เผยกำหนดการนายกฯ พร้อมคณะบินมาเลย์ เข้าร่วมการประชุมประจำปีระหว่างไทย-มาเลเซีย พรุ่งนี้ เจ้าตัวกล่าวสั้นๆ พร้อมแสดงเจตนารมณ์ภาพรวมความตกลงทางการเมือง
วันนี้ (27 ก.พ.) เมื่อเวลา 17.45 น.ที่พรรคเพื่อไทย หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมเปิดนโยบายหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งสุดท้าย ก่อนเดินทางออกจากพรรคเพื่อลงพื้นที่หาเสียง ได้ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ถึงกรณีการจะเดินทางไปเยือนประเทศมาเลเซีย โดยที่มีกระแสข่าวว่าจะลงนามในเอกสารที่เรียกว่า “Political Agreement” หรือที่เรียกว่าความตกลงทางการเมือง ว่า “เป็นการแสดงเจตนารมณ์ในภาพรวมเท่านั้น” จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขึ้นรถเพื่อปฏิบัติภารกิจทันที
ทั้งนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทยม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม, นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์, นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย, นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเข้าร่วมประชุมหารือประจำปี ระหว่างไทยและมาเลเซีย (Annual Consultation) ในวันที่ 28 ก.พ. 2556 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
โดยในเวลา 10.45 น.คณะจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ถึงท่าอากาศยาน KLIA Bunga Raya Kompleks กรุงกัวลาลัมเปอร์ จากนั้นเวลา 15.00 น.นายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และเวลา 16.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงว่าด้วยเดินทางข้ามแดน และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านเยาวชนและกีฬา ก่อนจะมีการแถลงข่าวร่วม โดยในเวลา 20.00 น.นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและภริยา เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี ก่อนที่เดินทางออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์กลับประเทศไทยในเวลา 22.00 น.ถึงประเทศไทยในเวลา 23.00 น.
ทั้งนี้ การประชุมหารือประจำปีไทย–มาเลเซีย จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2547 ที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นกลไกระดับนโยบายสูงสุดเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องของไทยและมาเลเซีย และติดตามความร่วมมือสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะความร่วมมือในการแก้ไขสถานการณ์จังหวัดชายแดนใต้ และโครงการพัฒนาด้านเศรษฐกิจตามแนวชายแดน ซึ่งในโอกาสนี้ถือเป็นการเยือนมาเลเซียเป็นครั้งที่ 2 ของนายกรัฐมนตรี ภายหลังการเยือนอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2555 และจะเป็นการพบหารืออีกครั้งภายหลังการหารือทวิภาคีในระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ณ สหพันธรัฐรัสเซียเมื่อเดือนกันยายน 2555 ที่ผ่านมา