โจกแดงทิ้งบอมบ์! ชง พ.ร.บ.นิรโทษพวกติดคดีอาญาเข้าสภาพรุ่งนี้ ไม่รอ “เจริญ”

แก๊งแดงแถลงขนชื่อ 20 ส.ส.จ่อชงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 7 มาตราพรุ่งนี้ อ้างช่วยทุกสี งัดคำพิพากษาศาลแพ่งชี้เผาเซ็นทรัลเวิลด์ไม่ใช่ฝีมือสาวก หวังช่วยคนบริสุทธิ์ ยันไม่รวมคนสั่ง เจ้าหน้าที่ คดีแพ่ง แต่ปล่อยผีพวกติดโทษอาญา ลั่นเอาเข้าสภาทันที ไม่รอก๊วน “เจริญ” ถกแล้ว โยน กมธ.วิฯ ตีความให้รวมพวกหมิ่นสถาบันหรือไม่

วันนี้ (6 มี.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 13.30 น. นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย น.พ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และนายคารม พลพรกลาง ทนายกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ร่วมแถลงถึงการจะนำเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ.... ที่มีทั้งหมด 7 มาตรา ต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ในวันที่ 7 มี.ค. เวลา 13.00 น. โดยนายวรชัยกล่าวว่า ส.ส.มีเอกสิทธิ์ที่จะเข้าชื่อ 20 คน เพื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.ต่อประธานสภาฯ เพื่อให้มีการพิจารณาออกกฎหมายได้ ซึ่ง พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะเป็นการช่วยเหลือประชาชนทุกสีทุกฝ่ายที่ถูกดำเนินคดีอาญา ทั้งจากการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลและสนามบินสุวรรณภูมิ ของกลุ่มพันธมิตรฯ หรือกลุ่ม นปช.ที่ถูกแจ้งข้อหาก่อการร้าย ซึ่งคาดว่าจะมีการพิจารณากันภายในสมัยประชุมสภาฯนี้

นายวรชัยกล่าวต่อว่า ขณะนี้ความเป็นจริงได้ปรากฏชัดแล้ว จากการตัดสินของศาลแพ่งที่ระบุว่าการเผาเซ็นทรัลเวิลด์ไม่ได้เป็นการกระทำของผู้เข้าร่วมชุมนุมกลุ่ม นปช. ดังนั้น ตนและเพื่อนสมาชิกรวม 21 คนจึงเข้าชื่อกันเพื่อหวังจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม โดยไม่รวมบุคคลในระดับแกนนำผู้สั่งการ หรือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ตามมาตรา 3 ของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ ที่ระบุว่าให้บรรดาการกระทำใดๆ ของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง หรือการแสดงออกทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. 49 - 10 พ.ค. 54 ไม่เป็นความผิดต่อไปและให้ผู้กระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด และความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง แต่ไม่รวมการกระทำใดๆ ของผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ หรือสั่งการให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง

ด้าน นพ.เชิดชัยกล่าวว่า ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนี้ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย รัฐบาล และ พ.ร.บ.ปรองดอง แต่เพื่อต้องการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาการชุมนุมทางการเมือง และจะได้ยุติความขัดแย้งของคนในสังคม ให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ส่วนการแยกแยะระหว่างผู้ชุมนุม และแกนนำนั้น ก็ดูจากการที่กลุ่มพันธมิตรฯ หรือกลุ่ม นปช.ถูกตั้งข้อหาดำเนินคดีไปแล้ว หรืออย่างกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สองผู้นำ ศอฉ.ได้ถูกดีเอสไอดำเนินคดี ซึ่งรายชื่อในกลุ่มนี้มีอยู่หมดแล้ว

ส่วนนายคารมกล่าวว่า จะเห็นได้ว่ากฎหมายฉบับนี้เขียนไว้อย่างกว้าง ครอบคลุมการนิรโทษกรรมเฉพาะผู้ร่วมชุมนุมที่มีโทษทางอาญา ส่วนเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมก็จะดำเนินคดีทางแพ่งกันต่อไปไม่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งเมื่อผ่านการโหวตวาระ 1 แล้ว คณะกรรมาธิการวิสามัญก็จะการพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง และเห็นว่าหากมีร่างกฎหมายนิรโทษกรรมคล้ายๆ กัน อย่างเช่นแนวทางการออกกฎหมายนิรโทษกรรมของนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ก็จะนำไปพิจารณาในรายละเอียดร่วมกัน ซึ่งก็จะเห็นได้ว่ากฎหมายฉบับนี้เป็นประโยชน์อย่างมาก และหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเห็นด้วย อย่างไรก็ตาม ยืนยันจะเดินหน้าเสนอร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวทันที โดยไม่รอข้อสรุปของการหารือระหว่างนายเจริญกับตัวแทนกลุ่มต่างๆ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 มีนาคมนี้ เนื่องจากตามขั้นตอนการพิจารณากฎหมายสามารถนำมาพิจารณาพร้อมกันในสภาได้

เมื่อถามว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับดังกล่าวจะครอบคลุมถึงผู้ต้องหาคดีหมิ่นฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วยหรือไม่ นายคารมกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการตีความของคณะกรรมาธิการว่าจะเห็นชอบอย่างไร เพราะเราเขียนไว้กว้างๆ ว่าโทษทางอาญา