อุปสรรคคือผลงานห่วย-คนรู้ทัน !!

เกาะกระแส

00 หากจะว่าไปแล้วสาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้ ทักษิณ ชินวัตร ติดหล่มจนไม่อาจเดินหน้าไปข้างหน้าได้ โดยเฉพาะเรื่องการออกกฎหมายเพื่อลบล้างความผิดให้กับตัวเอง ทั้งในเรื่องของการออก พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ หรือแม้แต่ความพยายามล่าสุดด้วยการจะเสนอแก้ไขรธน.ทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีอุปสรรคมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เป็นเช่นนี้มาจากเงื่อนไขหลักสองเรื่องคือความ “ห่วยแตก” ของรัฐบาลกับความตื่นตัวของชาวบ้านที่นับวันจะรู้ทันมากขึ้นทุกที

00 หลายคนอาจจะเถียงว่าก็เห็นเวลาคนเสื้อแดงชุมนุมกันทีไรคนยังมากันแน่นทุกที ก็ปฏิเสธไม่ได้ แต่รับรองว่าบรรยากาศไม่คึกคักสุดขีดเหมือนก่อนแน่นอน จำนวนคนยังมาเยอะอยู่ก็จริง แต่ข้างใน ตรงกลางเริ่มมีพื้นที่ว่างมากขึ้น ถือว่าเป็นธรรมชาติของม็อบที่นานวันไปจำนวนยิ่งร่อยหรอ สาเหตุเพราะไม่มีเงื่อนไขที่มาเร่งเร้าได้เพียงพอ อีกทั้งหากพิจารณาให้ลึกลงไปในรายละเอียดบรรดาแกนนำก็เริ่มแตกแยกให้เห็นชัดเจนมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากเรื่องขัดผลประโยชน์ เริ่มมีการจับกลุ่มกันให้เห็นชัดเจน และถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นกลุ่มของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่โดดเด่นแหลมออกมาอย่างชัดเจน เพราะมีเครือข่ายอำนาจในฐานะเป็น รมต.สามารถ “ดึงดูด” เข้ามาได้มากกว่าใคร

00 ไม่เชื่อก็ลองเดินไปที่กระทรวงพาณิชย์ที่ “อำมาตย์เต้น” นั่งทำงานอยู่ในฐานะ รมต.ช่วยว่าการมีบรรดาหัวโจกคนเสื้อแดงและนักธุรกิจเดินกันขวักไขว่ และนาทีนี้หากไม่ใช่พูดเกินเลยสำหรับภาคใต้ตอนบน นครศรีฯจนถึงสุราษฎร์ฯ “เสี่ยคนใหม่” กำลังรุกคืบอย่างหนัก ว่ากันว่าถึงคราวโยกย้ายทั้งสีกากีรวมทั้งข้าราชการสารพัดสีหากสมหวังก็ต้องเข้าหา และที่สำคัญกำลังเป็นมือไม้ร่วมอยู่ใน “บางปู” เสียด้วยสิ และอย่าได้แปลกใจที่เมื่อ ปปช.เปิดเผยทรัพย์สินออกมามีทรัพย์สินเกือบยี่สิบล้าน ธรรมดาเสียที่ไหน ตรงกันข้ามกับ “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ราวฟ้าดิน แม้ว่ายังไม่ถึงขั้นตกต่ำติดดิน แต่คนเราเมื่อ “ไม่มีหัวโขน” เป็นรมต.มันก็ไม่มีราคา และตราบเท่าที่ ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังเป็นนายกฯอยู่บอกได้เลยว่าโอกาสของ ตู่ ปิดไปตลอด

00 วกกลับมาเรื่องสำคัญ นั่นคือข้อสงสัยว่าทำไมระยะหลังอุปสรรคของ ทักษิณ จึงมีมากขึ้นก็ต้องย้ำคำเดิมก็คือผลงานของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ น้องสาวของตัวเองที่ส่งมาเป็นหุ่นเชิดนั้นผลงานที่ผ่านมาในรอบหนึ่งปีมัน “ต่ำกว่ามาตรฐาน” เมื่อเทียบกับศักยภาพที่มีอยู่ในมือพร้อมสรรพแบบนี้ ไม่ต้องมองอะไรซับซ้อนเอาแค่ปัญหาปากท้องถ้าตราบใดคนยังรู้สึกว่า “ของแพง” ขายของไม่ได้ราคา เมื่อนั้นแหละมัน “เริ่มเสื่อม” แล้ว อีกสาเหตุสำคัญก็คือ “คนรู้ทัน” มากขึ้น ว่าเขา “เอาเปรียบ-เอาแต่ได้” แม้แต่การแก้ไข รธน.ความคิดของชาวบ้านเริ่มตกผลึกมากขึ้นว่าแก้ไขเพื่อทักษิณคนเดียว ทำให้เขาต้องถอยร่นลงมาเรื่อยๆ จากเดิมที่คิดจะใช้เสียงข้างมาก “หักดิบ” เอาทุกเรื่องก็ทำไม่ได้ เพราะมีกระแสต้านอย่างเข้มแข็งขึ้นทุกวัน หากให้สรุปง่ายๆก็มันเป็นเช่นนั้นแล !!

00 และด้วยความเห็นแก่ตัวดังกล่าวในที่สุดในระยะยาวมันก็ถึงจุดที่จะต้องแตกหักกับมวลชนคนเสื้อแดงหลายกลุ่มมากขึ้น แม้จะยังตอบไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่มันก็เริ่มเห็นอาการออกมาบ้างแล้ว เพราะอย่างที่บอก แม้วทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอด คิดแต่จะพ้นผิด ได้เงินคืนและหวังกลับมามีอำนาจ ถ้ามีช่องไหนที่เปิดให้ไม่ว่าจะเป็นปรองดองกับอำมาตย์อย่างที่เคยพูดว่า “ขอบใจที่มาส่ง แต่ผมจะขับรถขึ้นเขาไปคนเดียวไม่ต้องตาม” นั้นก็ครั้งหนึ่ง และล่าสุดหักหน้าไม่โหวตวาระ 3 มองลึกๆแล้วในใจของมวลชนที่ “คิดเป็น” พวกเขาก็เจ็บปวด ซึ่งอาจเกิดเป็นจุดเล็กๆ แต่เมื่อเข้าจังหวะมันก็อาจระเบิดขึ้นมาได้ใครจะรู้ อย่าประมาทเป็นอันขาด !!