“เหลิม” เชื่อศาล รธน.ให้แก้ รธน.รายมาตรา ชี้เมษาฯ ไม่เดือด ยันอัยการสั่งไม่ได้

“เป็ดเหลิม” มั่นใจศาล รธน.รับคำร้อง “สมชาย” แบบแยกส่วน อ้างต้องรับตามแก้ รธน.ม.291 เชื่อปล่อยแก้รายมาตรา รับตุลาการศาล รธน.ไป ตปท.ไม่น่าเกลียด ยันเมษาฯ ไม่เดือด จวกมีพวกปล่อยข่าว ชี้อัยการสูงสุด รบ.คุมไม่ได้ เชื่อไม่งัดข้อแดง พธม.ชุมนุมเป็นสิทธิ โวแก้ รธน.ไร้ซ่อนเร้น งงเป็น รบ.จะล้มล้างอะไร หลุดยุบสภา พร้อมปราศรัยทั่วไทย อ้างจะพูดสภาปิดแทน


วันนี้ (4 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 จากการที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรกับ ส.ส.และ ส.ว.รวม 312 คน ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญว่า สำหรับการอภิปรายที่ผ่านมาตนมั่นใจ ทุกคนที่อภิปรายมีเหตุผล และรู้ว่าข้อยุติเป็นอย่างไร ซึ่งเมื่อได้แสดงกันมาจึงต้องแสดงต่อ ไม่มีอะไรการเมืองเรียบร้อยดี ผ่านตลอด ส่วนที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้อง 3 ต่อ 2 นั้น เป็นเหตุต้องรับคำร้องเพราะเคยรับมาแล้วเมื่อครั้งแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 291 แปลความแล้วตนเห็นว่าการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ นอกจากอัยการสูงสุดแล้วพี่น้องประชาชนทั่วไปยื่นได้ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องมาแล้วจึงต้องรับต่อ ตนยังมองการเมืองในแง่ดีว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคุ้มครองหรือให้สภาหยุดพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นแปลว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการแยกส่วน พอรับแล้วต่อไปก็จะมาบอกว่า แก้ไขได้ตามที่เคยแนะนำไว้คือ แก้ไขรายมาตรา ไม่มีอะไร เรียบร้อยดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรกับมติ 3 ต่อ 2 โดยที่มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจำนวน 4 คนเดินทางไปต่างประเทศ 4 คน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า “นี่น่ะสิไป 4 คน แต่ไม่น่าเกลียด คือการเมืองจะให้ราบเรียบก็ไม่ได้ ระบอบประชาธิปไตยเหมือนรถไฟ ต้องจอดทุกสถานี” เมื่อถามว่า ในช่วงเดือนเม.ย.การเมืองจะไม่ร้อนแรง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า จะร้อนประเด็นอะไร ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทก็นำมาพัฒนาประเทศ แก้รัฐธรรมนูญก็เป็นประชาธิปไตย มีแต่กลุ่มคนชอบปล่อยข่าว การเมืองจากนี้ไปจะไม่มีร้อนแรงเพราะไม่ใช้ความรุนแรง ใครจะชุมนุมประท้วง ไม่ว่าเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดงเชิญเลย

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ส่วนที่มีการกล่าวหากันว่าอัยการสูงสุดรัฐบาลคุมได้นั้น เอาส่วนไหนมาคิด เนื่องจากอัยการสูงสุดเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ เมื่อเลือกโดยคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) แล้ว อัยการสูงสุดจะต้องได้รับการพิจารณาจากวุฒิสภาแล้วนำความกราบบังคมทูลฯ อัยการวันนี้กับอัยการในอดีตไม่เหมือนกัน อัยการวันนี้ก่อนปฏิบัติหน้าที่ต้องถวายสัตย์ปฏิญาณ แต่เมื่อก่อนไม่ต้อง นอกจากนี้ ด้านประเด็นเรื่องการยุบพรรคถามว่า ประเทศไหนเขามีบ้าง คนผิดต้องลงโทษแต่ไม่ยุบพรรค เพราะพรรคเป็นนิติบุคคล

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าการรับคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญจะไม่ทำให้การเมืองร้อนแรง เนื่องจากกลุ่มคนเสื้อแดงไม่พอใจ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่มี จะร้อนไม่ได้ ต้องมีหลักเกณฑ์ คนเสื้อแดงก็ต้องคิดของเขาส่วนหนึ่ง ร.ต.อ.เฉลิมก็คิดส่วนหนึ่ง แต่สุดท้ายเป็นไปตามหลักการ จะเกิดเหตุรุนแรงอะไรตนก็ต้องพยายามทำความเข้าใจ

เมื่อถามถึงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่มีการหารือกำหนดท่าทีต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เป็นสิทธิ คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะปฏิเสธสังคมส่วนรวมไม่ได้ ไม่มีวาระซ่อนเร้น หากแก้ไขทั้งฉบับมันยังไปแอบคิดได้ และไปพูดให้คนเข้าใจได้ แต่การแก้ไขครั้งนี้ได้แก้ 3 มาตรา 4 ประเด็นมันชัด แล้วตนขอถามว่าที่บอกจะล้มล้างการปกครองก็ตนเป็นรัฐบาลจะไปล้มเองได้อย่างไร บอกจะไปเอาอำนาจรัฐถามว่าจะไปเอาทำไมเพราะมีแล้ว เพราะไปพูดแบบนี้กันคนเลยไม่เชื่อ “เดี๋ยวเหอะพอยุบสภาเสร็จผมจะออนทัวร์ ปราศรัยทุกจังหวัดที่มีโอกาส”

ต่อข้อถามว่า จะมีการยุบสภาเมื่อไหร่ ร.ต.อ.เฉลิม ย้อนถามกลับว่า “ยุบสภา จะไปยุบทำไม” ผู้สื่อข่าวจึงระบุว่าเมื่อสักครู่ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นผู้ตอบเอง ร.ต.อ.เฉลิมจึงกล่าวว่า “อ๋อ ไม่ใช่ ผมบอกว่าถ้าสภาปิด ไม่ใช่ยุบ” ก่อนจะหัวเราะพร้อมกับบอกว่า “เอาใหม่ สภาปิดๆ ขอโทษพูดผิดๆ”