xs
xsm
sm
md
lg

“ปูนิ่ม” โอ่ประสบความสำเร็จในชีวิต เหตุถูกปลูกฝังเท่าเทียมชายหญิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ยิ่งลักษณ์” หนุนสร้างเท่าเทียมทางเพศในการทำงาน โวครอบครัวปลูกฝังการสร้างความเท่าเทียม มีมารดาเป็นแรงบันดาลใจ ทำไม่ท้อถอยจนทำให้ประสบความสำเร็จเป็นทั้งแม่และนายกฯ ในขณะเดียวกัน

วันนี้ (23 เม.ย.) เวลา 19.15 น.โรงแรมพลาซ่าแอทธินี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปาฐกภาพิเศษในงาน Forbes forum on Asia’s Power Business Women ตอนหนึ่งว่า ในฐานะที่ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกฯ หญิงคนแรกของประเทศไทย มีความมุ่งมั่นสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศทั้งในการทำงานและความเป็นผู้นำ การส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศได้รับอิทธิพลมาจากการอบรมเลี้ยงดูจากครอบครัว และถือเป็นความโชคดีที่เติบโตมาในครอบครัวและประเทศ ซึ่งได้ให้โอกาสในการได้รับการศึกษาอย่างเหมาะสม พอเรียนจบ ทางครอบครัวก็ได้ให้โอกาสในการช่วยธุรกิจของครอบครัว ตั้งแต่เด็ก มารดาเป็นแรงบันดาลใจมาโดยตลอด ถึงแม้มารดาจะไม่ได้จบการศึกษาในระดับสูง แต่ก็ทำงานหนักและพยายามช่วยดูแลธุรกิจโรงหนังของบิดา สิ่งนี้เองที่ทำให้นายกรัฐมนตรีเกิดความคิดขึ้นว่า การทำงานอย่างตั้งใจไม่ท้อถอยจะช่วยให้เรามีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ครอบครัวได้ จึงเชื่อว่าการได้รับโอกาสในการศึกษาได้ช่วยส่งเสริมศักยภาพและการทำงานอย่างหนักทำให้ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวสนับสนุนให้ทุกคนต้องร่วมมือกันในการส่งเสริมสตรีให้ได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม เพื่อสร้างสตรีให้เป็นผู้นำในทุกๆระดับ ทั้งภาครัฐและเอกชน รัฐบาลได้วางพื้นฐานโดยดำเนินนโยบายในสาขาสำคัญ ตั้งแต่การศึกษา การเข้าถึงกองทุน การขจัดความรุนแรงต่อสตรี และการได้รับการรักษาอย่างมีคุณภาพ โดยเชื่อว่านโยบายเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการพัฒนาและการเติบโตอย่างยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังถือเป็นสิ่งที่จะต้องดำเนินการอีกด้วย

โครงการสำคัญของนโยบายเหล่านี้คือกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยกองทุนนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างโอกาสสำหรับสตรี ด้วยการให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งงบประมาณจำนวน 7 พันล้านบาทได้ส่งไปที่กองทุน โดยจะแจกจ่ายไปยังจังหวัดและชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการช่วยทางการเงินแก่สตรีทั่วประเทศ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะสร้างผู้ประกอบการที่เป็นสตรี รวมทั้งช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรม SMEs ไทยให้เข้มแข็ง ทั้งนี้ กองทุนยังจะช่วยเสริมสร้างทักษะความเป็นผู้นำ และมีส่วนช่วยเหลือสตรีที่ถูกละเมิด หรือมีการกระทำรุนแรงในครอบครัว

ทั้งนี้ กุญแจสำคัญที่จะช่วยสร้างโอกาส คือ การเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ นอกเหนือจากแผนการศึกษาสำหรับสตรีและเด็กผู้หญิง โดยได้ริเริ่มให้มีการใช้ศูนย์บริการชุมชน (Community Center) ในการฝึกทักษะสตรี โดยเฉพาะในด้านภาษาอังกฤษ และภาษาในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี พ.ศ. 2558 รวมถึงการฝึกทักษะทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อยกระดับความสามารถและเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจสมัยใหม่ (Modern Economy)

นอกจากเพื่อสร้างความเท่าเทียมทางเพศในแง่ของโอกาสด้านการทำงาน และความเป็นผู้นำ ปัญหาความรุนแรงในสตรียังเป็นอีกประเด็นที่น่าเป็นห่วง ทั้งนี้จากรายงานประจำปีขององค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ และเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ หรือ UN Women) เมื่อเร็วๆนี้ ระบุว่าจำนวนการเกิดความรุนแรงต่อสตรียังคงเพิ่มปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีรายงานว่า 70% ของผู้หญิงทั่วโลกประสบกับความรุนแรงในช่วงชีวิตของพวกเขา

เพื่อจัดการกับปัญหาความรุนแรงในสตรี นายกรัฐมนตรีได้จัดตั้ง “ศูนย์ช่วยเหลือสังคม One Stop Crisis Center: OSCC” โดยศูนย์ดังกล่าวได้รวมหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือแก่เด็ก ผู้พิการ ที่ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ ความรุนแรง การใช้แรงงานเด็ก และการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ทั้งนี้หากพบผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถโทรแจ้งผ่านสายฮอตไลน์ สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง โดย OSCC จะมีหน่วยงานรับเรื่องกระจายอยู่ทั่วประเทศประมาณกว่า 22,000 หน่วย

สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการส่งเสริมสวัสดิการ คือ การสร้างความมั่นใจว่าแม่และเด็กสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายนี้ บริการสุขภาพดีถ้วนหน้าให้ความสำคัญกับผู้หญิง หญิงตั้งครรภ์ หลังคลอด และทารก เมื่อเร็วๆ นี้รัฐบาลได้มีโครงการในการต่อสู้กับมะเร็งเต้านม โดยฝึกอบรมอาสาสมัครด้านสุขภาพ จำนวน 1 ล้านคนเพื่อให้ความรู้ในการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเอง โดยมีเป้าหมายให้อาสาสมัครถ่ายทอดความรู้แก่ผู้หญิงกลุ่มเสี่ยงจำนวน 16 ล้านคน

ผู้หญิงมักจะประสบปัญหาในการเลือกระหว่างการมีครอบครัวที่ดีกับการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน อย่างไรก็ตามในวันนี้ปัญหาดังกล่าวจะไม่มีอีกต่อไป เนื่องจากผู้หญิงสามารถบริหารจัดการความรับผิดชอบที่หลากหลาย สิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องรักษาสมดุลระหว่างชีวิตครอบครัวกับการงาน นายกรัฐมนตรีเป็นทั้งแม่และนายกรัฐมนตรี และเชื่อว่าทั้งสองสิ่งมีความสำคัญต่อกัน

สิ่งสุดท้ายคือ นายกรัฐมนตรีมีความเชื่อมั่นการร่วมมือกัน โดยเฉพาะพลังความร่วมมือของผู้หญิงและผู้ชาย เราไม่สามารถแก้ปัญหาได้เพียงลำพัง หากผู้ชายและผู้หญิงร่วมมือกันจะช่วยลดช่องว่างระหว่างเพศชายและหญิง และสามารถสร้างการเติบโตและการพัฒนาที่ยั่งยืน





กำลังโหลดความคิดเห็น