รมว.มหาดไทย คอนเฟอเรนซ์ผู้ว่าฯ-นายอำเภอ เบรกวิจารณ์พูดคุยสันติภาพ สมช.-บีอาร์เอ็น อ้างเป็นหน้าที่ ยึดผลเจรจาผู้แทนฯ เป็นหลัก เอาแน่ จัดสานเสวนาปรองดอง 108 เวที เริ่ม พ.ค.นี้
วันนี้ (29 เม.ย.) ที่กระทรวงมหาดไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย โดยมีการถ่ายทอดผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ว่า วันนี้ได้มีการประชุมร่วมคณะผู้แทนพูดคุยสันติภาพ ขอให้ทุกฝ่ายได้ช่วยติดตามผลการเจรจาเพื่อที่จะได้เกิดความสงบเรียบร้อย ส่วนตัวเชื่อว่าความสงบจะเกิดขึ้นได้ขึ้นอยู่กับการเจรจา ไม่ใช่การรบราฆ่าฟัน หากรบกันไปจะมีแต่ความรุนแรงและสูญเสียมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ไม่ควรไปวิพากษ์วิจารณ์ เพราะถือเป็นหน้าที่ของคณะผู้แทนฯ ที่จะไปเจรจา แล้วไปสร้างความเข้าใจ
“เรื่องความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ นายกรัฐมนตรี จะนั่งเป็นประธานการประชุมทุกวันพฤหัสบดี มีผู้บัญชาการทหารบก เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และเลขาศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมหารือ ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยขอให้ทางผู้ว่าฯสั่งการไปทุกอำเภอตั้งศูนย์ปฏิบัติการ แล้วรายงานข้อมูลทั้งหมดผ่านนายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทยในทุกสัปดาห์ เพื่อที่จะได้นำข้อมูลมาเสนอต่อที่ประชุม ตรงนี้ให้ยึดถือเป็นนโยบายสำคัญ แล้วยึดผลการเจรจาของคณะผู้แทนฯ เป็นหลักในการดำเนินงาน” รมว.มหาดไทย กล่าว
นายจารุพงศ์ ยังกล่าวตอนหนึ่งว่ากระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องจัดการสานเสวนา หาทางออกระเทศไทย 108 เวที ทั่วประเทศ โดยจะเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคมนี้ ใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนในการจัดทำ แต่ละจังหวัดต้องเป็นเจ้าภาพหลักในการอำนวยความสะดวก ส่วนเนื้อหาของการเสวนานั้น เป็นในส่วนของฝ่ายวิชาการ ซึ่งจะเชิญประชาชนกลุ่มตัวอย่างจำนวน 75,000 คน มาแสดงความคิดเห็น เพื่อที่จะได้รู้ว่าคนไทยทั้งประเทศต้องการอะไร และจะมีข้อแก้ไขอย่างไรบ้าง ซึ่งก็จะทำให้สามารถกำหนดทิศทางในการหาทาออกให้แก่ประเทศไทยได้อย่างสงบสุข
ด้าน นายขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า การจัดเวทีพูดจาหาทางออกประเทศไทย จะมีการเชิญวิทยากรเข้ามาอบรม 2 รุ่น จำนวน 440 คน แบ่งเป็น รุ่นที่ 1 อบรมในวันที่ 18-19 พ.ค.และรุ่นที่ 2 อบรม 25-26 พ.ค.และจะมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกิจกรรมในการเสวนาดังกล่าว เป็นการนำเสนออย่างต่อเนื่อง แต่ขณะนี้อยู่ในช่วงของการรองบประมาณเงินสนับสนุน จากสำนักงบประมาณ ส่วนงบประมาณที่ใช้นั้น กรมการพัฒนาชุมชนจะจัดโอนให้แต่ละจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ ไม่ว่า จะเป็นการจัดเวที โดยใช้งบทั้งสิ้น 160 ล้านบาท ส่วนเนื้อหาของการเสวนาทางคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) จะเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมดรวมถึงการอบรวมวิทยากรด้วย อย่างไรก็ตามในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.จะดำเนินการจัดสานเสวนา ทั้ง 108 เวทีไปพร้อมกัน และในเดือน ส.ค.จะรายงานผลไปยัง ปคอป.ผ่านไปทางรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง