xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ชี้ “ปู” โดดถก กขช.หนีรับผิดจำนำข้าวชัด แฉโรงสีพิจิตรเคยโดนบัญชีดำยุคแม้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
“ชวนนท์” ทบทวนความจำนายกฯ เปลี่ยน รมต.แจงจำนำข้าวบ่อย ยันรัฐเสียหายเหตุไม่แก้ปัญหา แถมไม่เข้าประชุม กขช.อีก ทั้งที่เป็นประธาน ปฏิเสธความรับผิดชอบชัด ด้าน “มัลลิกา” แฉชาวนาพิจิตรถูกโก่งค่าข้าวจากโรงสีนับพันตัน แถมพบโรงสีถูกขึ้นบัญชีดำสมัยรัฐบาลทักษิณด้วย



วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวลำดับเหตุการณ์ปัญหาโครงการจำนำข้าวว่า ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปลี่ยนผู้ชี้แจงบ่อยจนนายกฯ คงจำไม่ได้ให้ใครชี้แจงบ้างจากนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เป็นนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปลี่ยนมาเป็นนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาจนถึงล่าสุดนายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นสิ่งยืนยันว่าตัวเลขขาดทุนมีอยู่จริง และนายกรัฐมนตรีเห็นแล้วแต่แกล้งทำเป็นไม่เห็นหรือไม่อ่าน โดยโยนเผือกร้อนเหมือนการเล่นเก้าอี้ดนตรีให้คนอื่นมารับผิดชอบแทน และทำตัวเหมือนกับความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นความรับผิดชอบของ รมว.และรมช.พาณิชย์ ทั้งที่เป็นความเสียหายจากนโยบายของนายกและพรรคเพื่อไทย รมว.และรมช.พาณิชย์เป็นเพียงฝ่ายปฏิบัติ

นายชวนนท์กล่าวว่า ทั้งนี้ความเสียหายจึงไม่ใช่ความผิดพลาดของรัฐมนตรีหรือข้าราชการแต่เกิดจากการกำหนดนโยบายของนายกฯที่ไม่มีการป้องกันและแก้ปัญหา อีกทั้งนายกฯ ยังไม่ยอมประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. ที่จะมีการประชุมในวันนี้ ทั้งที่เป็นปัญหาสำคัญเป็นวิกฤตประเทศที่คนไทยทั้งชาติอยากได้รับฟังการชี้แจงจากปากนายก แต่นายกฯ เลือกที่จะละทิ้งการประชุมนี้ทั้งที่เป็นประธาน กขช.โดยตำแหน่ง ในวันที่การประชุมนี้จะมีการรายงานเกี่ยวกับปัญหาการขาดทุนในโครงการจำนำข้าว แสดงให้เห็นชัดเจนว่าต้องการปฏิเสธความรับผิดชอบ แล้วคนไทยจะไว้ใจให้บริหารประเทศต่อไปได้อย่างไร เพราะนายกฯ เอาแต่หนีความจริง ปฏิเสธความรับผิดชอบ แสดงถึงความไม่พร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยอีกต่อไป

นายชวนนท์ได้นำตัวเลขการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าวมาประกอบการแถลงข่าว โดยระบุถึงการขาดทุนของการรับจำนำข้าวใน 3 ฤดูกาลว่ามียอดรวม 220,967 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการข้าวนาปี ปี 54/55 จำนวน 42,963 ล้านบาท โครงการข้่าวนาปรัง ปี 54/55 จำนวน 93,933 ล้านบาท และโครงการข้าวนาปี ปี 55/56 จำนวน 84,071 ล้านบาท ซึ่งมีการปิดบัญชี ณ วันที่ 31 ม.ค. 56 แต่คาดการณ์ว่าจะมีความเสียหายเพิ่มอีกเดือนละประมาณหมื่นล้านบาท และยังมีค่าบริหารจัดการอีก 4 หมื่นล้านบาท รวมแล้วคาดว่าน่าจะขาดทุนราว 260,000 ล้านบาท รัฐบาลจึงไม่ควรเบี่ยงเบนว่าตัวเลข 260,000 ล้านบาทว่าไม่อยู่ในรายงาน เพราะมีความชัดเจนในหลักการคำนวณอยู่แล้ว ที่ต้องตั้งคำถามคือ ทำไมกลายเป็นว่าเอกสารนี้ฝ่ายค้านและประชาชนเห็น แต่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในรัฐบาลไม่เห็น ทำเสมือนกับว่าขณะนี้นายอภิสิทธิ์เวชชชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี แล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นฝ่ายค้านที่ไม่มีข้อมูล จึงขอเรียกร้องให้นางสาวยิ่งลักษณ์ กลับตัวกลับใจเข้าร่วมประชุม กขช.เพื่อพิจารณาแก้ปัญหาในฐานะเป็นผู้นำประเทศ อย่าใช้วิธีวิ่งหนีเพื่อกลบปัญหา แต่ต้องรับผิดชอบต่อปัญหาบ้านเมืองที่พรรคเพื่อไทยคิดประเทศไทยพัง

ทางด้าน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปัญหาของเกษตรกรจังหวัดพิจิตรประมาณ 1,000 ราย ที่ถูกโรงสีโกงค่าข้าวนับพันตัน จากการนำข้าวไปเข้าโครงการแต่ไม่ได้ทั้งใบประทวนและเงิน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก ขาดเงินทุนหมุนเวียนในการปลูกข้าวและเป็นหนี้สินเพิ่ม โดยเกษตรกรเหล่านี้จึงไม่ได้รับเงินจำนำข้าวแม้แต่บาทเดียว เมื่อวงจรการจำนำเป็นแบบนี้ก็จะมีปัญหาว่าหากรัฐไม่ช่วยแก้ปัญหาก็จะคล้ายๆ กับกรณีที่พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ที่ถูกโรงสีที่เข้าร่วมโครงการจำนำของรัฐบาลเอาข้าวไปเวียน ทุจริต และโกงเกษตรกรทำให้ต้องไปฟ้องแพ่งดำเนินคดีกับโรงสีเอาเอง ซึ่งต้องใช้เวลานาน จึงอยากให้รัฐบาลเร่งเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรเหล่านี้ก่อน

น.ส.มัลลิกากล่าวว่า นอกจากนี้โรงสีที่เข้าร่วมโครงการ คือ โรงสีแอลโกแมนูเฟคเจอร์ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า โรงสีนี้ชื่อเก่าคือ ก้องเกียรติ เป็นของเสี่ยคนหนึ่งมีประวัติปี 48-49 ในช่วงรัฐบาลทักษิณ ถูกขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ว่าโกงชาวนา และในรัฐบาลนี้แม้จะมีการเปลี่ยนชื่อ ผู้รับธุรกรรมยังเป็นคนเดิม อีกทั้งยังมีพฤติกรรมซ้ำรอยในสิ่งที่เคยโกงชาวบ้านในปี 48-49 ด้วย และเมื่อตรวจสอบไปยังจังหวัดพิจิตรก็พบว่ามีความพยายามแก้ปัญหา แต่โรงสีอ้างว่าไม่มีสิบล้อไปส่งข้าว ซึ่งข้อมูลจากชาวนายืนยันว่าคงไม่ได้รับใบประทวนเพราะโรงสีนี้ไม่มีข้าวแล้วเนื่องจากนำข้าวไปเวียนเทียน ออกจำหน่าย และมีความตั้งใจที่จะโกงชาวนา โดยล่าสุดมีตัวแทนโรงสีท้าให้ไปแจ้งความดำเนินคดีด้วย จึงเห็นว่าภาครัฐไม่ควรปล่อยให้คดีแบบนี้เกิดขึ้น แต่ต้องไปช่วยเกษตรกรก่อนเป็นอันดับแรก และขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือนายวราเทพ ที่ได้รับมอบหมายให้เข้ามาดูแลเรื่องจำนำข้าว นำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบการพิจารณาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น