รมว.กห.บินลงสงขลา แนะเลิกลือปลด “ประยุทธ์” ชี้ยังไม่ถึงเวลา อุบเลื่อนขึ้นหรือนั่งเก้าอี้เดิมต่อ แต่โอ่สนองงานรัฐได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ซัดพวกว่างงานปล่อยข่าว จี้ “แม้ว” รับผิดชอบคำพูดจ่าย 10 ล้านจับมือเผาเซ็นทรัลเวิลด์ ไม่รู้อดีต ป.ป.ช.เรียก 600 ล้านแลกรอดซุกหุ้น ชูนิรโทษฉบับ “วรชัย” ดี ชมแนวทางปฏิรูป “อลงกรณ์” แขวะ “อภิสิทธิ์” หัวหน้า ปชป.ปรองดองยาก
วันนี้ (21 พ.ค.) ที่กองบิน 6 ท่าอากาศยานทหาร เมื่อเวลา 13.30 น. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อตรวจเยี่ยมกองทัพเรือภาคที่ 2 จ.สงขลา ถึงกระแสข่าวการปรับย้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่า ควรจะจบข่าวลือเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องเก่า และไม่มีอะไรแล้ว ทั้งนี้ไม่ทราบว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวดังกล่าว จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ปล่อยออกมาเป็นข่าวไม่ดี ดังนั้นอย่าไปฟังมากนัก ทั้งนี้การปรับย้ายใครต้องเป็นไปตามกติกา และ พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน เพราะยังไม่ถึงเวลา ส่วนจะมีการปรับผู้บัญชาการทหารบกที่อยู่ในตำแหน่งครบ 3 ปีขึ้นไปเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือปลัดกระทรวงกลาโหม หรือไม่นั้น เท่าที่ตนดู กฎหมายไม่ได้บอกไว้เช่นนั้น เมื่อถามว่า แสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความเหมาะสมจะอยู่ในตำแหน่งจนถึงปี 57 จนครบอายุเกษียณราชการ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เขาจะเลื่อนขึ้นมา หรือจะอยู่ที่เดิมก็ได้ เพราะไม่ได้มีกติกา แต่อยู่ที่ความเหมาะสม
“การทำงานร่วมกับรัฐบาล และกระทรวงกลาโหม ก็ไม่มีอะไรกัน ผบ.ทบ.ท่านสามารถทำงานตามที่รัฐบาลร้องขอ และตอบสนองได้ 100% ไม่ใช่แค่ 99% ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดี ส่วนในเดือนตุลาคมนี้จะมีการย้ายหรือไม่นั้นต้องมีการพิจารณาอีกที และผมไม่ได้พิจารณาแค่คนเดียว ต้องมีคณะกรรมการพิจารณาปรับย้ายนายทหารชั้นนายพล ตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ต้องมาดูกันว่าจะเอาอย่างไร ข่าวลือที่ออกมาว่าจะมีการย้ายตอนนี้ ออกจากคนที่ไม่มีงานทำ เลยทำให้มีเรื่องขึ้นมา ผมคิดว่าพอแล้ว และควรจบข่าวได้แล้ว” พล.อ.อ.สุกำพล กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้โปรแกรมสไกป์มายังการชุมนุมของเสื้อแดงครบรอบ 3 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ว่า สถานการณ์วันนี้เห็นได้ชัดเจนว่ามีการแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งทำสิ่งใดก็ไม่ถูกต้องโดนมองติดลบ และอยู่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้เราต้องดูว่าใครเป็นผู้พูด ถ้ามีประโยชน์ก็ต้องฟัง ถ้าไม่มีก็ปล่อยไป ต้องใจกว้างที่จะรับฟัง ส่วนกรณีเสนอเงิน 10 ล้านบาทให้ผู้จับคนก่อเหตุเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์นั้น เป็นสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดว่าถ้าใครจับได้ก็ต้องให้ ซึ่งพูดกับสาธารณชนไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบคำพูด ในส่วนของกระทรวงกลาโหม ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร สำหรับกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาระบุถึงอดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรียกรับประโยชน์ 600 ล้านบาท เพื่อแลกกับการให้หลุดพ้นคดีซุกหุ้นนั้น ตนไม่ทราบ ต้องไปถามท่าน คงตอบไม่ได้ว่าใช่หรือไม่ใช่ เป็นเรื่องที่ตอบยาก เพราะไม่รู้เรื่องจริงเป็นอย่างไร และเรื่องก็เกิดขึ้นมานานแล้ว
เมื่อถามถึงการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่เสนอโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เข้าสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 23 พ.ค.นี้ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ก็ต้องไปคิดกันว่าอะไรที่ดีที่สุด เท่าที่เห็นมีร่างกฎหมายหลายฉบับ ถ้าฉบับไหนดีก็ใช้อันนั้นไป ไม่อยากออกความเห็น เพราะเป็นเรื่องของสภา ซึ่งร่างของ ร.ต.อ.เฉลิม ท่านเองก็บอกว่า ดัดแปลงตรงนั้น ตรงนี้ได้ ไม่มีปัญหา แต่ในส่วนฉบับของ นายวรชัย เหมะ ส.ส. สมุทรปราการ พรรคเพื่อเพื่อไทยนั้น ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องแก้ไข ทั้งนี้ เป็นสิ่งที่ดี จะได้มีตัวเลือกมากขึ้น แต่ต้องไปพิจารณากันว่าจะเลือกเช่นไรให้เหมาะสมที่สุด ซึ่งคำว่าปรองดองมีการพูดกันมาก แต่ก็ต้องดูที่การปฏิบัติด้วย ตนคิดว่า เรื่องความปรองดองนั้น ถ้า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็คงจะยาก หากคนอื่นเป็นหัวหน้าพรรคก็คงจะดี และมีโอกาสมากขึ้น ซึ่งดูจากแนวทางการปฏิรูปพรรคของนายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก็เป็นเรื่องที่ดี ใครๆ ก็ชื่นชม แม้จะอยู่ต่างพรรคแต่ก็ขอชื่นชมว่าเป็นสิ่งที่ดี ใช้ได้