หน.ประชาธิปัตย์ รับสับสนข่าว “เอกยุทธ” สาบสูญ งง “เฉลิม” วิเคราะห์ปั๊บ-คนขับรถสารภาพปุ๊บ เชื่อไม่ใช่แค่ชิงทรัพย์ คาดไม่ได้ลงมือคนเดียว ชี้วางแผนซับซ้อน จี้ตำรวจต้องเสนอข้อเท็จจริงโปร่งใส
วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการหายตัวไปของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจเจ้าของเว็บไซต์ ไทยอินไซเดอร์ว่า ได้ติดตามข่าวเพราะเป็นคนมีชื่อเสียง แต่ต้องยอมรับว่าเกิดความสับสนมากในแง่ของกระบวนการหลายๆ อย่าง ตั้งแต่เช้าถึงเย็นเราได้ยินสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับคดีเป็นคนละเรื่องกัน มีการปล่อยข่าวลือต่างๆ มากมาย แต่ไม่สำคัญเท่าการควบคุมตัวคนขับรถ ที่บอกว่ามีการสอบสวนแล้วก็พามาแถลงข่าว ในการแถลงข่าวก็พยายามจะยืนยันว่าเป็นเรื่องของการที่นายเอกยุทธต้องการที่จะเดินทางไปที่อื่น หรือหลบหนีไปเอง แต่หลังจากนั้นพอมีรองนายกรัฐมนตรีออกมาวิเคราะห์ว่าไม่ใช่ แล้วพอตอนค่ำวานนี้ (11 มิ.ย.) ก็มีการให้ข่าวว่าตกลงเปลี่ยนเป็นการสารภาพว่าได้ลงมือฆ่า โดยลงมือรัดคอนายเอกยุทธเพื่อเป็นการชิงทรัพย์ เข้าใจว่าวันนี้ (12 มิ.ย.) จะชัดเจนขึ้นในแง่ของการไปค้นหาว่ามีศพอยู่ที่ จ.พัทลุงหรือไม่ อย่างไร แต่ขณะเดียวกัน ทนายความของนายเอกยุทธก็ระบุให้ข่าวชัดเจนว่าอาจจะถูกแค่ครึ่งเดียวว่า คนขับรถจะเกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไร แต่ที่บอกว่าเป็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์นั้นอาจจะไม่ใช่เช่นนั้น
เมื่อถามว่า เชื่อว่าคนขับรถไม่น่ากระทำการเอง น่าจะมีคนที่อยู่เหนือจากคนรถขึ้นไป ที่สามารถคิดแผนการต่างๆ ได้รอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นการถอดกล้องวงจรปิด คิดอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คิดว่าไม่ได้ทำคนเดียว เพราะมีการจับกุมอีกคนหนึ่ง ยังไม่ชัดเจนว่าบทบาทคืออะไร แต่หัวใจอยู่ที่มีภาพในวงจรปิดที่ร้านอาหาร ที่นายเอกยุทธไปรับประทานอาหาร ซึ่งน่าจะครั้งสุดท้ายที่มีคนเห็นชัดเจนว่านายเอกยุทธอยู่ที่นั่น เพราะว่าในวงจรปิดนั้นเจ้าของร้านอาหารระบุชัดเจนว่ามีการเคลื่อนไหวผิดปกติของตัวคนขับรถ คือพอส่งเสร็จแล้วมีการโทรศัพท์ลุกลี้ลุกลนออกไปแล้วก็กลับมา จึงทำให้เข้าใจได้ว่าช่วงนั้นคือช่วงที่ไปติดต่อกับคนที่คงจะร่วมลงมือกระทำด้วย จึงน่าสนใจเพราะแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ทำลงมือกระทำเพียงคนเดียว น่าจะเรียกว่าติดต่อวางแผนอะไร แต่สุดท้ายก็คือ ถ้ามันเป็นเรื่องของการที่จะชิงทรัพย์ หวังชิงทรัพย์แล้วก็ฆ่าโดยตัวคนขับรถคนเดียว ศักยภาพจะเป็นอย่างนี้หรือ และหลังจากที่ออกจากร้านอาหารก็มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดดิสก์ของวงจรปิดที่บ้านที่หายไป ตัวคนรถจะสามารถทำทุกอย่างโดยลำพังเพียงคนเดียว ที่วางแผนสลับซับซ้อนขนาดนี้หรือ จึงชัดเจนว่า มีการร่วมลงมือทำกันหลายคน คนขับรถต้องเกี่ยวข้องแน่ ปัญหาก็มีอยู่ว่า แรงจูงใจ ทำไมศักยภาพของคนขับรถนี่ถึงได้สูงมาก
เมื่อถามว่า นายเอกยุทธเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง และมีข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับตัวนายกรัฐมนตรีโดยตรงในกรณี ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ และมีข้อพิพาทกับตำรวจ โดยเฉพาะ ผบช.น. จนเป็นข้อสงสัยของสังคม ตำรวจควรทำคดีอย่างไร เพื่อทำให้สิ้นข้อสงสัยในเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สำคัญที่สุดตอนคือเมื่อกรณีนี้อยู่ในความสนใจของสังคมและสลับซับซ้อนในกระบวนการสืบสวน สอบสวน หรือการให้ข่าวกับสาธารณะ การนำเสนอข้อเท็จจริง ต้องทำให้โปร่งใสรัดกุมที่สุด เพราะเช้าแถลงข่าวอย่าง บ่ายมีรองนายกฯ มาพูด ตกเย็นก็มีการมาให้ข่าวอีกอย่าง
“วันนี้ก็จะต้องมีข้อมูลเพิ่มจากทางฝ่ายทนายของนายเอกยุทธ ฉะนั้นเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและหายเคลือบแคลงก็จะต้องมีการอธิบายเพื่อตอบข้อสังเกตต่างๆ ให้กับทางสังคมได้ เพราะทนายความของนายเอกยุทธระบุชัดว่า อาจจะเป็นการตั้งข้อสังเกตอะไรต่างๆ หลังจากนี้ต้องมาดูกันอีกทีว่า คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ หรือว่าความเคลือบแคลงที่มันเกิดขึ้นนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องจะทำอย่างไรให้สังคมหายเคลือบแคลง ก็ต้องดำเนินการทุกอย่างแบบตรงไปตรงมา สามารถตอบคำถามต่างๆ ได้ เราจะพูดอะไรไปล่วงหน้าหรือกล่าวหาใครคงไม่ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” นายอภิสิทธิ์กล่าว