“ปู” ปล่อยแดงขู่ศาล รธน. สั่ง รพ.เอกชนรับผู้ป่วยฉุกเฉิน แต่ญาติต้องจ่ายไปก่อน

“ยิ่งลักษณ์” ปล่อยแดงชุมนุมข่มขู่ศาลรัฐธรรมนูญต่อ บอกเจตนาแก้กฎหมายหวังสู่กระบวนการยุติธรรม หวังอำนาจอธิปไตยสมดุล เมินสื่อซักสาวกทำเกินเหตุ-รู้แล้ว 30 บาทใช้ รพ.เอกชนไม่ได้ จี้ทุกโรงพยาบาลต้องรับผู้ป่วยฉุกเฉิน แต่ญาติต้องจ่ายสำรองไปก่อน สั่งสอบแล้ว อ้างเจ้าหน้าที่ไม่รู้ใช้สิทธิ์ได้ สวนแพทย์ชนบท บอก ครม.ออกมติแล้วต้องปฏิบัติตาม

วันนี้ (27 เม.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเดินทางไปร่วมประชุมประชาคมประชาธิปไตย ครั้งที่ 7 ที่ประเทศ มองโกเลีย ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดง ปักหลักชุมนุมหน้าศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงประกาศยกระดับการชุมนุมหากศาลรัฐธรรมนูญไม่ยกเลิกรับคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา68 ตามที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ไปยื่นไว้ ว่า การชุมนุมเรียกร้องหากอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายก็ถือเป็นสิทธิ พร้อมเชื่อว่าเจตนาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญสมาชิกสภา อยากเห็นทุกอย่างเดินไปตามกระบวนการยุติธรรม ตามที่ผู้ร้องและผู้ถูกร้องไปยื่นต่อศาลให้มีการพิจารณา และเชื่อว่ากระบวนการในการบริหารประเทศของทั้งสามเสาหลัก ทั้งฝ่ายตุลาการ บริหารและนิติบัญญัติจะเดินหน้าทำงานร่วมกันให้เกิดความสมดุลขึ้นภายในประเทศ พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีปฏิเสธตอบคำถามในกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศยกระกับการชุมนุมปิดล้อมศาลรัฐธรรมนูญที่ถือว่าทำเกิดขอบเขตของระบอบประชาธิปไตยหรือไม่

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่เกิดข้อร้องเรียนการใช้สิทธิ์ 30 บาทรักษาทุกโรค ในกรณีฉุกเฉินที่ไม่สามารถใช้ได้ใน รพ.เอกชน จนเกิดการร้องเรียนว่า ขณะนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบและรายงานให้ตนเองรับทราบ ทั้งนี้ ยืนยันว่าโรงพยาบาลทุกโรงพยาบาลต้องรับผู้ป่วยเข้ารักษาในกรณีฉุกเฉินตามหลักมนุษยธรรม ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะโรงพยาบาลและประชาชนไม่ทราบว่ามีการใช้สิทธิ์กรณีฉุกเฉิน ทางรัฐบาลจะต้องเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์ เพื่อไม่ให้เกิดการร้องเรียนตามมาภายหลัง

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีขอความร่วมมือ รพ.เอกชนให้รับผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน เข้ารับการรักษา แต่ผู้ป่วยต้องสำรองจ่ายไปก่อน พร้อมยืนยันว่าค่าใช้จ่ายที่สำรองจ่ายจะได้รับคืนตามเงื่อนไขอย่างแน่นอน ส่วนกรณีข้อเสนอของแพทย์ชนบทที่ออกมาเรียกร้องรัฐบาลไม่ให้ยกเลิกระบบจ้างเหมานั้น ตามมติครม.ได้มีแนวทางในการแก้ไขไปแล้ว ยืนยันว่า ต้องปฏิบัติตามมติดังกล่าว ซึ่งหาก รพ.ไหนได้รับผลกระทบต่อเรื่องดังกล่าว ให้แจ้งมาทางรัฐบาลเพื่อจะได้นำมาหาทางแก้ไข