ปธ.ส.ส.กทม.ปชป.แจงแก๊งแดงชุมนุมใหญ่แสนคนเป็นสิทธิ แต่ข่มขู่เพื่อหวังผลไม่ได้ ชี้ส่อรุนแรง เหตุนายกฯ นิ่งเฉยพฤติกรรมกุ๊ย สาวกลุยดิสเครดิตศาล แถมได้ใจหลังจ้อมองโกเลียโจมตีองค์กรอิสระ บี้นายกฯ ดูแล อย่าปล่อยแดงป่วน เตือน “ปู” หยุดประมูลทีโออาร์จัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน อย่านิ่ง หลังเสียงค้านเพียบ ชี้ขัด รธน. ตัดสิทธิ ปชช. ฝืน พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม เฉยโดนละเว้นหน้าที่
วันนี้ (2 พ.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุมหน้าศาลรัฐธรรมนูญประกาศยกระดับการชุมนุมเพื่อกดดันให้ตุลาการออกจากตำแหน่ง โดยนัดชุมนุมใหญ่แสนคนวันที่ 8 พ.ค.นี้นั้น นายองอาจกล่าวว่า พรรคยืนยันว่าการชุมนุมเป็นสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่ต้องไม่ใช่การข่มขู่คุกคาม ใช้ความรุนแรงเพื่อให้ได้ตามจุดประสงค์ของผู้ชุมนุม แต่การชุมนุมของคนเสื้อแดงมีแนวโน้มใช้ความรุนแรงซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายประการ คือ 1. นายกรัฐมนตรีให้ท้ายที่ไม่ส่งสัญญาณหรือดำเนินการระงับยับยั้ง หรือชี้ให้เห็นว่าการข่มขู่คุกคามตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง 2. การดำเนินการของกลุ่มคนเสื้อแดงหน้าศาลรัฐธรรมนูญเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการที่จะกำจัดศาลและดิสเครดิตศาลรัฐธรรมนูญทุกวิถีทางจากผู้มีอำนาจในบ้านเมือง 3. คนเสื้อแดงที่ชุมนุมมีความได้ใจมากขึ้นเมื่อได้ฟังคำกล่าวสุนทรพจน์ที่มองโกเลีย ที่นายกฯ โจมตีองค์กรอิสระซึ่งรวมศาลรัฐธรรมนูญอยู่ด้วย ดังนั้น นอกจากนายกฯ จะไม่ส่งสัญญาณยับยั้งการข่มขู่คุกคามแล้วยังกลายเป็นการส่งสัญญาณให้คนเสื้อแดงประกาศชุมนุมใหญ่ขับไล่ศาลรัฐธรรมนูญให้ออกจากตำแหน่งด้วย
ทั้งนี้ เห็นว่านายกฯ ไม่มีหน้าที่กล่าวให้ร้ายประเทศไทยด้วยการพูดความจริงบางส่วน แต่มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงอยากเรียกร้องไปยังนายกว่าก่อนถึงวันที่ 8 พ.ค. 56 ที่จะครบกำหนดวันชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดง ควรจะอออกมาทำทุกวิถีทางที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยไม่ปล่อยให้กลุ่มบุคคลใดก็ตามโดยเฉพาะคนเสื้อแดงดำเนินการในลักษณะเป็นภัยกระทบต่อการใช้ชีวิตและความปลอดภัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
นายองอาจกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลยังเดินหน้าโครงการกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทโดยจะมีการประมูลทีโออาร์ในวันที่ 3 พ.ค. ทั้งที่มีการท้วงติงจากหลายฝ่ายว่าการดำเนินโครงการเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชัน และความไม่โปร่งใส โดยพรรคเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกฯ ลงมาแก้ปัญหา แต่นายกฯ ก็ยังไม่ส่งสัญญาณหรือดำเนินการยับยั้งไม่ให้กระบวนการในโครงการนี้ที่จะมีการประมูลทีโออาร์ในวันที่ 3 พ.ค.นี้ กลับปล่อยให้เดินหน้าต่อ ทั้งๆ ที่มีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 85 ที่บัญญัติว่า รัฐต้องดำเนินการตามแนวนโยบานด้านที่ดิน ซึ่งจะต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม แต่นับจากมีโครงการกู้เงิน 3.5 แสนล้าน รัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แต่ใช้อำนาจดำเนินการตามอำเภอใจ นอกจากนี้ยังมีความผิดปกติในเรื่องไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ได้พยายามเคลื่อนไหวเพื่อยับยั้งเรื่องนี้ แต่นายกรัฐมนตรีไม่ยับยั้งหรือยุติควาไม่โปร่งใสที่อาจเกิดขึ้น จึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีอีกครั้งให้แก้ปัญหาอย่างถูกต้องด้วยการส่งสัญญาณระงับไม่ให้กระบวนการตามโครงการเงินกู้ 3.5แสนล้านดำเนินการได้อีกต่อไป ถ้าไม่ทำนายกฯก็เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และไม่พยายามที่จะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายกฯคงทราบดีว่าผลของการไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร