ส.ส.กลุ่มปฏิรูป ปชป.เดินหน้าสังคายนาพรรค ระบุถ้าอยู่เฉยจะแพ้เหมือน 21 ปีที่ผ่านมา บีบแกนนำปฎิรูปแบบเปิดกว้างให้สังคมมีส่วนร่วม นโยบายต้องตอบต่อสังคมทุกภาคส่วนได้ และการบริหารจัดการโครงสร้างภายในต้องสนองตอบต่อพลวัตรทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลง เผยจะมีคณาจารย์จากสถาบันต่างๆ มาเป็นที่ปรึกษาวางระบบโครงสร้าง ก่อนนำเสนอกรรมการบริหารพรรค
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคกลาง แถลงเรื่องการปฏิรูปพรรคว่าได้มีการประชุม ส.ส.กลุ่มปฏิรูปเมื่อวานนี้ (24 เม.ย.) เพื่อเสนอแนวทางยกเครื่องพรรคนำไปสู่การปรับปรุงให้ดีขึ้น ด้วยการสร้างระบบและโครงสร้างที่ดี ไม่เกี่ยวกับเรื่องตัวบุคลากร โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ก็เห็นด้วยกับการปฏิรูป แต่ไม่เห็นด้วยกับการออกมาทวิตเตอร์ของตนเอง
ด้านนายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการหารือร่วมกัน ของ ส.ส.จากทุกภาคประมาณ 20 คน เพื่อประมวลและสรุปแนวทางเพื่อเสนอกรรมการบริหารและที่ประชุมใหญ่ของพรรค โดยมีความเห็นพ้องต้องกันว่าพรรคมีความจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปให้พรรคเป็นที่พึ่ง ที่หวังของประชาชนและประเทศ เป็นอนาคตให้กับบ้านเมือง เพราะมองเห็นจุดอ่อนและจุดแข็งของพรรค
นายนครกล่าวว่า สิ่งที่ต้องปฏิรูปคือ 1. นโยบายต้องสนองตอบต่อสังคมทุกภาคส่วน สนองตอบประชาชนในทุกระดับชั้น เป็นความหวังของประเทศและประชาชนที่สัมผัสเป็นรูปธรรมได้ 2. การบริหารองค์กรภายในต้องดูแลเรื่องการบริหารจัดการโครงสร้างให้สนองตอบต่อพลวัตรทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน
3. มีความจำเป็นต้องเปิดกว้างให้บุคลากรทั้งในและนอกพรรคที่มีความรู้ความสามารถและมีอุดมการณ์พร้อมเสียสละให้บ้านเมืองเข้ามามีส่วนร่วมมีที่ยืน มีโอกาสนำบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถมาเป็นบุคลากรขับเคลื่อนพรรคเพื่อสนองตอบโจทย์ประเทศและประชาชนมากขึ้น โดยภายใน 30 วันจะมีคณาจารย์จากสถาบันต่างๆ มาเป็นที่ปรึกษาเพื่อวางระบบว่าโครงสร้างควรเป็นแบบไหน จากนั้นจะนำเสนอต่อกรรมการบริหารพรรค ถ้าประชาชน สมาชิกพรรค บุคลากรในและนอกพรรค และผู้ที่คาดหวังให้พรรคเป็นสถาบันการเมืองตอบโจทย์ประเทศไทยได้ให้เสนอแนวคิดวิธีการในการบริหารให้พรรคเป็นของมหาชนของประเทศที่ประชาชนฝากอนาคตไว้ได้ จากนั้นจะมีการจัดทำพิมพ์เขียวเสนอกรรมการบริหารพรรค เพื่อเสนอสภาที่ปรึกษาของพรรค และจะเสนอต่อที่ประชุมใหญ่เพื่อขับเคลื่อนพรรคต่อไป
นายนครปฏิเสธว่าการจะทำนโยบายที่ตอบสนองทุกกลุ่มไม่ได้หมายถึงว่าจะแข่งนโยบายประชานิยมกับพรรคเพื่อไทยเพราะการกำหนดนโยบายต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง และการพัฒนาที่ยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้นโยบายของพรรคไม่อยู่บนพื้นฐานความจริง และไม่ใช่การพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างไร นายนครกล่าวว่า ไม่ใช่ นโยบายพรรคอยู่บนพื้นฐานความจริงและความยั่งยืน แต่คิดว่ายังไม่เพียงพอ เมื่อถามว่าหากไม่เพียงพอแล้วมีอะไรเป็นรูปธรรมที่พรรคต้องทำเพิ่มเติม นายนครกลับตอบไม่ได้ โดยอ้างว่าจะมีการนำเสนอต่อไป
นายนครยังย้ำว่า แนวทางการปฏิรูปในครั้งนี้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาฯ เห็นด้วยเพียงแต่ไม่ต้องการให้นำมาเป็นประเด็นนอกพรรคโดยอยากให้คุยกันภายในพรรค บางอย่างก็สมควรพูดในพรรค แต่บางเรื่องก็ต้องเปิดกว้างเพื่อให้สังคมรับทราบ และเมื่อเสนอต่อกรรมการบริหารพรรคแล้ว ก็ต้องมีคำตอบว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย หรือหาจุดร่วมกันอย่างไร เพราะกรรมการบริหารพรรคก็ต้องมีคำตอบให้สังคมด้วย หากพรรคปฏิเสธสังคมพรรคก็จะแพ้ เหมือนอย่างที่พ่ายแพ้มาตลอด 21 ปี
ผู้สื่อข่าวถามถึงการขับเคลื่อนที่อ้างว่าจะเพิ่มความเข้มแข็งให้แก่พรรคนั้นได้มีการมองในมุมกลับหรือไม่ว่า กำลังกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามนำไปใช้เป็นอาวุธกลับมาโจมตีพรรคตัวเอง นายนครกล่าวว่า ถึงแม้ตนจะไม่ออกมาพูดเรื่องนี้ ฝ่ายตรงข้ามก็ทราบจุดอ่อนของพรรคอยู่แล้วและรู้ดีว่าพวกตนคิดอย่างไร