พท.ประเดิมอีสาน กล่อมสาวกแก้ รธน.เป็น ปชต.-ล้างผิดเพื่อ ปชช. แจงปมกู้สร้างชาติ

“อนุสรณ์” แจงแผน พท.เดินสายปราศรัยทั่วไทยช่วงปิดสมัยประชุม วางไว้ 10 จุด เริ่มที่อีสาน เน้นเรื่องคืบหน้าจัดการน้ำ ระบบลอจิสติกส์ใหม่ พร้อมกล่อมสาวกหนุนแก้ รธน. โบ้ยศาล รธน.ทำชะงัก เหตุแนะแก้รายมาตรา แต่ปัญหาไม่จบ ชี้ขัดแย้ง 2 สถาบัน ยกสภาไม่ยอมศาลจุ้น และปม พ.ร.บ.ปรองดอง อ้างเพื่อ ปชช.แกนนำไม่เกี่ยว รับ กทม.-ปริมณฑล-ใต้ ไม่ชัวร์จัดตอนไหน

วันนี้ (26 เม.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเตรียมจัดเวทีปราศรัยใหญ่ทั่วประเทศว่า สภาผู้แทนราษฎรปิดสมัยประชุมเป็นเวลาประมาณ 3 เดือน ซึ่งจะเปิดอีกครั้งต้นเดือนสิงหาคม จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะรายงานให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบในสิ่งที่พรรคได้ดำเนินการไปแล้ว รวมถึงชี้แจงปัญหาทางการเมืองต่างๆ โดยทาง ส.ส.จะไปลงพื้นที่ชี้แจงและจัดกิจกรรม นอกจากนี้ได้จัดการประชุมประชาชนในพื้นที่ทั่วทุกภาคของประเทศ เบื้องต้นกำหนดไว้ 10 จุด โดยเน้นการปราศรัยชี้แจงใน 3 เรื่องใหญ่ ที่อยู่ในการดำเนินการของสภาฯ

เรื่องแรกเป็นเรื่องชี้แจงความคืบหน้าโครงการไทยแลนด์ 2020 และโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โดยทางรัฐบาลมีดำริจะแก้ไขปัญหาระบบบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม และวางรากฐานการจัดระบบลอจิสติกส์ใหม่ของประเทศ เพื่อให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก และช่วยสร้างการเจริญเติบโตของประเทศ

นายอนุสรณ์กล่าวต่ออีกว่า เรื่องที่ 2 คือ การชี้แจงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยได้กำหนดเป็นนโยบายของรัฐบาลในช่วงที่ไปหาเสียงกับพี่น้องประชาชนว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยเรื่องนี้ได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ซึ่งยังติดขัดเรื่องความเห็นที่แตกต่างระหว่างสมาชิกรัฐสภาและศาลรัฐธรรมนูญ ยังค้างอยู่ในวาระ 3 ที่มาตรา 291 โดยศาลรัฐธรรมนูญได้แนะนำให้มีการแก้ไขรายมาตรา จากนั้นเมื่อสภาฯ ได้ดำเนินการแก้ไขรายมาตราก็ได้เกิดความขัดแย้งระหว่างฝ่ายตุลาการกับฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นความขัดแย้งระหว่าง 2 สถาบัน โดยทางสมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่มีความเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา โดยที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจมาแทรกแซง ซึ่งกระบวนการทั้งหมดในขณะนี้ คือ สภาผู้แทนราษฎรไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาระงับยับยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภา จึงจำเป็นจะต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป

เรื่องที่ 3 ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจคือ การทำความเข้าใจเรื่องการออก ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ว่าเป็นการนิรโทษกรรมเฉพาะส่วนของประชาชนทุกสีทุกฝ่าย ไม่ใช่นิรโทษกรรมแกนนำ ทั้งนี้เพื่อลดปัญหาความตึงเครียดและความขัดแย้งต่างๆ ในสังคม โดยใน 3 เรื่องสำคัญนี้ยังคงเป็นเรื่องที่ติดค้างอยู่ในการพิจารณาของสภาฯ จึงต้องการใช้โอกาสนี้ในการชี้แจงให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบถึงข้อเท็จจริง และขั้นตอนการดำเนินการ ทั้งนี้ จึงได้ใช้เวลาในวันเสาร์และอาทิตย์ของทุกสัปดาห์ โดยมีกำหนดการลงพื้นที่ทั้งภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล โดยจะเริ่มจัดปราศรัยครั้งแรกในภาคอีสาน วันเสาร์ที่ 27 เม.ย.นี้ที่ จ.อุดรธานี

นอกจากนี้ นายอนุสรณ์ยังกล่าวด้วยว่า มีการจัดเวทีปราศรัยที่ กทม. ปริมณฑล และภาคใต้ โดยขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสถานที่ได้ แต่ในเบื้องต้นจะเริ่มอยู่ประมาณ 9-10 จังหวัดก่อน ในทุกๆ เสาร์และอาทิตย์ จนไปทุกจังหวัด และทางพรรคเพื่อไทยจะเร่งลงพื้นที่ในการดำเนินการกระจายตัว ส.ส. เพื่อทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด และจะทำการสรุปข้อมูลเพื่อปรับปรุงการทำงานและดำเนินการต่อไป