หัวหน้าพรรคเพื่อไทยหนุน ส.ส.-ส.ว.เลือกตั้งยื่นแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา อ้างฝ่ายนิติบัญญัติมีอำนาจทำได้ ด้าน ส.ว.อุทัยธานีไม่สนกลุ่ม 40 ส.ว.ถกเรื่องนี้ขัด รธน. อ้างไม่เกี่ยวผลประโยชน์ส่วนตัว ปัดเป็นพื้นที่ของรัฐบาล ไม่กังวลยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ
วันนี้ (20 มี.ค.) ที่กระทรวงมหาดไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลและสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราว่า แนวทางของสถาบันพระปกเกล้า คณะกรรมการอิสระตรวจสอบความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดอง มีความเห็นตรงกันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าสามารถทำได้หากเสนอให้มีการแก้ไขเป็นรายมาตรา แม้แต่ศาลรัฐธรรมนูญที่เคยวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วได้เสนอคำแนะนำให้แก้ไขเป็นรายมาตรา จึงเป็นที่มาของการที่ฝ่ายนิติบัญญัติเสนอแก้ไขครั้งนี้
เมื่อถามว่า ห่วงสถานการณ์จะมีความรุนแรงจากกระแสคัดค้านแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายจารุพงศ์กล่าวว่า เรื่องคัดค้านเป็นเรื่องปกติที่คิดไว้อยู่แล้ว แต่การดำเนินการเรื่องนี้ฝ่ายนิติบัญญัติมีอำนาจที่จะทำได้ เมื่อทำแล้วมีกระบวนการสอบถามความเห็นของประชาชนอย่างถูกต้องชัดเจนไม่ออกนอกกรอบไม่มีความรุนแรง ย่อมสามารถทำได้
ด้านนายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่ม 40 ส.ว.จะประชุมกันในเย็นวันนี้ (20 มี.ค.) เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราของกลุ่ม ส.ว. และ ส.ส.พรรครัฐบาล มีการมองว่าเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 122 ว่าด้วยการทำหน้าที่ที่ต้องปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ โดยส่วนตัวมองว่าการยื่นแก้รัฐธรรมนูญนี้ ทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ไม่ได้เกี่ยวกับผลประโยชน์ส่วนตัว กลุ่ม 40 ส.ว.ต้องการให้มี ส.ว.สายสรรหาต่อไป ซึ่งก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละฝ่าย ส่วนที่ฝ่ายกลุ่ม 40 ส.ว.มองว่า ส.ว.เลือกตั้งจะเป็นพื้นที่ของรัฐบาลเสียส่วนใหญ่นั้น ตนมองว่าการลงสมัครรับเลือกตั้งนั้นประชาชนเป็นคนเลือกเอง และ ส.ว. สายเลือกตั้งเดิมที่ลงสมัครอาจจะไม่ได้รับเลือกมาก็เป็นได้ ทั้งนี้ ส.ว.เลือกตั้งบางส่วนก็อาจจะไม่ลงรับสมัครเลือกตั้ง
นายสิงห์ชัยกล่าวต่อว่า การที่แก้รัฐธรรมนูญนั้นเราไม่ได้ไปลดบทบาทการทำงานขององค์กรใด เหมือนที่บางฝ่ายกังวลว่าอาจจะมีการลดอำนาจขององค์กรอิสระ หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่วนกรณีที่กลุ่ม 40 ส.ว.อาจจะไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้น ตนไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้และคงจะไม่มีการพูดคุยกันหรือตกลงกันก่อน แต่ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ
