xs
xsm
sm
md
lg

คำเตือนถึงคนชินวัตร ยังกดดันถ่อยเถื่อน-ระวังรวมพลคนเจ็บปวดฮือไล่!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

อาจจะนึกหลงลืมไปว่าในสังคมไทยมีแต่คนเสื้อแดงลิ่วล้อบริวาร ทำให้คนใน “ครอบครัวชินวัตร” คิดเหิมเกริมข่มขู่คุกคามคนอื่นไปทั่ว อยากทำอะไรให้ได้ตามใจปรารถนา ก็สั่งให้ดำเนินการสนองตอบทันทีในทุกเรื่อง โดยไม่ต้องไปสนใจว่าสิ่งที่ทำนั้นจะถูกหรือผิดกฎหมาย สิ่งไหนก็ตามถ้าตัวเองต้องการก็ต้องได้ ไม่ต้องไปสนใจความรู้สึกของสังคมรอบข้าง คิดว่าเมื่อเงินซื้อได้ หรือโยนเศษเงิน มอบตำแหน่งไปให้แล้วก็คงสามารถจะไปควบคุมสั่งการได้อยู่หมัด ไม่มีใครกล้าหือ

เหมือนอย่างปรากฏการณ์เคลื่อนไหวของเครือข่ายในครอบครัวชินวัตร ของ ทักษิณ ชินวัตร กำลังเปิดเกมรุกเข้ามาพร้อมกันแบบหน้ามืด เป็นการเร่งเกมเข้ามาทุกทางแบบไม่เกรงใจใครกันเลยแม้แต่น้อย

จากเดิมที่คิดว่าบรรยากาศการเมืองในช่วงนี้คงจะเงียบสงบไปอีกพักหนึ่ง เนื่องจากคิดว่ารัฐบาลคงจะค่อยๆ ดำเนินการทีละเรื่อง ไม่พยายามสร้างเงื่อนไขเพิ่มเติมขึ้นมาอีก เพราะเมื่อพิจารณาจากผลงานของรัฐบาลที่นำโดย “นายกฯ หุ่นเชิด” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีผลงานที่ไม่เอาไหน พื้นๆ ไม่ได้แตกต่างจากรัฐบาลเก่าๆ แต่อย่างใด ตรงกันข้ามทุกเรื่อง “ห่วยแตก” สิ้นดี ที่เห็นชัดก็คือเรื่องปากท้อง ข้าวของแพงหูฉี่ ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรหลักๆ ไม่ว่าจะเป็น ยางพารา ปาล์ม หรือแม้แต่ข้าวจากโครงการรับจำนำ ที่คิดว่าเป็นทีเด็ด เอาเข้าจริงก็ไม่ได้ตามราคาคุย กลายเป็นช่องทางการทุจริตกันอย่างมโหฬาร ขณะที่การระบายขายต่อต่างประเทศก็ทำไม่ได้ ไม่ใช่เป็นเพราะสาเหตุมาจาก “เงินบาทแข็งค่า” ตามที่พยายามโยนบาปกันอยู่ในเวลานี้ เพราะที่ผ่านมาก็ขายไม่ออกอยู่แล้ว เนื่องจากต้นทุนสูงลิบ สู้ประเทศคู่แข่งไม่ได้

สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นจากความรู้สึกของชาวบ้านจริงๆ ก็คือ ผลสำรวจในเรื่องค่าแรงที่เพิ่มขึ้นวันละ 300 บาท เสียงส่วนใหญ่เห็นว่าชีวิตไม่ได้เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากค่าแรงเพิ่มขึ้น แต่ข้าวของ ค่าครองชีพทุกอย่างแพงขึ้นตาม มิหนำซ้ำยังเสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้างมากขึ้นไปอีก

ขณะที่อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่พรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลมีแต่ข่าวการทุจริต “ชักหัวคิว” ร้อยละ 30-40 อยู่ตลอดเวลา และล่าสุดกำลังดำเนินการในโครงการบริหารจัดการน้ำ ภายใต้งบประมาณ 3.5 แสนล้านบาท ก็เริ่มมีอการส่อให้เห็นถึงการโกงที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างมโหฬาร รวมทั้งล่าสุด มีการผลักดันโคตรเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท อ้างว่าต้องการพลิกโฉมประเทศ แต่ในความเป็นจริงทุกโครงการยังไม่มีรายละเอียด ยังไม่ผ่านการพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อม ลักษณะที่ออกมาจึงถูกมองว่าเหมือนกับต้องการนำเงินก้อนใหญ่มาหมุน มาโปะในโครงการที่ขาดทุน อย่างเช่น โครงการรับจำนำสินค้าเกษตรหลายรายการ เนื่องจากกำลังอยู่ในช่วง “ถังแตก”

แม้ว่ารัฐบาลพยายามเก็บอาการซ่อนเร้นไม่ให้ใครเห็นก็ตาม แต่เชื่อว่าอีกไม่นานมันก็ต้องโผล่ออกมาแน่นอน และอาจเป็นด้วยเหตุหลายอย่างที่กำลังประดังเข้ามา ทำให้ ทักษิณ ชินวัตร ต้องรีบสั่งเปิดเกมรุกไล่ทำตามความฝันของตัวเองให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด สังเกตจากคำพูดที่ว่า “ตัวเองกำลังลอยคอ ใกล้ปอดบวมตายแล้ว” เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า “เขาทนต่อไปไม่ไหวแล้ว”

เมื่อทนต่อไปไม่ไหวก็ต้องเสี่ยงเร่งปิดเกมให้เร็วที่สุด ต้องทำทุกเรื่องพร้อมกัน ในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่อีกด้านหนึ่งมันก็เสี่ยงเหมือนกัน เพราะแต่ละเรื่องที่เร่งเร้าเข้ามาล้วนแล้วแต่ไปเพิ่มอารมณ์ความไม่พอใจให้กับชาวบ้านมากขึ้นเหมือนกัน เพราะมองเห็นว่า นี่คือ การเห็นแก่ตัว-เอาเปรียบคนอื่น

การผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เดินมาถึงจุดเข้มข้น กำลังรุกไล่ถล่มศาลรัฐธรรมนูญ ที่คนพวกนี้มองว่าเป็นอุปสรรคต่อแผนการกินรวบของพวกเขา ถึงกับมีการนัดชุมนุมใหญ่ ข่มขู่คุกคามกันในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้

การผลักดันเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม และร่างพระราชบัญญัติปรองดอง ที่เป้าหมายสำคัญคือ การล้างผิดให้กับ ทักษิณ ชินวัตร อย่างเดียวเท่านั้น ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทุกเรื่อง เกิดขึ้นพร้อมๆกันในเวลานี้ เป็นการสนองประโยชน์ให้กับคนในบางครอบครัว นั่นคือ “ครอบครัวชินวัตร” ไม่ว่าที่ผ่านมาจะเป็นนโยบายรัฐบาลหรือการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ล้วนมีแต่ข้อครหาเรื่อง “ผลประโยชน์ทับซ้อน” แต่ที่ผ่านมาเหมือนกับว่าสังคมยังพออดทนกันได้

แต่ถ้าวันใดก็ตามเมื่อชาวบ้านเขาเริ่มทนไม่ไหว มองเห็นว่ามีแต่เอาเปรียบ เอาแต่ได้ ใช้อำนาจรัฐและมวลชนเพื่อสนองความต้องการของตัวเองอยู่ตลอดเวลา เหมือนอย่างที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้ มันก็ใกล้เวลาเหมือนกัน ที่คนอื่นเขาก็เจ็บปวด และทนไม่ไหว จะรวมพลังกันขับไล่ออกไปให้พ้นทางเหมือนกัน!!
กำลังโหลดความคิดเห็น