ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค “ชีวิตที่ดีกว่า” หลัง กกต.ยื่นคำร้องเหตุองค์ประชุม กก.บห.มิชอบด้วยกฎหมาย
วันนี้ (13 มี.ค.) ที่ศาลรัฐธรรมนูญ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ เป็นประธาน ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยที่นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคชีวิตที่ดีกว่า เนื่องจากมีการรายงานการดำเนินกิจการและการใช้จ่ายเงินสนับสนุนพรรคการเมืองไม่เป็นไปตามมาตรา 93 ประกอบมาตรา 42 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550
โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า พรรคชีวิตที่ดีกว่ามีการรายงานการดำเนินกิจการและการใช้จ่ายเงินสนับสนุนพรรคการเมือง ภายในรอบปีปฏิทิน 54 ต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองจริง แต่ในทางกฎหมายระบุพรรคการเมือง จะต้องกระทำโดยที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า องค์ประชุมไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 28 วรรคสอง (5) ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 จึงเห็นว่าพรรคชีวิตที่ดีกว่ามีการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 42 ศาลรัฐธรรมนูญจึงวินิจฉัยให้ยุบพรรคชีวิตที่ดีกว่า และห้ามมิให้กรรมการบริหารพรรคการเมือง มีส่วนจดแจ้ง จัดตั้งพรรคการเมืองหรือมีส่วนเข้าไปเป็นกรรมการบริหารพรรคใหม่ เป็นระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ตามมาตรา 93 ประกอบมาตรา 42 วรรคสอง
วันนี้ (13 มี.ค.) ที่ศาลรัฐธรรมนูญ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ เป็นประธาน ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยที่นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคชีวิตที่ดีกว่า เนื่องจากมีการรายงานการดำเนินกิจการและการใช้จ่ายเงินสนับสนุนพรรคการเมืองไม่เป็นไปตามมาตรา 93 ประกอบมาตรา 42 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550
โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า พรรคชีวิตที่ดีกว่ามีการรายงานการดำเนินกิจการและการใช้จ่ายเงินสนับสนุนพรรคการเมือง ภายในรอบปีปฏิทิน 54 ต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองจริง แต่ในทางกฎหมายระบุพรรคการเมือง จะต้องกระทำโดยที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า องค์ประชุมไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 28 วรรคสอง (5) ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 จึงเห็นว่าพรรคชีวิตที่ดีกว่ามีการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 42 ศาลรัฐธรรมนูญจึงวินิจฉัยให้ยุบพรรคชีวิตที่ดีกว่า และห้ามมิให้กรรมการบริหารพรรคการเมือง มีส่วนจดแจ้ง จัดตั้งพรรคการเมืองหรือมีส่วนเข้าไปเป็นกรรมการบริหารพรรคใหม่ เป็นระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ตามมาตรา 93 ประกอบมาตรา 42 วรรคสอง
