“เอแบคโพลล์” ชี้ ปชช.เกินครึ่งเบื่อการเมือง ไม่ฟังประชุมสภาแก้ไข รธน.

เอแบคโพลล์ เผยผลสำรวจพบประชาชนไม่ถึงครึ่งรับฟังถ่ายทอดสดประชุมรัฐสภา พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชี้ร้อยละ 59.3 ไม่มีเวลา ต้องทำงาน เบื่อการเมือง อภิปรายในเรื่องที่ไม่สนใจ ไม่ให้ความสำคัญ อีกทั้งร้อยละ 50.9 มีเหตุโต้เถียงกันมากกว่าเนื้อหาสาระ

วันนี้ (6 เม.ย.) สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่องความคิดเห็นของประชาชนต่อการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงวันที่ 1-3 เม.ย.ที่ผ่านมา กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวนทั้งสิ้น 2,357 ตัวอย่าง ใน 17 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กทม. เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐม สมุทรปราการ อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงราย มุกดาหาร หนองคาย สกลนคร ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ เลย ยะลา นราธิวาส และสงขลา ระหว่างวันที่ 3 – 5 เม.ย. ที่ผ่านมา พบว่ามีตัวอย่างไม่ถึงครึ่งที่ได้รับชมและรับฟังการถ่ายทอดสดการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงวันที่ 1-3 เม.ย. โดยกลุ่มที่เรียกได้ว่าเป็นคอการเมืองตัวจริงมีการติดตามการประชุมอย่างต่อเนื่องและค่อนข้างต่อเนื่อง มีอยู่เพียงร้อยละ 6.9 รับชมและรับฟังบ้างเป็นบางช่วง มีอยู่ร้อยละ 25.8 และรับชมและรับฟังผ่านๆ นิดหน่อย มีอยู่ร้อยละ 8.0 ขณะที่ร้อยละ 59.3 ไม่ได้รับชมและรับฟังเลย โดยให้เหตุผลที่สำคัญ คือไม่มีเวลา ต้องทำงาน เบื่อการเมือง และอภิปรายในเรื่องที่ไม่สนใจ รวมทั้งไม่ให้ความสำคัญ

เมื่อสอบถามเฉพาะตัวอย่างที่รับชมและรับฟังถึงความชัดเจนในการให้เหตุผลประกอบการอภิปรายของฝ่ายต่างๆ โดยเริ่มจากฝ่ายรัฐบาล พบว่าร้อยละ 36.1 ระบุเหตุผลชัดเจน รองลงมาร้อยละ 29.6 ระบุพอใช้ ร้อยละ 23.3 ระบุยังไม่ชัดเจน และร้อยละ 11.0 ไม่แน่ใจ ในขณะที่ฝ่ายค้าน พบว่าร้อยละ 42.6 ระบุเหตุผลชัดเจน รองลงมาร้อยละ 29.5 ระบุพอใช้ ร้อยละ 19.2 ระบุยังไม่ชัดเจน และร้อยละ 8.7 ไม่แน่ใจ ส่วน ส.ว. พบว่าร้อยละ 24.3 ระบุเหตุผลชัดเจน รองลงมาร้อยละ 48.6 ระบุพอใช้ ร้อยละ 16.1 ระบุยังไม่ชัดเจน และร้อยละ 11.0 ไม่แน่ใจ

ทั้งนี้ที่น่าพิจารณาคือ ตัวอย่างผู้ที่รับชมและรับฟังครึ่งหนึ่ง หรือร้อยละ 50.9 เห็นว่าการประชุมร่วมรัฐสภาครั้งนี้เป็นการโต้เถียงกันมากกว่าการอภิปรายในเนื้อหาที่เป็นสาระ รองลงมาร้อยละ 41.2 ยังเห็นว่าเนื้อหาสาระกับการโต้เถียงมีพอๆกัน โดยมีเพียงร้อยละ 7.9 ที่เห็นว่าเป็นการอภิปรายในเนื้อหาที่เป็นสาระมากกว่า อย่างไรก็ตามตัวอย่างที่ได้รับชมและรับฟังการถ่ายทอดสดการประชุมร่วมรัฐสภาในครั้งนี้ ร้อยละ 46.4 ระบุว่าได้ประโยชน์มากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 37.8 ระบุปานกลาง และร้อยละ 15.8 ระบุได้ประโยชน์น้อยถึงน้อยที่สุด