อดีต ส.ว.ยอดนักร้องยังไม่เข็ด หลังศาลรัฐธรรมนูญแจ้งเอาผิดดูหมิ่นเจ้าพนักงาน-ศาล แบกหน้ามาศาลจี้สอบ “ชวน-อภิสิทธิ์” หยุดทำหน้าที่ กมธ.แก้ รธน.ม.68 ไม่วายสอดไส้ให้ “ชัช-วสันต์” หยุดปฏิบัติหน้าที่
วันนี้ (14 พ.ค.) ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ได้เดินทางเข้ายื่นคำร้องเพิ่มเติม ขอให้ตรวจสอบนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกรัฐสภา รวม 36 คน กรณีที่สมาชิกรัฐสภา ได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการและร่วมในการอภิปราย เพื่อการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม ตามมาตรา 68 ที่เป็นการตัดสิทธิบุคคลในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญนั้น และศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณารับคำร้องของนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ในการขอให้วินิจฉัยว่า การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวนั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
ดังนั้น จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งการให้ผู้ถูกร้องที่เป็นกรรมาธิการแปรญัญติหยุดการทำหน้าที่ และขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเป็นกรณีฉุกเฉินในการพิจารณาครั้งนี้ด้วยจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่ง หรือคำวินิจฉัยออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง อีกทั้งยังขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งการวินิจฉัยให้นายชวน และนายอภิสิทธิ์ เลิกกระทำการเข้าร่วมเป็นองค์ประชุมในวันที่ 18 เม.ย.2556 และลบหรือยกเลิกคำอภิปรายสนับสนุนญัตติดังกล่าวออกไปจากบันทึกการประชุมรัฐสภา
อย่างไรก็ตาม ในการยื่นคำร้องครั้งนี้ของนายเรืองไกรนั้น ยังได้ร้องขอให้นายชัช ชลวร หยุดปฏิบัติหน้าที่ สืบเนื่องจากมติที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 10 ส.ค.54 ให้สลับตำแหน่งจากประธานศาลรัฐธรรมนูญ มาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้นั้น ไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมาก่อนแต่อย่างใด และขอให้นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ หยุดปฏิบัติหน้าที่ในคำร้องนี้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากการได้มาซึ่งตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อคราวประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 24 ส.ค.54 นั้น องค์ประชุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ตัวแทนของศาลรัฐธรรมนูญได้แจ้งความดำเนินคดีนายเรืองไกร ข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานและดูหมิ่นศาล ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 และมาตรา 198 จากการที่นายเรืองไกร ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อหน่วยงานต่างๆ โดยอ้างว่าการแต่งตั้งนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ และการที่ นายชัช ชลวร ยังเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และสามารถปฏิบัติหน้าที่พิจารณาวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการขัดพระบรมราชโองการ รวมถึงยังให้สัมภาษณ์สื่อด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ จึงก่อให้เกิดความเสียหายต่อศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แสดงให้เห็นเจตนาว่าไม่ได้มีจุดประสงค์ในการตรวจสอบตามสิทธิ แต่มีจุดมุ่งหมายเผยแพร่ให้เป็นข่าวในทางทำลายความน่าเชื่อถือเกียรติคุณ ชื่อเสียงของศาลรัฐธรรมนูญ
