“อภิสิทธิ์” ลั่น รบ.กู้ 2 ล้านล้าน จัดสารพัดโครงการ ปชป.ทำได้ทั้งหมดไม่ต้องกู้ ชี้แค่เลิกโกง งดประชานิยม เปลี่ยนแสนล้านรถคันแรกไปสร้างรถไฟ เกทับหาก ปชป.สร้างรถไฟความเร็วสูงยิงยาวกรุงเทพฯ-หนองคาย ไม่กั๊กแค่โคราช เชื่อนิรโทษคนยิง เผา อนาคตวุ่นการต่อสู้ทางการเมืองจะไม่มีกติกา ยันไม่ปล่อย รบ.ดันกม.นิรโทษฯพ่วง กม.4 ฉบับ ช่วยทักษิณและคนโกงแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในการปราศรัยเวทีประชาชน “เดินหน้า ผ่าความจริง สจฺจํ เว อมตา วาจา ความจริงไม่มีวันตาย” ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก ม.ขอนแก่น จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ว่า เมื่อวานผมต้องไปศาลพี่น้องครับ ต้องไปศาลเพราะว่าศาลท่านเรียกให้ผมไปไกล่เกลี่ยกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ความจริงในรายงานของศาลนั้น ที่ผมทราบมาก่อนหน้าเมื่อวานนี้ เขาบอกว่า จำเลย คือนายจตุพร พรหมพันธุ์ นั้น ประสงค์จะได้มีการพูดคุยเพื่อไกล่เกลี่ย ผมก็ถามทนายผมว่า ทำไมไม่ไกล่เกลี่ยเสียตั้งแต่ตอนนั้น นัดกันมาว่าผมคิดอย่างไร ทนายผมบอกว่า ทางจตุพรนั้นขอว่า ให้เลือกตั้งผู้ว่าฯ เสร็จก่อน ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าเขาคิดว่าจะได้เป็นรองผู้ว่าฯ แล้วจะได้เจรจาได้หรือเปล่า แต่เมื่อวานมาถึง ศาลก็ถามว่า เอ้า จำเลย มีข้อเสนออะไร จำเลยก็บอกว่าที่เคยพูดกล่าวหาผมนั้น เมื่อศาลขอให้ไกล่เกลี่ย จำเลยบอกว่าจะขอถอนคำพูด ที่จริงนายจตุพรนั้น เสนออันนี้มา แต่ไม่เคยบอกคนอื่นนะครับ เมื่อวานมีนักข่าวพยายามถามว่าคุณเสนอถอนคำพูดใช่มั้ย ก็ออกอาการไปด่านักข่าวว่า พูดภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง ดีนะครับ นักข่าวไม่ตอบโต้ว่า ฟังภาษาคนรู้เรื่อง เฉพาะเวลาคนพูดครับ
ผมก็กราบเรียนศาลว่า ผมฟ้องร้องจำเลยนั้น ผมไม่ได้สนใจหรอกครับ ในเรื่องตัวจำเลย แต่จำเลยกล่าวหาผม กล่าวหาผมรุนแรงมาก ว่าสั่งฆ่าประชาชน กล่าวหาผมว่า ผมไปแย่งชิงพระราชอำนาจ แล้วคำกล่าวนี้ มีมวลชน มีประชาชนทั่วไป ที่ฟังแล้วเชื่อ เมื่อเชื่อแล้ว ดูหมิ่น เกลียดชังผม ผมเสียชื่อเสียง เมื่อเชื่อแล้วก็มาก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง แต่ผมไม่ใช้วิธีอื่น ผมทำตามกฎหมาย ผมก็มาพึ่งบารมีศาล เพื่อให้ความยุติธรรม ฉะนั้นเมื่อศาลบอกว่า อยากจะให้ไกล่เกลี่ย ผมมีข้อเสนอมั้ย ผมก็มีข้อเสนอว่าให้จำเลยโฆษณาประชาสัมพันธ์ ยอมรับเสียว่า สิ่งที่ตัวเองพูดนั้นเป็นเท็จ และจะไม่ทำอีก นายจตุพร บอกว่า ทำได้แค่ถอนคำพูด ไม่ขอยืนยันว่าพูดจริง พูดเท็จ โดยสรุปก็คือการไกล่เกลี่ย จบลงภายใน 5 นาที สืบพยานจำเลยต่อครับ
พี่น้องครับ บ้านเมืองเราต้องอยู่ด้วยความจริง วันนี้มีความจริงหลายอย่างซึ่งพี่น้องประชาชน อาจจะยังไม่รับรู้รับทราบ และความจริงเท่านั้นครับ จะทำให้พวกเราหลุดพ้นจากสภาพปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง วันนี้รัฐบาลกำลังทำหลายสิ่งหลายอย่างครับ แต่สิ่งที่รัฐบาลยังมุ่งมั่นไม่เปลี่ยนแปลง คือการออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อช่วยเหลือพวกพ้องตัวเอง และเพื่อช่วยเหลือ ทักษิณ ชินวัตร แต่ในความเป็นจริงวันนี้ รัฐบาลซึ่งได้รับการเลือกตั้งมาจากพี่น้องประชาชน เพราะให้คำมั่นสัญญาไว้หลายอย่างว่าจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น จะทำให้ประเทศชาติเดินหน้า ก้าวหน้า เจริญรุ่งเรือง แต่รัฐบาลทำไมไม่นำพากับปัญหาของพี่น้อง
สัญญาว่าจำนำข้าว หมื่นห้า ปีที่แล้ว ได้เหมือนกัน แต่หมื่นห้าร้อย ไม่ใช่หมื่นห้าพัน ปีนี้หลังจากที่โครงการนี้ขาดทุนประมาณ สองแสนล้าน ทุจริต คอร์รัปชันมากมาย ตอนนี้รัฐบาลบอกกำลังจะทบทวน อาจจะลดราคาเหลือหมื่นสาม จะต้องไปวิ่งหาเงิน จะต้องไปวิ่งหาโกดังมาเก็บข้าว สุดท้ายตอนนี้คืออะไรครับ พี่น้องเกษตรกร ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน เพราะไม่รู้ว่าจะมีโครงการรับจำนำหรืออะไร หรือไม่ครับ นี่เป็นการทอดทิ้งพี่น้องเกษตรกร
พี่น้องผู้ใช้แรงงานได้รับคำมั่นสัญญา ค่าแรง 300 บาท เขาบอกเริ่มบังคับใช้แล้วตั้งแต่เดือนมกราคม แต่ผมยืนยันว่า หลายพื้นที่ทั่วประเทศนายจ้างเขาสู้ไม่ไหว เมื่อนายจ้างเขาจ่ายเงิน 300 บาทไม่ได้ เขาก็ต้องไปพูดคุยกับลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงาน หลายที่ตัดสวัสดิการ ที่เคยจ่ายค่ารถ ที่เคยออกค่าอาหาร หรือที่อยู่อาศัยให้ ก็เลิกจ่ายสิ่งเหล่านี้ เพื่อที่จะมาจ่ายเงิน 300 บาทได้ หลายแห่งถ้าจำเป็นหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องจ่าย 300 บาท สุดท้ายทำอะไรครับ ขึ้นราคาสินค้า พี่น้องประชาชนเดือดร้อน แพงทั้งแผ่นดินใช่มั้ยครับ ไปดูสิครับ ผมไม่ได้พูดถึงสินค้าราคาแพง สินค้าฟุ่มเฟือย ผมพูดถึงปัจจัยสี่ พูดถึงอาหาร พูดถึงเครื่องนุ่งห่มอย่างนี้เป็นต้น แพงขึ้นทั้งนั้น และพี่น้องประชาชนเดือดร้อนกันทั่วประเทศ
แต่ว่าที่น่าเศร้ากว่านั้นครับ ก็คือนโยบายนี้เป็นนโยบายหาเสียงโดยไม่คำนึงว่าประเทศชาติบ้านเมืองเศรษฐกิจ จะเดินหน้าไปอย่างไร ปรากฏว่ามีผู้ประกอบการที่เดือดร้อนและกำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เขาก็ต้องไปหารัฐบาลว่า จะช่วยเหลือเขาได้อย่างไร รายใหญ่ๆ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เงินเขาเยอะ เขามีวิธีการ เขาเตรียมตัว เขาก็สามารถรองรับนโยบายแบบนี้ได้ แต่ผู้ประกอบการรายเล็ก รายน้อยทั่วประเทศ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด เพราะเมื่อก่อนต่างจังหวัดค่าแรงจะถูกกว่า เนื่องจากต้นทุนอื่นสูงกว่า ผู้ประกอบการ นักลงทุนเขามาอยู่ที่นี่ได้ค่าแรงก็ต้องแตกต่างจากที่อื่น แต่ตอนนี้จากนโยบายนี้ เขาจะอยู่ไม่ได้ เขาไปหารองนายกฯ รองนายกฯ บอกเขาว่ายังไงครับ บอกเขาว่าใครที่ไม่สามารถอยู่กับนโยบาย 300 บาทได้เชิญไปอยู่ต่างประเทศ
เพราะฉะนั้นวันนี้พี่น้องในขอนแก่น ไปสำรวจ ตรวจสอบเถอะครับ มีหลายโรงงาน มีหลายอุตสาหกรรม ไปแล้ว ย้ายฐานไปประเทศเพื่อนบ้าน แล้วก็จะไม่สามารถจ้างพี่น้องคนไทยให้มีงานทำที่นี่ต่อไปได้ ผมก็อยากให้พี่น้องได้ค่าแรง 300 บาท แล้วผมก็บอกเมื่อรัฐบาลพูดแล้วต้องทำ แต่ต้องช่วยผู้ประกอบการ และลูกจ้างให้ผ่านพ้นช่วงของการปรับตัวให้ได้ รัฐบาลก็ต้องเอาเงินไปช่วยเขาสิครับ เพราะนโยบายประชานิยมของรัฐบาลนี้ หลายคนก็บอกว่าเหมือนกับนโยบายซื้อเสียง แต่นโยบาย 300 บาท ร้ายกาจที่สุด เพราะเอาเงินของภาคเอกชนไปซื้อเสียง
พี่น้องประชาชนมีสิทธิ์ที่จะมีงานทำ มีสิทธิ์ที่จะมีค่าจ้าง มีรายได้ดี แต่ถ้าคุณทำลายฐานการผลิต ทำลายภาคอุตสาหกรรม ทำลายภาคการค้า สุดท้ายคนที่เดือดร้อน คือพี่น้องประชาชนที่ตกงานแล้วต้องซื้อของแพงครับพี่น้องครับ ต้องแก้ไข รัฐบาลก็ไม่สนใจ ไม่นำพา ผมจะเตือนเอาไว้ว่า ถ้าถึงวันหนึ่งพี่น้องประชาชนเดือดร้อนมากเข้าๆ สุดท้ายเขาจะบอกว่า ใครที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน เชิญไปอยู่ต่างประเทศกับนายคุณดีกว่า
นอกจากนั้นรัฐบาลในช่วง 2 อาทิตย์ 3 อาทิตย์ ที่ผ่านมานี้ครับ กำลังเตรียมทำอะไรหลายอย่าง คิดการใหญ่ บางเรื่องต้องรอมาหลังจากเลือกตั้งผู้ว่าฯ นี่ครับ เพราะรู้ว่าคนกรุงเทพฯ จับตาดูอยู่อย่างใกล้ชิด เช่นเตรียมกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ตอนนี้กำลังโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนเคลิบเคลิ้มว่า ถ้ากู้เงิน 2 ล้านล้านบาท มาทำโครงการสารพัดโครงการแล้ว อีก 10 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะเจริญรุ่งเรือง ผมก็บอกกับพี่น้องก่อนว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยว่า ถึงเวลาที่จะต้องลงทุนในอะไรหลายอย่าง ผมก็อยากให้พี่น้องมีรถไฟความเร็วสูงใช้ อยากให้มีระบบขนส่งมวลชนที่ดี อยากให้มีแหล่งน้ำที่ดี แต่ประชาธิปัตย์ยืนยันว่าที่รัฐบาลคิดจะลงทุนทั้งหมดนั้น ถ้าเป็นประชาธิปัตย์ เราลงทุนได้ไม่ต้องกู้ 2.2 ล้านล้าน
ไม่ต้องกู้ เพราะฐานะการเงินการคลังของประเทศ ตั้งแต่รัฐบาลประชาธิปัตย์มายังแข็งแกร่งเพียงพอ เพียงแต่รัฐบาลต้องอย่าใช้จ่ายเงินสุรุ่ย สุร่าย ทำโครงการที่ไม่จำเป็น เช่น ถ้าเลิกโครงการจำนำข้าวซึ่งใช้เงินที่ขาดทุนอยู่ ปีละ 2 แสนล้าน แสนล้านไปถึงชาวนา ผมก็บอกแสนล้านก็ให้ชาวนาต่อไป แต่อีกแสนล้านที่ไปอยู่ในกระเป๋าใคร ก็เอาตรงนี้มาลงทุนให้กับพี่น้องประชาชนสิครับ แทนที่จะเอาอีกแสนล้านไปให้คนซื้อรถคันแรก ทำไมไม่เอาแสนล้านนี้มาสร้างรถไฟให้คนทั่วประเทศได้นั่ง
แล้วก็ที่สำคัญที่สุดพี่น้องครับ ถ้าเลิกทุจริต ที่โกงกินกันอยู่ 20 30 40% เงินพอลงทุน ไม่ต้องกู้ แน่นอนครับ แล้วการทำโครงการทั้งหลาย ต้องดูตามความจำเป็น จัดลำดับความสำคัญให้ถูก อย่างเรื่องรถไฟนั้น เป็นเรื่องแปลก รัฐบาลที่แล้วเตรียมทำรถไฟความเร็วสูง ถามว่าสายแรกที่จะทำ ประชาธิปัตย์จะทำตรงไหน ประชาธิปัตย์คิดทำ กรุงเทพฯ-หนองคาย ครับ
ทั้งๆ ที่เส้นทาง กรุงเทพฯ-หนองคาย ตลอดสาย หา ส.ส.ประชาธิปัตย์แทบไม่เจอเลย แต่เราทำเพื่อประเทศ เพราะจีนนั้นเขาทำรถไฟความเร็วสูงมาถึง ลาว ตรงข้ามฝั่งตรงหนองคายอยู่แล้ว เราก็ต้องทำเส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ไปเชื่อมต่อรถไฟสายนี้ จะได้ไปลาว และไปจีนได้ไงครับพี่น้องครับ แต่รัฐบาลนี้ จะกู้เงิน 2 ล้านล้าน มาทำเครือข่ายรถไฟความเร็วสูง พี่น้องอีสานทราบมั้ยครับ กรุงเทพฯ-หนองคาย กลายเป็น กรุงเทพฯ-โคราช ที่เหลือเชิญนั่งรถไฟ 40 กม.ต่อ ชม.ต่อไป แล้วเส้นทางที่จะไปอุบลฯ เขาก็ลืมไปเลยครับ ประชาธิปัตย์พูดไว้แล้ว นี่คือสิ่งที่พี่น้องต้องติดตาม ต้องตรวจสอบให้รู้ความจริงว่า รัฐบาลกำลังทำอะไร
แล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หรือสัปดาห์ก่อนหน้านะครับ พี่น้องก็ต้องทราบว่า เรื่องปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วันดีคืนดี รัฐบาลก็ให้ สมช.หรือสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไปลงนามกับ BRN ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดน เหมือนจะโฆษณาว่า สันติภาพกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว แต่นับตั้งแต่ลงนามมา เหตุร้ายเกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เกือบทุกวันครับพี่น้อง ผมเห็นด้วย ประชาธิปัตย์เอง เราเคยพยายามเริ่มต้นแล้วก็ทำอยู่แล้วครับ กระบวนการพูดคุยเชิงสันติภาพ แต่เขาไม่ทำโดยวิธีการแบบนี้ วิธีการแบบนี้ที่ทำกำลังนำความเสี่ยง นำอันตรายหลายอย่าง เฉลิมมาตอบกระทู้ในสภาบอกว่า ทำดีกว่าอยู่เฉยๆ
ผมก็บอกว่า ไม่ใช่หรอกครับ เพราะความรุนแรงที่เกิดขึ้น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาและอาจจะเกิดขึ้นต่อไปนั้น เป็นปฏิกิริยาจากกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ ที่เขาไม่ได้รู้เรื่อง ไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือไม่เห็นด้วยว่าอยู่ดีๆ เอาเฉพาะตัวแทน BRN ที่ว่านั้น มาเซ็นกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ เหมือนปีที่แล้ว ช่วงระยะเวลาประมาณมีนา นี่แหละครับ พี่น้องจำได้มั้ยครับว่า เกิดเหตุระเบิดใหญ่ที่โรงแรมลีการ์เด้น หาดใหญ่ และระเบิดทั่วเมืองที่ยะลา ผมพูดตั้งแต่ปีที่แล้วว่า ระเบิดที่เกิดขึ้น 2 ครั้งที่รุนแรงมาก เป็นปฏิกิริยาจากที่ ทักษิณ ชินวัตร ไปคุยกับโจรใต้ที่มาเลเซีย นพดล ปัทมะ ปีที่แล้ว ออกมาปฏิเสธท้าทายบอก เอาสิ เอามาดูสิ ทักษิณไปมาเลเซีย ที่ไหนเมื่อไหร่ ปีนี้ทักษิณยอมรับแล้วครับว่าเป็นคนไปคุยที่มาเลเซีย เพราะฉะนั้นก็ขอรบกวนว่า คราวหน้า ผมพูดความจริงอะไร นายใหญ่มาโต้ ขี้ข้าไม่ต้อง
ผมกราบเรียนว่า ผมเตือนด้วยความหวังดีว่ารัฐบาลต้องรัดกุมกว่านี้ และจะมาแก้ตัวว่า ดีกว่าอยู่เฉยๆ ไม่ได้ เพราะพวกคุณไม่ได้รับระเบิด ไม่ได้รับความรุนแรง อยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมจะยอมรับที่เฉลิมว่า ดีกว่าอยู่เฉยๆ ได้ ถ้าเฉลิมไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วไปช่วยดูแลพี่น้องอย่าให้เกิดความรุนแรง
ที่จริง ก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯ นี่ เฉลิมก็บอกว่าจะงดสัมภาษณ์ 7 วัน ถ้าพงศพัศ แพ้ นี่ยังไม่ได้ทวงเลย ผมก็บอกแล้ว ไม่เป็นไร อยากพูด พูดต่อ แต่ขอความกรุณาไปพูดที่ ยะลา นราธิวาส ปัตตานี แล้วผมก็รู้ว่าพูดก่อนเลือกตั้ง ก็พูดไปอย่างงั้นแหละครับ เพราะก่อนเลือกตั้งใหญ่เคยพูดเหมือนกัน จำได้มั้ย ถ้าลูกชายแพ้ จะไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี ฉะนั้นวันนี้ ผมจึงบอกว่า พวกผมมาพบปะพี่น้องประชาชน จะที่นี่ หรือที่ไหนก็ตาม ไม่ได้มาเพื่อล้มล้างรัฐบาล มาเพื่อเอาความจริงมาบอกกับพี่น้อง และมาเรียกร้องให้รัฐบาลทำหน้าที่ ของแพง รายได้เกษตรกรตกต่ำ พี่น้องผู้ใช้แรงงานเดือนร้อน พี่น้อง 3 จังหวัดภาคใต้เดือนร้อน กรุณาไปแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน
และเราก็จะเดินทางไปอย่างนี้ และเราก็รู้ครับ มาพื้นที่อย่างภาคอีสาน ก็ต้องมีการก่อกวน มีการขัดขวาง เมื่อไม่นานมานี้ไปกาฬสินธุ์ ก็เจอ เป็นธรรมดา แต่ผมอยากจะยืนยันว่าพฤติกรรมอย่างนี้มันฟ้องว่าคุณไม่ใช่นักประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ใครคิดอ่านอย่างไร ก็ใช้สิทธิตามกฎหมาย ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญกันได้ทั้งสิ้น แต่ถ้าคุณขัดขวางอย่างนี้ มีแต่ความเป็นเผด็จการ และเขาคิดไงครับ เขาคิดว่าในที่สุด พี่น้องคนไทยทุกคนต้องอยู่ภายใต้การกดขี่ การคุกคาม ภายใต้ความกลัว เขาพยายามทำกับคนกรุงเทพฯ เลือกตั้งครั้งนี้ มีการใช้อำนาจรัฐ แบบโจ่งแจ้งน่าเกลียดมากที่สุดครั้งหนึ่ง
อาทิตย์สุดท้ายนี่ครับ มีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างที่คุณสุเทพเล่า ไปเฝ้าตามบ้าน ไปพูดคุยกับใครที่สนับสนุนประชาธิปัตย์ พูดจาบอกว่าอย่าสนับสนุน ประชาธิปัตย์ แต่ว่าประชาชนเขาไม่กลัว ผมก็อยากจะยืนยันครับว่า เราอยู่ภายใต้ความกลัวไม่ได้ เพราะถ้าเราอยู่ภายใต้ความกลัว และการต่อรอง และการคุกคาม สุดท้ายพี่น้องประชาชน ที่เป็นผู้บริสุทธิ์ พี่น้องประชาชน ที่เป็นพลเมืองดี พี่น้องประชาชนที่เคารพกฎหมาย อยู่ไม่ได้ครับ เขาจะคุกคาม เขาจะไล่บี้ เขาจะกดดัน
ฉะนั้นจากวันนี้ไป ที่เขากำลังเดินหน้าต่อเรื่องนิรโทษกรรม เรื่องเดียวกัน ทำไมเป็นเรื่องเดียวกัน เหมือนกับที่เขาคิดไงครับว่า เขาต่อรองคนกรุงเทพฯ ได้ คุณไม่เลือกเรา เราไม่สนับสนุนการทำงาน กทม.เราเป็นรัฐบาลอยู่ คุณจะเลือกเรา เราส่งตำรวจไปพูดคุย อย่าเลือกฝ่ายตรงกันข้าม คุณไม่เข้ามาอยู่ข้างเดียวกับเรา เราจะทำทุกวิถีทาง กดดัน บีบ ต่อรอง ทำทุกสิ่งทุกอย่าง เขาเห็นประชาชนเป็นแค่เบี้ยล่าง ที่จะมากดดัน กดขี่ได้ นี่คือเขาครับ
เช่นเดียวกันวันนี้ เขาก็มีคำขู่พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ถ้าไม่นิรโทษกรรม ให้เขา เขาจะไม่ปล่อยให้บ้านเมืองสงบสุข คำพูดของคนๆ หนึ่งละครับ ที่อยู่แดนไกล ที่บอกว่า ถ้าเขาไม่มีที่อยู่ในประเทศไทย คนไทยก็อย่าได้อยู่อย่างสุขสบาย ยอมมั้ยครับ (ไม่ยอม)
ไม่ต้องกลัวหรอกครับ เพราะเลวร้ายที่สุด ผมบอกให้ครับ ยังไงสังคมไทย และความจริง อายุยืนยาวกว่ามันอยู่แล้ว เราต้องอดทน แต่เราต้องยืนหยัด เพราะสิ่งที่เขากำลังจะทำ ถ้าทำสำเร็จ วันข้างหน้า ความสงบสุขที่แท้จริง ไม่มีครับ กฎหมายนิรโทษกรรมที่เขาเสนอเข้าไปนั้น ผมได้อ่านแล้วที่เขาบอกว่าจะให้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระ วันพุธ วันพฤหัสฯ นี้ จะพิจารณาเมื่อไหร่ ผมไม่ทราบ แต่มันเขียนบอกว่า ความผิดอะไรที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออก ความคิดเห็นทางการเมือง ในช่วงที่ผ่านมา ให้ถือว่าไม่เป็นความผิด ถ้าถูกจับอยู่ให้ปล่อย ถ้าศาลตัดสินแล้ว ให้ถือว่าไม่มีคำพิพากษา นี่คือกฎหมายที่เขากำลังจะเอาเข้าสู่การพิจารณาของสภา นั่นหมายความว่าอะไรครับ คนที่มาเผาศาลากลางของพี่น้อง เขาก็จะบอกว่า ไม่มีความผิด เพราะเผาเป็นเหตุผลสืบเนื่องมาจากการชุมนุมทางการเมือง คนที่เอา M79 ไปยิง จะยิงวันพระแก้ว จะยิงสถานี BTS ไปขว้างระเบิด หรือชายชุดดำที่ไปฆ่าตำรวจ ทหาร ประชาชน ก็จะไม่มีความผิด เพราะเขาจะอ้างว่า เป็นเหตุการณ์ที่สืบเนื่องมาจากการชุมนุมทางการเมือง
แล้วคนที่ยั่วยุ คือเขาบอกว่า เขายกเว้นคนสั่งการ เขาบอกคนสั่งการต้องรับผิด แต่ผมเห็นแล้ว ตั้งแต่ทักษิณ จตุพร ณัฐวุฒิ ก่อแก้ว ทุกคนบอกไม่เคยสั่งการ แต่ถ้าเป็นคนที่บอกว่า แสดงออกเพื่อให้มีการต่อต้านรัฐ เขาบอก ไม่มีความผิด เพราะฉะนั้นไอ้ประเภท เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง ก็จะไม่มีความผิด
ผมถามพี่น้องครับ ถ้ากฎหมายอย่างนี้ผ่านได้ แปลว่า ต่อจากนี้ไปในวันข้างหน้า การต่อสู้ทางการเมืองไม่มีกติกาครับ เพราะหมายความว่า ใครต่อสู้ทางการเมือง อยากจะทำอะไร อยากจะยิง อยากจะระเบิด อยากจะเผา เมื่อชนะแล้วก็ไปออกกฎหมายล้างความผิดให้กับตนเอง แล้วบ้านเมืองจะมีความสงบสุขได้อย่างไร แล้วเราจะเขียนในรัฐธรรมนูญ ทำไมว่า การชุมนุมทางการเมือง ที่เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน ต้องเป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ จะเขียนไว้ทำไมล่ะครับ
เราจะกลัว เพราะเขามีอำนาจรัฐ เราจะกลัวเพราะเขามีมวลชนเสื้อแดง เราจะกลัวเพราะเขามีอีกหลายต่อหลายอย่างมากดดัน แล้วบอกว่า ถ้าตรงนี้ไม่ทำให้ เรื่องต่างๆ ไม่จบ ถ้าเรากลัว แล้วปล่อยไปอย่างนั้น ผมยืนยันว่าสังคมเราจะมีแต่ความเสื่อม ไม่มีสังคมไหนที่เจริญแล้ว ที่กลัวโจร มากกว่ากลัวกฎหมาย ที่กลัวคนชั่ว มากกว่ากติกาที่กำหนดให้ปฏิบัติตาม และกลัวคนโกง มากกว่าที่จะยืนหยัดบนความถูกต้อง ความซื่อสัตย์ ที่จะนำพาประเทศชาติ บ้านเมือง เดินไปข้างหน้า
การคัดค้านของประชาธิปัตย์ การคัดค้านของผม และการคัดค้านของพี่น้องประชาชนที่มา เราไม่มีประโยชน์ได้เสีย อะไรทั้งสิ้นครับ แต่เราต้องมาปกป้องความถูกต้อง ปกป้องบ้านเมือง และปกป้องอนาคตของลูกหลานของเราครับ ถ้าเราไม่ทำ ถ้าเราปล่อยให้สิ่งเหล่านี้ผ่านไป บ้านเมืองที่ไร้กติกา ก็จะเป็นบ้านเมือง ที่มีแต่ความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น
ผมจึงต้องเตือนพี่น้อง เพราะผมไม่รู้จริงๆ ว่าเขาจะเดินหน้าในรูปแบบไหนอย่างไร ผมรู้แต่ว่า กฎหมายขณะนี้เขาส่งถึงประธานสภาแล้ว ประธานสภาบอกกับเขาว่า ตรวจสอบรายชื่อ ใช้เวลาไม่นาน จะบรรจุระเบียบวาระแล้ว จากนั้นเมื่อบรรจุระเบียบวาระ เขาก็จะให้เสียงข้างมากในสภา เลื่อนกฎหมายนี้ขึ้นมาพิจารณาก่อนกฎหมายฉบับอื่นๆ
พวกผมไม่ยอมหรอกครับ ต้องสู้ จนถึงที่สุด คนแรกที่ผมจะส่งให้ไปสู้คือ รังสิมา รอดรัศมี ถ้ารังสิมา ทำไม่สำเร็จ ค่อยเป็นหน้าที่ของประธานวิป จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ แต่ว่าที่สุดนะครับ เขามีเสียงข้างมาก เขาจะท้าทายครับ เขาจะเอาเสียงข้างมากทำ ถ้าเขาเห็นว่าทำง่าย เขาจะพ่วงไอ้กฎหมายอีก 4 ฉบับ ที่ค้างอยู่แล้ว ที่ไม่ได้นิรโทษกรรมเฉพาะผู้ชุมนุมทางการเมือง หรือคนเผา หรือคนฆ่า แต่จะพ่วงนิรโทษกรรมทักษิณ และคนโกง
ความจริงผมเชื่อครับ ว่าถ้าผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.อาทิตย์ที่แล้ว ไม่เป็นอย่างที่ปรากฏออกมา คือประชาธิปัตย์ชนะ ผมเชื่อว่าป่านนี้เขากล้าเดินหน้าเต็มสูบผลักดันเรื่องนิรโทษกรรม เพราะเขาย่ามใจ เขาคิดว่าอำนาจเงินมี อำนาจรัฐมี กดดันผู้เลือกตั้งได้ แม้แต่ในกรุงเทพฯ ก็จะสามารถนำไปสู่การทำอะไรอีก หลายสิ่ง หลายอย่าง ที่ผมบอกพี่น้องว่า ทำไมเขาถึงบอกว่าไว้ทำหลังเลือกผู้ว่าฯ แต่วันนี้ที่เขาต้องลังเล เพราะพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ได้ไปลงคะแนนด้วยความกล้าหาญ แต่เขาก็ยังจำเป็นต้องเดินหน้า เพราะเขาก็ถูกกดดันจากนายใหญ่ ถูกกดดันจากคนเสื้อแดง คุณสุเทพ ถึงได้พูดไงครับ ว่าเมื่อถึงเวลาที่เขาจะเดินหน้าตรงนี้ สุดท้ายจุดเดียวที่จะหยุดยั้งเขาได้อย่างแท้จริง คือพี่น้องประชาชนผู้รักความถูกต้อง ผมจึงต้องขอคำยืนยันดังๆ ว่า พี่น้องจะร่วมต่อสู้กับเราหรือไม่ (สู้)
วันไหน วันไหนที่เขาเอากฎหมายนี้เข้าสภา เราไม่ไปป่วน เราไม่ไปขัดขวางครับ แต่ขอให้พี่น้องไปเชิงสัญลักษณ์บ้าง สู้ไม่สู้ (สู้) สู้ไม่สู้ (สู้) สู้ไม่สู้ (สู้) เราจะร่วมเดินทาง รักษาความถูกต้อง รักษาประเทศไทย รักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข กราบขอบพระคุณครับ