คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย ยื่น 4 เหตุผลต่อประธานสภาฯ ถอนร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ออกจากการพิจารณาของสภา ระบุตัดตอนกระบวนการตรวจสอบ กู้โดยไม่มีรายละเอียด ประชาชนไม่มีส่วนร่วม ขาดความโปร่งใส
ที่รัฐสภา วันนี้ (28 มี.ค.) ตัวแทนคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) นำโดยนายสุริยันต์ ทองหนูเอียด เลขาธิการ ครป. เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เกียรติ์สุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ถอนญัตติร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ... ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอวงเงิน 2 ล้านล้านบาท ออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจาก
1.ร่างดังกล่าวเกี่ยวกับอนาคตของประเทศ แต่ประชาชนไม่มีโอกาสรับรู้ข้อมูล และไม่มีส่วนร่วมแสดงความเห็น แต่ต้องแบกภาระหนี้สินที่รัฐก่อขึ้นถึง 50 ปี ที่ไม่สอดคล้องหลักประชาธิปไตย และเป็นการตัดตอนกระบวนการตรวจสอบ ทำลายหลักนิติธรรมส่อให้เห็นเจตนาทุจริตคอรัปชัน 2.เปรียบเหมือการขอทำสัญญากู้เงินล่วงหน้าโดยไม่ให้รายละเอียด และเป็นการก่อหนี้โดยไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศ ซึ่งอาจขัด พ.ร.บ งบประมาณ และทำลายกรอบวินัยการเงินการคลัง
3.ร่างกฎหมายนี้ไม่มีรายละเอียด ประชาชนไม่มีส่วนร่วม จึงเป็นพฤติกรรมที่ขาดความโปร่งใส ไม่เป็นไปตามนโยบายรัฐ และขัดรัฐธรรมนูญหลายมาตรา เช่น มาตรา 78 และ169 และ 4.ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเสนอร่าง พ.ร.บ.นี้ เพราะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมสามารถทำได้ตามแผนของงบประมาณปกติอยู่แล้ว ขอเรียกร้องให้นายกฯ และประธานสภาถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจากการพิจารณา
ทั้งนี้ นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกของประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตัวแทนรับหนังสือจากกลุ่ม ครป. พร้อมแถลงชี้แจง ว่า ครป.ได้ยื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อคัดค้าน พ.ร.บ.ดังกล่าว และให้ประธานสภาถอนร่างดังกล่าวออกจากการพิจารณา ถือเป็นการแสดงความเห็นต่างที่ใช้ความรุนแรง ซึ่งตนก็มองว่าเป็นบรรยากาศที่ดี และก็เป็นสิทธิของประชาชนที่จะแสดงความเห็นต่างได้
“ผมขอชี้แจงว่า ประธานสภาไม่มีสิทธิถอนร่างนี้ เพราะร่างดังกล่าวก็ได้ยื่นตามระเบียบขั้นตอน ส่วนการจะถอนร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวได้นั้น เป็นอำนาจผู้ที่เสนอร่าง และที่มีการระบุว่า ประชาชนไม่มีส่วนร่วมก็เป็นสิ่งที่คลาดเคลื่อน เพราะ ส.ส.ในรัฐสภาถือเป็นตัวแทนของประชาชนที่อยู่ร่วมการพิจารณา พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว และจะคอยซักถามรัฐบาลแทนประชาชน จึงอยากให้ประชาชนรอรับฟังการชี้แจงจากรัฐบาลก่อน”