เกาะกระแส
00 ต้องบอกว่ามาถึงช่วงเดือนเม.ย.ทีไรอุณหภูมิทางการเมืองในบ้านเราก็ต้องร้อนขึ้นทุกปี ผ่านมาสี่ห้าปีติดต่อกันก็เป็นแบบนี้ทำให้ชาวบ้านเขาเคร่งเครียดทุกที ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 เมย.ครบรอบสามปีวันที่ "ชายชุดดำ"ในดงม็อบแดงเข่นฆ่าทหาร สร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนยั่วยุให้เกิดการรัฐประหารเพื่อหวังใช้มวลชนแดงปิดบัญชี "อำมาตย์" หรือถ้าเอาแบบเฉพาะหน้าก็หวังต้องการกดดันให้ "มาร์ค"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เป็นนายกฯในขนะนั้นยุบสภาเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจใหม่ เมื่อไม่เป็นผลก็ต้องมีช็อตอุบาทว์ต่อเนื่อง ต้องย้ายไปชุมนุมสร้างความ "ฉิบหาย"ต่อที่แยกราชประสงค์ไงละ
00 ก็อย่างที่บอกมาตั้งหลายรอบแล้วว่าไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่บรรดาหัวโจกแดงต้องเคลื่อนขบวนไปปิดแยกราชประสงค์ นอกจากมีเจตนาสร้างความปั่นป่วนทำลายเศรษฐกิจของประเทศ เพราะที่นั่นเป็นสัญลักษณ์ของระบบเศรษฐิจของเมืองหลวง เพราะถ้าชุมนุมหน้ารัฐสภา ทำเนียบฯหรือแม้แต่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นสัญลักษณ์เชิงอำนาจก็ถือว่าสมเหตุสมผล แต่นี่ดันไปปิดล้อมสถานที่ทางธุกิจของเอกชน ถือว่าไม่มีเจตนาอื่นนอกจากต้องการทำลายสร้างความฉิบหายสถานเดียว ขณะเดียวกันก็ต้องขอตำหนิรัฐบาลปชป.ที่นำโดย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับคู่หูคือ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เลี้ยงไข้ ไม่ยอมจัดการตั้งแต่ต้นมือพยายามสร้างภาพ "สุภาพบุรุษการเมือง" แล้วเป็นไง พังกันทั้งยวง การให้โอกาสพูดคุยเจรจากันได้ถ้าเป็นนักเลงคำไหนคำนั้น แต่นี่คนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร มันไม่ต่างจากกุ๊ย เห็นแก่ตัวและขี้ขลาด ตราบใดที่เงินมันยังไม่หมด ยังไม่ตาย และยังสามารถสั่งคนให้ไปตายแทนมันได้ ความวุ่นวายในบ้านเมืองก็จะเป็นอยู่อย่างนี้ต่อไปไม่สิ้นสุด
00 การสไกป์เข้ามาล่าสุดบนเวทีเมื่อคืนวันที่ 10 เมย.ทั้งด่ากราด ทั้งยุแยงปลุกระดมให้คนอื่นไปตายแทนตัวเองและครอบครัวตัวเองเหมือนเดิม ประเภทบุกเข้าไป ลุยเข้าไป แต่ตัวเองโน่นเห่าอยู่ข้างนอก คราวก่อนบอกว่า "ถ้าเสียงปืนแตกเมื่อไรผมจะนำพี่น้องเอง" หรือ "ถ้าเกิดอะไรขึ้นให้พี่น้องเสื้อแดงไปรวมกันที่ศาลากลางทั่วประเทศ" ผลตามมากคือเผาทั่วประเทศ และมีแต่คนเสื้อแดงระดับชาวบ้านจนๆที่ติดคุกหัวโต ไม่เห็นมีหมาที่ไหนไปเหลียวแลเหมือนกับพวกหัวโจกมีชื่อ
00 คราวนี้เป้าหมายของแม้วก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงนั่นคือ ศาลรธน.ที่ถือว่าเป็นอุปสรรคต่อการเซ็งลี้ฮุบประเทศ เช่นเดิม เพราะองค์อิสระอื่นๆ นอกเหนือจากศาลแล้วยังมี ปปช.ที่ยังหินกินไม่ลง นอกนั้นถือว่าอยู่ในมือแทบทั้งหมด แม้กระทั่ง อัยการ ที่เวลานี้ลองไปถามชาวบ้านว่าเชื่อถือได้แค่ไหน ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่ได้โอกาสคราวใดก็ป็นต้องถล่มให้จมดินทุกที เหมือนกับการแก้ รธน.คราวนี้เป้าหมายหลักก็คือต้องการแก้ไข ม.68 เพื่อตัดอำนาจของศาล รธน.ไม่ให้เป็นเสี้ยนหนามอีกต่อไป
00 ขณะเดียวกันยังอาฆาตไม่เลิก ดังจะเห็นคำพูดที่ระบุออกมาว่า "คนจิตวิปริต" ซึ่งในวงการย่อมรู้ดีว่าหมายถึงใคร ส่วนจะหมายถึง "ผู้มีบารมี" หรือ "อำมาตย์" หรือเปล่า ไม่รู้ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะสื่อสารออกไป อย่างไรก็ดีอีกมุมหนึ่งเป็นที่น่าจับตาอย่างยิ่งก็คือภาพการออกงานคู่กันอย่างอบอุ่นระหว่าง "ป๋าเปรม" พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยมี "โต้ง" กิตติรัตน์ ณ ระนอง เดินประกบอยู่ข้างหลังระหว่างงานเลี้ยงฉลองกองทัพอากาศ บรรยากาศชื่นมื่น มันก็ได้อารมณ์อีกแบบ ไม่รู้ว่านี่เป็นการออกแบบของกุนซือคนละกลุ่มคนละเป้าหมาย หรือว่า "ตีสองหน้า" เดายาก แต่เป็นไปได้ทั้งสองทาง !!