ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ยกคำร้อง กกต.กรณีขอให้เลือกตั้งใหม่ ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 28 พรรคประชาธิปัตย์ ชี้ไม่มีเหตุอันควรเชื่อว่ากระทำผิด ด้าน “ลูกวัน” ของ “สารวัตรเหลิม” โผล่ศาลด้วย พร้อมเผยเตรียมลงพื้นที่เผื่อสมัยหน้า!
ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สนามหลวง วันที่ 24 ธ.ค. 55 เวลา 10.00 น. ศาลอ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำ ลต.17/2555 ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นร้องขอให้ศาลวินิจฉัยจัดการเลือกตั้งใหม่ พ.ต.อ.นพ.สามารถ ม่วงศิริ ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้ง 28 พรรคประชาธิปัตย์ ศาลไต่สวนแล้วมีประเด็นข้อเท็จจริงว่า ตามคำร้อง 2 กรณี
กรณีแรก ที่กล่าวหาตัวแทนของผู้คัดค้านนำวัสดุก่อสร้างไปทำทางเดินเข้าชุมชนข้างเรือนจำพิเศษธนบุรี อันเป็นการให้ทรัพย์สินแก่ชุมชนเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงเลือกผู้คัดค้าน แต่พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอว่านายแม้น กล่อมบรรจง หัวคะแนนของผู้คัดค้านกระทำการตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง แม้ น.ส.จันทรทิมา ชุ่มแจ่ม จะให้การต่อคณะกรรมการสืบสวนว่าหลังจากการทำทางเดินเสร็จ นายแม้นมาบอกพยานและฝากพยานบอกชาวบ้านในชุมชนให้เลือกหมายเลข 10 พรรคประชาธิปัตย์ และเบิกความตอบคำถามทนายผู้คัดค้านว่าคนที่พยานบอกให้เลือกหมายเลข 10 ล้วนเป็นญาติสนิท หรือบุคคลที่พยานสนิทด้วย หรือเจอใครพยานก็บอกให้เลือกผู้คัดค้าน เมื่อยังฟังไม่ได้ว่านายแม้นมีส่วนรู้เห็นการกระทำจึงไม่มีการเกี่ยวพันเรื่องผลประโยชน์แลกเปลี่ยนกัน
กรณีที่ 2 ตามคำร้องว่า พ.ต.ท.ชินรัตน์ ทองอุไร ใช้ตำแหน่งหน้าที่มิชอบพูดโทรศัพท์สั่งการให้ขนคนมาลงคะแนนเลือกตั้งแก่ผู้คัดค้านนั้น เมื่อ พ.ต.ท.ชินรัตน์มีตำแหน่งสารวัตรป้องกันปราบปราม สน.บางขุนเทียน มีหน้าที่ดูแลความสงบในพื้นที่ แม้ในวันเกิดเหตุ พ.ต.ท.ชินรัตน์ได้รับคำสั่งให้ดูแลพนักงานตำรวจชั้นประทวนในหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ถึง 26 ซึ่งเป็นคำสั่งเฉพาะกิจ แต่ พ.ต.ท.ชินรัตน์ก็ยังมีหน้าที่ดูแลความสงบในพื้นที่อยู่เช่นเดิม เมื่อได้รับแจ้งว่ามีเหตุไม่ปกติก็สามารถเดินทางไปตรวจสอบและระงับเหตุได้ มิใช่เมื่อมีคำสั่งให้ดูแลหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ถึง 26 แล้วจะจำกัดอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ตามกฎหมาย
ส่วนที่ผู้ร้องคัดค้านมอบอำนาจให้นายประชา น้อยบำรุง ไปแจ้งความดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท.ชินรัตน์ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดนั้น ท้ายสุดคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งภาครัฐ มีความเห็นว่าการกระทำไม่เป็นความผิด ข้อเท็จจากทางไต่สวนศาลเห็นว่ายังไม่ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พ.ต.ท.ชินรัตน์ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายกระทำการอันเป็นคุณหรือโทษแก้ผู้สมัครพรรคการเมือง
ข้อเท็จจริงทั้งสองดังกล่าวจึงไม่มีเหตุควรเชื่อกรณีเป็นไปตามคำร้องของผู้ร้องอันจะเป็นเหตุให้ศาลมีคำสั่งให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพมหานครเขต 28 ใหม่แทน พ.ต.อ.นพ.สามารถ ม่วงศิริ จึงมีคำสั่งยกคำร้อง
ภายหลัง พ.ต.อ.นพ.สามารถกล่าวทั้งน้ำตาคลอเบ้าว่า ดีใจที่ศาลมีคำสั่งยกคำร้องโดยตนยังคงเชื่อว่ากระบวนการตัดสินมีความยุติธรรมอยู่เสมอ หลังจากนี้ตนก็จะกลับไปปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. อย่างดีที่สุด
ขณะที่ นายวัน อยู่บำรุง ที่ปรึกษา รมช.คมนาคม ซึ่งเคยลงสมัครแข่งขันเลือกตั้ง ส.ส.กทม เขต28 ในนามพรรคเพื่อไทย และเป็นผู้ร้องเรียนต่อ กกต.ก็ได้เดินทางมาร่วมฟังคำสั่งศาลในวันนี้ด้วย พร้อมให้สัมภาษณ์ว่าตนก็น้อมรับคำตัดสินของศาล หลังจากนี้ก็จะพยายามลงพื้นที่พบปะประชาชนให้ได้มากที่สุดเพื่อในอนาคตจะลงรับสมัครเลือกตั้งในสมัยหน้า
ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สนามหลวง วันที่ 24 ธ.ค. 55 เวลา 10.00 น. ศาลอ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำ ลต.17/2555 ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นร้องขอให้ศาลวินิจฉัยจัดการเลือกตั้งใหม่ พ.ต.อ.นพ.สามารถ ม่วงศิริ ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้ง 28 พรรคประชาธิปัตย์ ศาลไต่สวนแล้วมีประเด็นข้อเท็จจริงว่า ตามคำร้อง 2 กรณี
กรณีแรก ที่กล่าวหาตัวแทนของผู้คัดค้านนำวัสดุก่อสร้างไปทำทางเดินเข้าชุมชนข้างเรือนจำพิเศษธนบุรี อันเป็นการให้ทรัพย์สินแก่ชุมชนเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงเลือกผู้คัดค้าน แต่พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอว่านายแม้น กล่อมบรรจง หัวคะแนนของผู้คัดค้านกระทำการตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง แม้ น.ส.จันทรทิมา ชุ่มแจ่ม จะให้การต่อคณะกรรมการสืบสวนว่าหลังจากการทำทางเดินเสร็จ นายแม้นมาบอกพยานและฝากพยานบอกชาวบ้านในชุมชนให้เลือกหมายเลข 10 พรรคประชาธิปัตย์ และเบิกความตอบคำถามทนายผู้คัดค้านว่าคนที่พยานบอกให้เลือกหมายเลข 10 ล้วนเป็นญาติสนิท หรือบุคคลที่พยานสนิทด้วย หรือเจอใครพยานก็บอกให้เลือกผู้คัดค้าน เมื่อยังฟังไม่ได้ว่านายแม้นมีส่วนรู้เห็นการกระทำจึงไม่มีการเกี่ยวพันเรื่องผลประโยชน์แลกเปลี่ยนกัน
กรณีที่ 2 ตามคำร้องว่า พ.ต.ท.ชินรัตน์ ทองอุไร ใช้ตำแหน่งหน้าที่มิชอบพูดโทรศัพท์สั่งการให้ขนคนมาลงคะแนนเลือกตั้งแก่ผู้คัดค้านนั้น เมื่อ พ.ต.ท.ชินรัตน์มีตำแหน่งสารวัตรป้องกันปราบปราม สน.บางขุนเทียน มีหน้าที่ดูแลความสงบในพื้นที่ แม้ในวันเกิดเหตุ พ.ต.ท.ชินรัตน์ได้รับคำสั่งให้ดูแลพนักงานตำรวจชั้นประทวนในหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ถึง 26 ซึ่งเป็นคำสั่งเฉพาะกิจ แต่ พ.ต.ท.ชินรัตน์ก็ยังมีหน้าที่ดูแลความสงบในพื้นที่อยู่เช่นเดิม เมื่อได้รับแจ้งว่ามีเหตุไม่ปกติก็สามารถเดินทางไปตรวจสอบและระงับเหตุได้ มิใช่เมื่อมีคำสั่งให้ดูแลหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ถึง 26 แล้วจะจำกัดอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ตามกฎหมาย
ส่วนที่ผู้ร้องคัดค้านมอบอำนาจให้นายประชา น้อยบำรุง ไปแจ้งความดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท.ชินรัตน์ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดนั้น ท้ายสุดคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งภาครัฐ มีความเห็นว่าการกระทำไม่เป็นความผิด ข้อเท็จจากทางไต่สวนศาลเห็นว่ายังไม่ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พ.ต.ท.ชินรัตน์ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายกระทำการอันเป็นคุณหรือโทษแก้ผู้สมัครพรรคการเมือง
ข้อเท็จจริงทั้งสองดังกล่าวจึงไม่มีเหตุควรเชื่อกรณีเป็นไปตามคำร้องของผู้ร้องอันจะเป็นเหตุให้ศาลมีคำสั่งให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพมหานครเขต 28 ใหม่แทน พ.ต.อ.นพ.สามารถ ม่วงศิริ จึงมีคำสั่งยกคำร้อง
ภายหลัง พ.ต.อ.นพ.สามารถกล่าวทั้งน้ำตาคลอเบ้าว่า ดีใจที่ศาลมีคำสั่งยกคำร้องโดยตนยังคงเชื่อว่ากระบวนการตัดสินมีความยุติธรรมอยู่เสมอ หลังจากนี้ตนก็จะกลับไปปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. อย่างดีที่สุด
ขณะที่ นายวัน อยู่บำรุง ที่ปรึกษา รมช.คมนาคม ซึ่งเคยลงสมัครแข่งขันเลือกตั้ง ส.ส.กทม เขต28 ในนามพรรคเพื่อไทย และเป็นผู้ร้องเรียนต่อ กกต.ก็ได้เดินทางมาร่วมฟังคำสั่งศาลในวันนี้ด้วย พร้อมให้สัมภาษณ์ว่าตนก็น้อมรับคำตัดสินของศาล หลังจากนี้ก็จะพยายามลงพื้นที่พบปะประชาชนให้ได้มากที่สุดเพื่อในอนาคตจะลงรับสมัครเลือกตั้งในสมัยหน้า