xs
xsm
sm
md
lg

เผย ส.ว.ยื่นชี้แจงแก้ ม.68-237 แค่ 15 คน-ศาล รธน.ตีความ ส.ส.“มาร์ค” พรุ่งนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าคณะโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ (ภาพจากแฟ้ม)
โฆษกศาล รธน.เผยมี ส.ว.ส่งหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแก้ ม.68 และ 237 ตัดสิทธิ์ประชาชนเพียงแค่ 15 คน เชื่อไม่กระทบการพิจารณาคดี ส่วนการประชุมตุลาการฯพรุ่งนี้พิจารณารับคำร้องสมาชิกภาพ “อภิสิทธิ์” กรณีถูกถอดยศ

วันนี้ (15 พ.ค.) นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าคณะโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ในวันนี้เป็นวันที่ครบกำหนดระยะเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญได้อนญาตขยายเวลาให้กับ ส.ว.จำนวน 46 คน ที่ร้องขอขยายระยะเวลาในคำร้องของนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กรณีที่ขอให้ศาลวินิจฉัยการทำหน้าหน้าที่ของประธานรัฐสภา และสมาชิกรัฐสภา จำนวน 312 คน ที่ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และ 237 ว่า เป็นการตัดสิทธิ์ประชาชนในการร้องตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 68 หรือไม่ กับทางศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีผู้ที่ส่งหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามายังศาลรัฐธรรมนูญเพียง 15 คนเท่านั้น สำหรับผู้ที่ยังไม่ส่งหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามาให้ก็คิดว่าไม่ส่งผลกระทบกับการพิจารณาคดีของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และกระบวนการพิจารณาก็น่าจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ จากข้อเท็จจริงที่มีอยู่ แต่ถ้าระหว่างการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญมีความสงสัยในประเด็นต่างๆ ทางศาลรัฐธรรมนูญก็สามารถเรียกเอกสารเพิ่มเติมจากฝ่ายผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องได้

สำหรับในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ค.) จะเริ่มประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในเวลา 09.30 น. โดยมีวาระสำคัญที่เป็นคดีทางการเมืองคือ การพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องกรณีที่ประธานสภาส่งคำร้องของ ส.ส.จำนวน 134 คน เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106(5) ประกอบมาตรา 102(6) หรือไม่ เนื่องจากกระทรวงกลาโหมได้มีคำสั่งปลด ร.ต.อภิสิทธิ์ ออกจากราชการเป็นนายทหารกองหนุน ซึ่งในการประชุมครั้งที่ผ่านมา ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาเนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากนี้ในวันพรุ่งนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีการรายงานความคืบหน้าคำร้องที่เกี่ยวข้องมาตรา 68 และ 237 ว่า เป็นการตัดสิทธิ์ประชาชนในการร้องตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 68 หรือไม่ ทั้งหมดทุกคำร้องที่เข้ามาให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ส่วนตุลาการจะมีคำสั่งใดออกมาหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะตุลาการฯ อย่างไรก็ตามนอกจากคดีทางการเมืองแล้วก็ยังมีคดีอื่นที่สำคัญที่ต้องพิจารณา ซึ่งเป็นกฎหมายทั่วไป


กำลังโหลดความคิดเห็น