“ส.ว.ไพบูลย์” เผยทำหนังสือถอนเรื่อง ปธ.รัฐสภา กรณีชงศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ แล้ว หลังประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา เล็งยื่นผู้ตรวจฯ ชงแทน ด้านประธานวุฒิสภาระริกระรี้แก้รัฐธรรมนูญ ยันไม่ต้องเปิดประชุมร่วมแปรญัตติใหม่ อ้าง “ค้อนปลอม” วินิจฉัยแล้ว โยนประชาธิปัตย์ชงศาลตีความ
วันนี้ (8 เม.ย.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา เปิดเผยว่า ขณะนี้พระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ) ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ตนในฐานะผู้นำร่วมกับนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ยื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เพื่อขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ได้ทำหนังสือขอถอนเรื่องดังกล่าวแล้ว ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ทราบมาว่าหนังสือที่ได้ยื่นกับนายสมศักดิ์ไปตั้งแต่ตอนต้น ยังไม่ได้รับการพิจารณาส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า สำหรับข้อกังวลที่ว่าเมื่อ พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ ประกาศใช้แล้ว จะเป็นเครื่องมือสนับสนุนให้การใช้เงินตาม พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทไม่โปร่งใส ขาดการตรวจสอบนั้น ตนยังมีแนวทางที่จะยื่นความเห็นให้กับทางผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 245 (1) ที่ระบุถึงอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินอาจเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ให้เสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ด้านนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา และรองประธานรัฐสภา ยังยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อทำการแปรญัตติใหม่ เนื่องจากนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา วินิจฉัยเสร็จสิ้นแล้ว ขณะเดียวกันยังบอกอีกว่า เมื่อวันที่ 3 เม.ย. พบว่าฝ่ายค้านไม่ได้แสดงตนจึงถือว่าไม่อยู่ในห้องประชุม จึงทำให้การเสนอญัตติเป็นที่สิ้นสุด เพราะหากนับรายชื่อของฝ่ายค้านแล้วองค์ประชุมก็ไม่ครบอยู่ดี และถือว่าไม่พร้อมด้วยเช่นกัน ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้ายื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความนั้นก็ถือเป็นสิทธิ์ ซึ่งความจริงในข้อบังคับการประชุมที่กำหนดไว้คือ 15 วัน ดังนั้น ขบวนการแปรญัตติจึงเดินหน้าต่อไป
