กกต.เผยต้นเดือน พ.ค.นี้ ได้ผลสรุปคดีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ หลังส่งให้ฝ่ายกฎหมายศึกษา ไม่ทราบ กกต.บอกสอบสวนไม่ผิด ชี้ “ธาริต” ส่งหนังสือแค่ขอข้อมูลผู้บริจาค แต่ยังไม่มีผลพิจารณาเรื่องขัดต่อ พ.ร.บ.พรรคการเมือง
วันนี้ (25 เม.ย.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า กกต.ไม่เคยคัดค้านหรือทักท้วงกรณีบริจาคเงินเข้าพรรค ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้งข้อหาว่าการหักเงินในบัญชีเงิน ส.ส.จำนวน 20,000 บาทเข้าพรรค อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 57 วรรค 2 ที่กำหนดให้การบริจาคเงินแก่พรรคการเมืองตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไปต้องสั่งจ่ายเป็นตั๋วแลกเงิน หรือเช็คขีดคร่อมด้วยตนเองว่า เนื่องจากในขณะนั้นยังไม่มีผู้ร้องเข้ามา กกต.จึงไม่ได้มีการพิจารณาว่าเรื่องนี้ผิดหรือถูก จนกระทั่งนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้นำเรื่องนี้ร้องไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ และปรากฏเป็นข่าวออกมา กกต.เห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นความปรากฏที่เกี่ยวข้องกับ กกต.โดยเฉพาะ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจน กกต.จึงให้ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายดำเนินการศึกษาซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา และยังไม่มีผลสรุปออกมา แต่คาดว่าผลจะออกมาภายในต้นเดือน พ.ค.นี้
สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่าที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของ กกต.บอกว่ามีการสอบสวนแล้วว่าไม่ผิด นางสดศรีกล่าวว่า กกต.เองก็ยังไม่ทราบว่าปรากฏออกมาในข่าวได้อย่างไร เนื่องจากยังไม่มีการแจ้งเรื่องมาให้ กกต.ทราบ
เมื่อถามว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ระบุว่าได้ทำหนังสือสอบถามมายัง กกต. อย่างเป็นทางการ และผู้แทน กกต.ไม่กล้ายืนยันว่าเรื่องนี้ผิดหรือถูก นางสดศรี กล่าวว่า สิ่งที่ดีเอสไอสอบถามมานั้น เป็นการมาขอข้อมูลจาก กกต.ว่ามีใครบริจาคกี่ราย และบริจาคกันคนละเท่าไหร่ ซึ่งทาง กกต.ได้ให้ข้อมูลไปแล้ว ส่วนเรื่องผลการพิจารณาว่าการบริจาคเงินครั้งนี้ผิด พ.ร.บ.พรรคการเมืองหรือไม่นั้น กกต.ยังไม่มีผลการพิจารณาในเรื่องนี้ ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาข้อกฎหมายโดยที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายว่าการบริจาคเงินให้พรรคการเมืองเกิน 20,000 บาทขึ้นไป ส.ส.ต้องออกเช็คในนามของตนหรือไม่