“ยิ่งลักษณ์” หนุนแก้รัฐธรรมนูญ อ้างนโยบายเร่งด่วน ชี้รายมาตราคือทางออกหนึ่ง แต่ยังโยนสภาจัดการ ชูเนื้อหาเริ่มชัด พร้อมเดินหน้าเสวนาต่อ ถามจะสะเทือนเสถียรภาพอย่างไร ท่องคาถาฝ่ายคัดค้านต้องหารือกัน
วันนี้ (21 มี.ค.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงท่าทีของรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เป็นส่วนหนึ่งที่เราได้เสนอต่อรัฐสภาว่าเป็นนโยบายเร่งด่วน ซึ่งเราก็มองว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสมาชิกจะได้หารือกันเพื่อหาทางออกในเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในส่วนของเราเองก็ได้ยื่นร่างของเราไปแล้ว ส่วนการแก้ไขรายเป็นมาตราก็น่าจะเป็นทางออกหนึ่งที่จะได้มีโอกาสได้พูดคุย มีรายละเอียดที่ชัดเจน ซึ่งข้อกังวลใจหลายอย่างก็จะได้มีความชัดเจนในรายละเอียดในการแก้ไข
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องเรียกว่ารัฐบาลเห็นด้วยต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะที่จริงแล้วการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว แต่วิธีการจะแก้ไขอย่างไรคงเป็นเรื่องที่ฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นเรื่องที่รัฐสภาจะต้องหารือกันว่าจะใช้วิธีแก้ไขอย่างไร จะเอาร่างไหนบ้าง ซึ่งเราเองถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่ส่งไปนานแล้ว
เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าจะเกิดความขัดแย้ง เพราะมีบางฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยออกมาคัดค้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ก็น่าจะพูดคุยกัน เพราะการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราจะมีเนื้อหาที่ชัดมากขึ้น ก็ไปหารือกันในส่วนของรัฐสภา เพราะหน้าที่ของ ส.ส.และส.ว.เป็นผู้ที่ทำในกลไกนิติบัญญัติอยู่แล้ว ก็น่าที่จะหารือกันในส่วนของรัฐสภาได้
เมื่อถามว่า คิดว่า ส.ส.ใจร้อนหรือไม่ที่ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญเร็วเกินไป เพราะรัฐบาลกำลังจะเปิดเวทีเสวนา น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า คงต้องแล้วแต่ เพราะเราถือว่าทางฝ่ายนิติบัญญัติมีหน้าที่ดูในเรื่องกฎหมาย ข้อกฎหมายต่างๆ แต่ส่วนของรัฐบาลก็จะเดินหน้าในการทำประชาเสวนาเพื่อให้ภาคประชาชนแต่ละพื้นที่มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น ก็คงจะเป็นส่วนหนึ่งในการหาทางออก ถามต่อว่าจะสะเทือนเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ เพราะส.ส.ที่ยื่นก็เป็น ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เสถียรภาพอย่างไร เพราะเรามองว่าทุกอย่างเป็นกลไกของประชาธิปไตย วันนี้เองถ้าบรรยากาศต่างๆ เป็นบรรยากาศของการหารือกันก็จะเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็อยากจะขอความร่วมมือว่าเราไม่อยากให้การหารือนั้นนำไปสู่บรรยากาศของความขัดแย้งรุนแรง น่าจะเป็นบรรยากาศของการหารือหาทางออกร่วมกัน เพราะไม่อย่างนั้นเราก็จะไม่มีทางออกของประเทศว่าจะเดินไปทางไหน ซึ่งจะเห็นได้ว่าภาคประชาชนเรียกร้องอยากให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องข้อนั้นไปหารือกัน
เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ที่ค้างการพิจารณาวาระสามในรัฐสภาจะทำอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องให้ทางสภาตัดสิน