“เพื่อไทย” เมิน “ขุนค้อน” ถอยถกแปรญัตติใหม่ บอกมันจบไปแล้วและตกลงกันว่า 15 วัน เย้ยเสียงข้างน้อยจะมาลากเสียงข้างมากไม่ได้ จี้ ส.ส.-ส.ว.รักษาศักดิ์ศรีของรัฐสภา อย่าให้ ปชป.ถ่วง ปชต.และ รธน.
วันที่ 9 เม.ย. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ขอให้วิปทั้ง 3 ฝ่ายตกลงกันว่าจะสามารถเปิดประชุมร่วมได้ในวันไหน เพื่อลงมติกรอบเวลาวันแปรญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่าเลือก 15 วัน หรือ 60 วันว่า ตนมองว่าการแปรญัตติจบไปแล้วและตกลงกันว่า 15 วัน เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นที่ประธานรัฐสภาจะเปิดประชุมอีก ทั้งนี้มีเรื่องที่น่าสงสัย คือ การที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอให้แปรญัตติ 60 วัน แต่ในการประชุมร่วมรัฐสภาเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมาตอนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เสนอให้แปรญัตติ 60 วัน กลับไม่มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กดบัตรแสดงตนเพื่อลงมติ ทำให้เป็นว่าเป็นการเล่นเกมการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน ทั้งๆ ที่ประธานรัฐสภาวินิจฉัยเรียบร้อยแล้ว
“ผมเชื่อว่าการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ออกมาเรียกร้องในครั้งนี้น่าจะมีนัยทางการเมืองแอบแฝง การที่เป็นสมาชิกรัฐสภาควรรักษาศักดิ์ศรีของรัฐสภา ในฐานะตัวแทนประชาชน ไม่เช่นนั้นจะถูกมองว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวถ่วงประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ” โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว
เมื่อถามว่าในเมื่อมีการให้ลงมติใหม่จะมีผลต่อการทำหน้าที่ของคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ชุดหรือไม่ นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และ 237 ตนเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะประธานรัฐสภาวินิจฉัยแล้ว จะให้เสียงข้างน้อยมาลากเสียงข้างมากไปตามใจชอบคงไม่ได้ ซึ่งเห็นกันอยู่แล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์ตีรวนมาตั้งแต่ต้น กดดันการทำหน้าที่ของประธานรัฐสภา เล่นการเมืองอย่างไม่สร้างสรรค์ ประชาชนที่ติดตามการอภิปรายยังทราบเลย
