชนะในพื้นที่เพื่อไทยและคนเสื้อแดง ที่จะสร้างความฮึกเหิมให้กับตัวเองแถมนำไปขยายผลได้ว่า เป็นช่วงขาลงของรัฐบาลเพื่อไทยเพราะขนาดพื้นที่ของตัวเองคนกทม.ยังไม่เลือก
ศึกครั้งนี้ ดูแล้วแกนนำพรรคเพื่อไทยคนหนึ่งซึ่งมีเดิมพันสูงไม่น้อยก็คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ แกนนำพรรคคุมพื้นที่กทม. แม้น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที จะเป็นผอ.เลือกตั้งแต่คนที่คอยบัญชาการเกมเหนือขึ้นมาอีกหนึ่งชั้น ก็คือเจ๊หน่อย ที่ก่อนหน้านี้เพิ่งจะเสียหน้าไปไม่ใช่น้อยกับผลเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ที่ปรากฏว่าพื้นที่หลักของเพื่อไทยและของลูกทีมเจ๊หน่อยแพ้ให้กับประชาธิปัตย์ราบคาบ จนมีข่าวว่าทักษิณ ชินวัตรบ่นอุบกันเลยทีเดียว
เดิมพันครั้งสำคัญดังกล่าวของเจ๊หน่อย จึงเป็นที่มาของการที่มีคนเห็นคุณหญิงสุดารัตน์กับสาโรจน์ หงส์ชูเวช รองผอ.พรรคเพื่อไทยดอดไปหายิ่งลักษณ์ เมื่อหลายวันก่อนถึงทำเนียบรัฐบาล ท่ามกลางข่าวว่าไปหารือกลยุทธ์หาเสียงเลือกตั้งหลังโพลบางสำนักบอกว่าแซมมีโอกาสแพ้ จนเป็นที่มาของการที่เพื่อไทยระดมทีมกันยกใหญ่รวมถึงตัวยิ่งลักษณ์เองด้วยที่ไปช่วยหาเสียงให้แซม ในช่วงโค้งสุดท้ายที่ผ่านมา
หากรอบนี้ เพื่อไทยแพ้เลือกตั้งซ่อมขึ้นมา แม้ น.อ.อนุดิษฐ์ ผอ.เลือกตั้งจะต้องเสียหน้า แต่คนเสียมากสุดก็คือคุณหญิงสุดารัตน์ และคงทำให้เส้นทางกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในครม.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ น่าจะมีปัญหาพอสมควร
กลับกัน หากเพื่อไทยชนะ มันก็ช่วยให้เจ๊หน่อย ได้มีที่ยืนในพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง และทำให้การกลับมาเป็นเบอร์หนึ่งของเพื่อไทยในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีคนในพรรคคนอื่นพยายามขวาง