นักวิชาการแนะออก กม.ลงโทษ ส.ส.เสียบบัตรแทน ชี้ผิดจริยธรรมเหมาะไล่ออก

เลขานุการ กก.จริยธรรมสภาฯ ยัน ส.ส.เสียบบัตรผิดทั้ง กม. และจริยธรรม โทษหนักอาจพ้นจากตำแหน่ง นักวิชาการแนะให้สังคมช่วยประณาม ชี้หากแก้สันดานไม่หายควรออกกฎหมายบังคับให้อายชาวโลก

วันที่ 8 มี.ค. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการจริยธรรมของสภาฯ กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยเสียบบัตรแทนกันในการประชุมสภาฯ วันที่ 7 มี.ค.ว่า ถือว่าเป็นความผิดที่รุนแรงทั้งในแง่กฎหมายและจริยธรรม โดยในแง่กฎหมายต้องไปดูช่องทางว่าจะสามารถเอาผิดในช่องทางใด

ขณะที่ในแง่จริยธรรม มี 2 ขั้นตอน แต่ต้องมีการร้องเข้ามา คือ 1. ช่องทางผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือ 2. คณะกรรมการจริยธรรมของสภาฯ โดยในส่วนคณะกรรมการจริยธรรมของสภาฯ เมื่อรับเรื่องร้องเรียนแล้วจะมีตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการกระทำ หากเป็นความจริงจะมีบทลงโทษตามขึ้นอยู่กับความรุนแรง ตั้งแต่ตักเตือน ว่ากล่าว ไปจนถึงให้ออกจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ตนยอมรับว่าเรื่องจริง เพราะเห็นผู้ที่ถูกเสียบบัตรแทนหลายคนไปอยู่สนามบินเพื่อกลับภูมิลำเนา และบางส่วนยังติดภารกิจดูงานต่างประเทศกับกมธ.ชุดต่างๆ

ด้านนายเจษฎ์ โทณวณิก คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม กล่าวว่า ในแง่ของกฎหมายรัฐธรรมนูญคงไม่มีบทลงโทษที่ชัดเจน แต่สามารถเทียบเคียงได้จากกฎหมายทั่วไปในการตั้งตัวการและตัวแทน โดยในกรณีของการเสียบบัตรของ ส.ส. ไม่สามารถตั้งตัวแทนให้เสียบบัตรได้ เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตัว อย่างเช่นการเสียบบัตรเข้าทำงาน หรือการเช็คชื่อเข้าเรียน ดังนั้นในกรณีของ ส.ส.ที่เสียบบัตรแทนจึงเป็นโมฆะ ถือว่าไม่มีการเสียบบัตรขึ้น หรือยกตัวอย่าง การลงมติในกฎหมาย ก็ถือว่าคะแนนเสียงดังกล่าวเสียเปล่าไป และหากเกิดความเสียหายจากการกระทำดังกล่าว ผู้ที่เป็นตัวแทนของ ส.ส.ที่เสียบบัตร และตัวการหรือ ส.ส.ที่อนุญาตให้เสียบบัตรก็ต้องรับผิดชอบ

นายเจษฎ์กล่าวต่อว่า แม้ในเรื่องความรับผิดทางกฎหมาย และบทลงโทษจะไม่ปรากฏชัดเจน แต่ถือเป็นความผิดในเรื่องจริยธรรม ที่ผู้กระทำจะต้องสำนึก และมีมารยาทที่จะรับผิดชอบ ในฐานะของตัวแทนของประชาชน และต้องใช้มาตรการสังคมลงโทษ หรือหากครูลงโทษนักเรียนที่เช็คชื่อแทนกัน ให้ไล่ออก นักการเมืองที่เสียบบัตรแทนกันก็ควรปฏิบัติในมาตรฐานเดียวกันคือถูกไล่ออกเช่นกัน

“หากในอนาคต ส.ส.ไทยยังไม่เลิกพฤติกรรมดังกล่าว ก็ควรมีการออกกฎหมายพร้อมบทลงโทษเป็นการเฉพาะ เนื่องจาก ส.ส.ของประเทศไทยมีพฤติกรรมเช่นนั้นและแก้ไม่หาย แม้จะต้องยอมให้ทั่วโลกดูถูก ว่าออกกฎหมายที่ออกมาไม่ได้มาตรฐานสากลและหยุมหยิมเกินไป” นักวิชาการด้านกฎหมายระบุ