นายกฯ เข้าทำเนียบฯ รอกำหนดการนำ ครม.ใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ เรียกรัฐมนตรีศึกษาฯ, คมนาคมถกงาน ด้านเจ้ากระทรวงใหม่เสมาเผยถูกเรียกดันแท็บเล็ตต่อ รับเจองานหนักแต่เชื่อ “เสริมศักดิ์” ช่วยได้ ลั่นสอบโกงครุภัณฑ์อาชีวะตรงไปตรงมา พร้อมสานงาน “สุชาติ” ระบุ “ปู” ยังไม่แบ่งงานรองนายกฯ ย้ำไม่มีโควตา ลั่นเดินหน้าแก้ รธน. ด้าน “ผัวเจ๊เบียบ” ไม่น้อยใจถูกลดเกรด โอ่สุดท้าทายสร้างไม้ผลัดแรก ฟิตจัดนัดคุยบิ๊กศธ.วันนี้เลย กล่อม ขรก.ยันมาเป็นมิตร แขวะไม่รู้คนเก่าเก็บของออกหมดหรือยัง
วันนี้ (30 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้ามาปฏิบัติงานในตึกไทยคู่ฟ้าตามปกติ โดยที่วันนี้ไม่มีภารกิจของนายกฯ เลย เนื่องจากนายกฯ รอการนำ ครม.ใหม่เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้าทำงาน ซึ่งยังไม่มีการประสานมาว่าจะเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนได้เมื่อไหร่
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้านายกรัฐมนตรีได้เรียกรัฐมนตรีใหม่หลายกระทรวงเข้าพบ ไม่ว่าจะเป็น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลัง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการมาหารือถึงนโยบายของรัฐบาลและการทำงานภายหลังจากมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้นเวลา 10.00 น. นายพงศ์เทพให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบนายกฯ ว่า นายกฯ ได้เรียกมาหารือเกี่ยวกับนโยบายสำคัญๆ ของรัฐบาลที่จะมีการผลักดันต่อให้สำเร็จ เช่น นโยบายแจกแท็บเล็ตที่จะมีการแจกให้เด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และเด็กมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในปีนี้ กองทุนตั้งตัวได้ที่จะพัฒนานักศึกษาที่จบใหม่ นอกจากนี้ยังได้สอบถามเรื่องความคืบหน้าของงานต่างๆ จากผู้บริหารในกระทรวงอีกด้วย ส่วนเรื่องปัญหาการทุจริตในกระทรวงศึกษาธิการนั้น นายกฯ ได้กำชับไว้อยู่แล้วว่าการทำงานของทุกกระทรวงต้องยึดในหลักซื่อสัตย์สุจริต และการบริหารบ้านเมืองที่ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจหรือไม่ที่มารับงานกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากก่อนหน้านี้นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.ศึกษาธิการ ค่อนข้างมีปัญหา นายพงศ์เทพกล่าวว่า ตนและนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ หนักใจหรือไม่นั้นเรารู้ว่าเป็นงานหนัก แต่นายเสริมศักดิ์เองจะช่วยได้เยอะเพราะอยู่กระทรวงมหาดไทยมาก่อน สามารถประสานงานกับหน่วยราชการอื่นๆ ได้
เมื่อถามว่า การตรวจสอบเรื่องการทุจริตครุภัณฑ์อาชีวศึกษาที่มีคนภายในเกี่ยวข้องจะดำเนินการต่อทันทีหรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า การตรวจสอบจะตรงไปตรงมา ยุติธรรม ไม่เห็นแก่หน้าใคร และไม่กลั่นแกล้งใคร เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ระยะเวลา 1 ปีรัฐบาลเปลี่ยน รมว.ศึกษาธิการมาแล้วถึง 3 คน นายพงศ์เทพกล่าวว่า เรื่องการเปลี่ยนแปลงบุคลากรเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นปกติ แต่นโยบายต้องเหมือนเดิม สิ่งที่นายสุชาติเคยทำตนก็จะผลักดันในหลายๆ เรื่อง เพราะเป็นนโยบายที่มาจากรัฐบาลเดียวกัน
รองนายกฯ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้นายกฯ ยังไม่ได้แบ่งงานในส่วนของตำแหน่งรองนายกฯ เนื่องจากงานด้านกฎหมายหลายๆ เรื่องก็อยู่ที่ รมต.ประจำสำนักนายกฯ บางคนที่ช่วยดูแลอยู่ ส่วนการแบ่งงานในกระทรวงศึกษาธิการนั้น คงต้องรอให้เราเข้าไปในกระทรวงเสียก่อน แต่เบื้องต้นคงต้องมอบให้ รมช.เสริมศักดิ์มากหน่อย เพราะตนต้องดู 2 ที่ อีกทั้งกระทรวงศึกษาฯ ต้องดูทั้งประเทศ
เมื่อถามว่า หวั่นใจหรือไม่เพราะได้โควตาในกลุ่มบ้านเลขที่ 111 มาการทำงานจะถูกจับตาจากหลายฝ่าย รองนายกฯ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีโควตา เผอิญสื่อมวลชนอาจจะไปแบ่งเองว่าใครเคยเป็นอะไรมาก่อน
นายพงศ์เทพยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า คงต้องรอผลจากคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อพิจารณาศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่มีนายโภคิน พลกุล เป็นประธาน ซึ่งจะสรุปผลได้ประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องเดินหน้าต่อ เพราะถือว่าเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล และเป็นนโยบายเร่งด่วน ส่วนตนจะได้ดูแลเรื่องนี้หลังจากเป็นรัฐมนตรีหรือไม่นั้นยังไม่ทราบ
ด้านนายเสริมศักดิ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ตึกไทยคู่ฟ้าว่า การหารือในวันนี้เป็นการเน้นย้ำนโยบายที่สำคัญของกระทรวงก่อนเข้าทำงาน โดยที่รัฐมนตรีคงต้องกลับไปทำการบ้านด้วย ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกน้อยใจหรือไม่ที่เคยทำงานในกระทรวงมหาดไทยมา แต่ครั้งนี้นายกฯ ให้มาทำงานในกระทรวงศึกษาธิการ ถือเป็นการลดเกรดของกระทรวงที่ดูแล นายเสริมศักดิ์กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกน้อยใจเพราะทุกอย่างอยู่ที่นายกฯ จะกรุณามอบหมาย ซึ่งส่วนตัวกลับรู้สึกว่าเป็นงานที่ท้าทาย เพราะทำให้เรามีความรู้หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะที่กระทรวงศึกษาฯ ตนถือว่าเป็นไม้ผลัดแรกที่จะให้ความรู้และพัฒนาคน เพราะการพัฒนาคนถือเป็นเรื่องสำคัญ จะได้ต่อยอดไปพัฒนาในทุกรูปแบบ ดังนั้นการได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบกระทรวงศึกษาฯ จึงเป็นเรื่องสำคัญ และตนก็มีความตั้งใจจะทำงานในกระทรวงนี้ให้ดีที่สุด
นายเสริมศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องนโยบายของกระทรวง วันนี้ตนจะไปนัดพูดคุยกับผู้บริหารในกระทรวงนอกรอบเพื่อให้ปรับมาเป็นแผนงานและโครงการตามที่ได้ตั้งใจไว้ อย่างไรก็ตาม การทำงานร่วมกับนายพงศ์เทพไม่มีปัญหาอะไร เพราะนายพงศ์เทพเป็นคนน่ารัก ถือว่าตนโชคดีมากที่ได้ทำงานร่วมกัน ซึ่งการแบ่งงานนั้นคงต้องรอให้มีการถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเข้ากระทรวงเมื่อไหร่ นายเสริมศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่รู้เลย “ตอนนี้รัฐมนตรีคนเก่าเขาเก็บของออกหมดหรือยังไม่รู้” เมื่อถามว่า ไปที่ทำงานใหม่จะต้องสำรวจความปลอดภัยในเรื่องของการทำงาน โดยเฉพาะเครื่องดักฟังที่เคยมีปัญหากับรัฐมนตรีคนเก่าหรือไม่ นายเสริมศักดิ์กล่าวพร้อมหัวเราะว่า ก็ต้องขอเจ้าหน้าที่ที่จัดห้องให้ช่วยดูให้ด้วย แต่ยืนยันว่าตนเข้ามาเป็นมิตรกับพวกท่านแน่นอน
เมื่อถามว่า นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ภรรยา รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้เป็นภรรยารัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์กล่าวว่า นางระเบียบรัตน์ก็ช่วยได้เยอะ ให้ข้อคิดเห็นที่ดี ตนก็ปรึกษาเขาหลายอย่าง เพราะนางระเบียบรัตน์ถนัดเรื่องเหล่านี้