เกาะกระแส
00 ดูๆแล้วบางที่ก็น่าสมเพชปนทุเรศกับความเห็นแก่ตัว ขี้ขลาดตาขาวของพวก “หัวโจก”เสื้อแดง กับหัวหน้าใหญ่ของมันอย่าง ทักษิณ ชินวัตร ที่วันๆไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าตัวเองพวกของตัวเองจะได้ประโยชน์ได้กำไรอย่างไรให้มากที่สุด ทั้งที่สถานนะที่เป็นอยู่ก็ล้วนแต่ “เหยียบย่ำศพ” ของมวลชนคนเสื้อแดงเข้ามาทั้งสิ้น หลอกต้มใช้วาทะในเรื่องประชาธิปไตย ไพร่ อำมาตย์ เผด็จการสารพัดสรรหาคำพูดสวยหรูมาบังหน้า คราวนี้ก็เช่นเดียวกันเรื่องร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่เสนอโดย ส.ส.เพื่อไทยที่ส่วนใหญ่เป็นหัวโจกคนเสื้อแดง ต้องโทษคดีอาญา เผาบ้านเผาเมือง ซึ่งหากพิจารณาจากเล่ห์เหลี่ยมกระจอกๆแล้วก็รู้ทันได้ไม่ยากว่าต้องการใช้เสียงข้างมากในสภามาฟอกตัวเอง และมีอานิสงส์ไปถึง “หัวหน้าโจรใหญ่” อย่าง ทักษิณ ไปด้วย
00 วิธีการกระจอกๆก็คือมาสูตรเดิมก็คือในร่างกม.อ้างว่าจะไม่ครอบคลุมไปถึง “คนสั่งการ”และ “แกนนำ” ให้นิรโทษฯเฉพาะระดับชาวบ้านรากหญ้าที่เข้าร่วมชุมนุม แต่คำถามก็คือมีใครยอมรับบ้างว่าเป็นหัวหน้าเป็นหัวโจกหรือเป็นคนสั่ง ที่ผ่านมามีแต่อ้างว่าไม่มีใครสั่งหรือสั่งใครไม่ได้ ทุกคนสมัครใจกันมาร่วมกันเรียกร้องความยุติธรรม ต่อต้านเผด็จการ และดีไม่ดีคน “เหลี่ยมจัด” อย่าง ทักษิณ ชินวัตร ก็จะบอกว่าตัวเองไม่ได้หัวหน้า ไม่ใช่คนสั่ง แต่ “พี่น้องเขามาเอง” ทุด !!
00 อีกทั้งถ้ามีการพิสูจน์ว่าใครเป็นหัวหน้าใครเป็นคนสั่งจะพิสูจน์อย่างไร ซึ่งจะว่าไปแล้วหลักการก็ไม่เห็นจะยากเย็นอะไร ในเมื่อทุกฝ่ายต่างก็เชื่อมั่นว่าตัวเองบริสุทธิ์ ไม่ได้ทำผิดก็เข้าสู่การพิสูจน์ในชั้นศาลซี หมดเรื่อง ให้ศาลตัดสินตามพยานหลักฐาน โดยเฉพาะพวกหัวโจกทั้งหลายก็ประกาศไปเลยว่าให้รอศาลตัดสินเท่านั้น แต่ที่ผ่านมาตัวเองไม่กล้าพูดเพราะต้องการเอาเปรียบ ต้องการเอาตัวรอด หรือก่อนหน้านี้เราเคยเห็นคนพวกนี้สักคนหรือไม่ว่าจะให้พิสูจน์ในศาลกันจนถึงที่สุด ไม่ว่าจะเป็น จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส่วน หน้าเหลี่ยมนั้นไม่ต้องพูดถึง “พาลพาโล” ใส่ร้ายศาล หาว่าไม่ยุติธรรมตั้งแต่แรกแล้ว จึงต้องหาทางแก้ไข รธน.ลบล้างอำนาจยุติธรรมเสียใหม่ คิดอยู่แค่นี้
00 ถามว่าถ้ายังดึงดันคิดจะใช้เสียงข้างมากในสภาฟอกความผิดให้ตัวเอง มันก็ต้องเจอดีแน่นอน และคราวนี้จะต้องเจอกับการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรฯที่เคยประกาศเป็นพันธสัญญาก่อนหน้านี้แล้วว่า ถ้ามาแบบนี้อีกก็ต้องชุมนุมคัดค้านจนถึงที่สุด และรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ต้องรับผิดชอบ จะ “ลอยตัว” อ้างเป็นเรื่องสภาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ซึ่งก็ต้องรอวัดใจ ยิ่งลักษณ์ กับ ทักษิณ ที่เป็นเจ้าของ ส.ส.เพื่อไทยและหัวโจกแดงทั้งหลายว่า “พร้อม” จะเสี่ยงเล่น “ของร้อน” อีกรอบหรือไม่
00 อย่างไรก็ดีเท่าที่พิจารณาจากท่าทีล่าสุดก็คงต้องมาตามสูตรเดิมนั่นคือ “แขวนรวม” เอาไว้ก่อน นั่นคือเอาร่างล่าสุดที่เสนอโดย ส.ส.เสื้อแดง และประธานสภาฯสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ บรรจุเข้าระเบียบวาระไปแล้ว และเมื่อรวมกับร่างนิรโทษฯที่ตบตาโดยใช้ชื่อ พ.ร.บ.ปรองดองที่คาอยู่ในสภาอีก 4 ฉบับรวม 5 ฉบับ ที่มองเห็นอย่างนั้น เพราะเป็นมติวิปรัฐบาลวานนี้(11มี.ค.)ไม่ให้เลื่อนขึ้นมาเป็นวาระแรกๆ ตามที่มีความพยายามหยั่งกระแสสังคมก่อนหน้านี้
00 ขณะเดียวกันเมื่อรูปการออกมาแบบนี้มันก็ทำให้วง “ปาหี่” ถกหาทางออกเพื่อสร้างความชอบธรรมในเรื่องลบล้างความผิดให้ ทักษิณ ที่ใช้โต้โผเจ้าใหม่คือ รองประธานสภาฯ เจริญ จรรย์โกมล ก็ไร้ความหมายไปโดยปริยาย เพราะล้วนแล้วมีแต่พวกลูกน้องคนกันเองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะ ตัวแทนรัฐบาล ส.ส.เพื่อไทย คนเสื้อแดง เป็นต้น ดังนั้นที่กล่าวว่าคนที่ขวางพ.ร.บ.นิรโทษฯนั้นใจแคบก็คงไม่ใช่ แต่ “รู้ทัน” ต่างหาก !!
00 มันก็แหงอยู่แล้ว เพราะ “เรื่องเงิน” เรื่องใหญ่กว่า นั่นคือ พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทกำลังจะเข้าสภาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เรื่องนี้แหละเร่งด่วนกว่า ส่วนจะเกี่ยวกับเรื่อง “ค่าหัวคิว” ร้อยละ 30 ที่รออยู่ข้างหน้าหรือเปล่าให้คิดกันเอาเอง ลองคิดดูแล้วกันว่าจำนวนเงินมหาศาลอย่างที่เห็นมันยั่วใจขนาดนี้ แล้วใครจะโง่มาเสี่ยงให้เสียบรรยากาศทำไม ว่ามั๊ย แม้ว เวลานี้ก็ทำตัวเป็น “โบรกเกอร์” ข้ามชาติรับงาน จัดคิวเดินสายก็มีความสุขดีอยู่แล้ว น่าเห็นใจที่สุดก็ยังเป็นพวกเสื้อแดงรากหญ้าปลายแถวนั่นแหละ เพราะ “ถูกต้ม” ตลอดกาล และเรื่องปล่อยตัวรอดคุกก็เช่นเดียวกัน ถ้าพวก ส.ส.เสื้อแดง จริงใจจริง ก็น่าจะรวมหัวกันใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.ไปประกันตัวออกมา ก็ทำได้อยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาทำเฉย สร้างแต่วาทะกรรมหรูหราไปวันๆเท่านั้น ทุด !!