ม็อบแก๊งแดงหน้าศาล รธน.ประสาทกิน เจอตุลาการศาลฯ ใช้วิธีนิ่งเฉย ประกาศชุมนุมต่อเนื่องจนกว่าจะหยุดปฏิบัติหน้าที่ หลังช่วงค่ำทำเหิมพยายามบุกสำนักงานศาลฯ แต่ไม่สำเร็จ ขณะเดียวกันเตรียมยื่นหนังสือสำนักงบฯ งดจ่ายเงินเดือน พร้อมล่า 2 หมื่นชื่อถอดถอน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ (24 เม.ย.) ว่า กลุ่มคนเสื้อแดงนำโดยนายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา หรือเล็ก บ้านดอน ผู้อำนวยสถานีวิทยุคนไทยหัวใจเดียวกัน ยังคงปักหลักชุมนุมกดดันเรียกร้องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คนยุติการทำหน้าที่โดยเด็ดขาด ต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 3 โดยแกนนำได้สลับกันขึ้นเวทีปราศรัย และมีการนำวงดนตรีขึ้นมาร้องเพลง ซึ่งบรรยากาศยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีเหตุความรุนแรงใดๆ แม้จะมีรายงานว่าเมื่อ 20.00 น.ของวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมาผู้ชุมนุมพยายามที่จะเคลื่อนขบวนเข้ามาบริเวณสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่พอใจท่าทีของตุลาการที่ไม่มีการตอบสนองต่อคำเรียกร้องให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ จนเกิดการปะทะกับเจ้าหาน้าที่ตำรวจที่ดูแลรักษาความปลอดภัยแต่ก็เพียงเล็กน้อยเป็นระยะเวลาสั้น ไม่มีใครได้รับการบาดเจ็บ
นายพงษ์พิสิษฐ์กล่าวว่า การชุมนุมกดดันตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 3 นี้ตัวแทนของทางกลุ่มจะไปยื่นหนังสือที่สำนักงบประมาณเพื่อขอให้ยุติการจ่ายเงินเดือนให้แก่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน และจะมีการล่ารายชื่อประชาชนไม่น้อยกว่า 2 หมื่นรายชื่อเพื่อยื่นถอดถอนตุลาการฯ ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป. ช.) โดยทางกลุ่มจะยังชุมนุมต่อเนื่องไปไม่มีกำหนดจนกว่าข้อเรียกร้องจะเป็นผลหรือมีวิธีทางออกที่สามารถตกลงกันได้
“ขณะนี้ยังไม่เห็นว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีท่าทีรับฟังข้อเรียกร้องหรือหาข้อตกลงร่วมกัน แต่กลับเพิกเฉยและมองว่าการกระทำของเราเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ต่อไปประชาชนอาจจะมียุทธวิธีที่ตอบโต้เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ตุลาการฯ ทำตามคำเรียกร้องดังกล่าว”
ด้านนายสมหวัง อัสราษี รองประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงดังกล่าวว่า เป็นสิทธิของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะแสดงออกในฐานะประชาชนที่จะทวงถามความเป็นธรรม ความยุติธรรมจากศาลรัฐธรรมนูญ ที่พวกเขาเห็นว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญใช้อำนาจโดยมิชอบ ก้าวก่ายอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ และวันนี้ทางพรรคเพื่อไทยก็มีท่าทีไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
“ศาลรัฐธรรมนูญคือตัวปัญหาและอุปสรรคของระบอบประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่เราต้องกำจัดคนพวกนี้ไห้พ้นจากเส้นทางประชาธิปไตยเสียที ทนกันมานานแล้ว และเชื่อว่าถึงวันนี้ฝ่ายนิติบัญญัติในสภาจะเดินหน้าชนกับศาลรัฐธรรมนูญแบบถึงไหนถึงกัน พวกตุลาการฯ กลัวเสียอำนาจก็ต้องแสดงอำนาจเพื่อให้อำนาจตัวเองคงอยู่ การแก้ไขรัฐธรรม มาตรา 68 นั้นจะทำไห้พวกเขาหมดอำนาจ ดังนั้นเขาจะต้องรับเรื่องแก้ไขมาตรา 68 ไว้เพื่อยับยั้งไม่ไห้แก้ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองไม่มีอำนาจ”
นายสมหวังยังเชื่อว่า การที่ศาลไม่ให้ประกันตัวนายก่อแก้ว พิกุลทองนั้นเป็นเรื่องการเมือง เพราะศาลก็ได้ตัดสินคดีก่อการร้ายแล้วว่าเป็นเพียงการจลาจล พร้อมมีคำสั่งให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายอันเกิดจากเพลิงไหม้ ดังนั้นนายก่อแก้วก็ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย และคดีที่ศาลพิจารณาก็ยังไม่ถึงที่สุด ดังนั้นการไม่ให้ประกันตัวจึงไม่มีเหตุผลที่สมควร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่าเศร้ามากสำหรับกระบวนการยุติธรรมไทย