“สุริยะใส” ไม่แปลกใจข่าวปลด ผบ.ทบ.มาพร้อมกับข่าวรัฐประหารหนาหู หลัง “สุกำพล” บี้ “ถวิล” ยุติเคลื่อนไหวกลับมานั่งเลขาฯ สมช.ตามศาล ปค.ตัดสิน ชี้กรณี “ถวิล” เป็นเหยื่อนโยบายบีบ ขรก.เลือกข้าง พร้อมส่งสัญญาณช่วงใกล้โยกย้าย จัดระเบียบ ขรก.ให้สยบยอม พท.
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า การที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ออกมาแนะนำให้นายถวิล เปลี่ยนศรี ยุติการเคลื่อนไหวและยอมรับว่าหากได้กลับมาเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก็ทำงานกับรัฐบาลไม่ได้ เพราะนายถวิลช่วยงานรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ยุคใครยุคมัน ถือเป็นการยอมรับและเป็นหลักฐานชัดเจนว่ารัฐบาลชุดนี้กลั่นแกล้งและเล่นงานข้าราชการประจำที่ไม่ภักดีต่อรัฐบาล และใช้ความพอใจและผลประโยชน์ทางการเมือง เป็นตัวตัดสินผลงาน ให้คุณให้โทษกับข้าราชการประจำ โดยไม่สนใจความรู้ ความสามารถ และผลงาน
นายสุริยะใสกล่าวว่า กรณีของนายถวิลถือเป็นเหยื่อของนโยบายบีบข้าราชการเลือกข้าง หากใครสยบยอมกับรัฐบาลก็อยู่ในตำแหน่งต่อได้ เช่น กรณีของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ทั้งที่เป็นหนึ่งในศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) นอกจากนี้ยังเป็นการส่งสัญญาณในช่วงโยกย้ายประจำปี เพื่อจัดระเบียบข้าราชการที่เป็นกลางหรือที่เคยช่วยงานรัฐบาลที่แล้วให้สยบยอมต่อพรรคเพื่อไทย ถือเป็นการเข้าสู่ยุคมืดของระบบราชการไทยอีกครั้ง หากรัฐบาลใช้หลักเกณฑ์คนของใครของมัน ก็ต้องปลดหรือย้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ที่มีส่วนใน ศอฉ.และร่วมงานกับรัฐบาลที่แล้วด้วย
“คำพูดของ รมว.กลาโหมครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณถึง ผบ.ทบ.โดยตรงด้วยและอาจเป็นคิวต่อไป จึงไม่น่าแปลกใจที่ข่าวย้าย ผบ.ทบ. และข่าวรัฐประหารหนาหูขึ้นเรื่อยๆ”